ฐิติกร ปรับกลยุทธ์รับเศรษฐกิจชะลอ เข้มปล่อยสินเชื่อ เดินหน้าบุกตลาดอาเซียน ล่าสุดได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการไมโครไฟแนนซ์ในเมียนมา เตรียมลุยเปิด 3 สาขา พร้อมให้บริการสาขาแรกสิงหาคมนี้

นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ฐิติกร หรือ TK ผู้ดำเนินธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดสินเชื่อในประเทศชะลอตัว เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งนโยบายเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยช่วงไตรมาส 1/2561 ที่ผ่านมา ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศ มียอดขายรวม 462,205 คัน ลดลง 0.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาสแรก 2562 มีรายได้เติบโต 2.3% จากประมาณ 957.7 ล้านบาท เป็น 979.7 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่กำไรในไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 112.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยอดลูกหนี้เช่าซื้อรวมของ TK ในไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 9,000 ล้านบาท ลดลง 2.4% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา เทียบกับยอดขายรถจักรยานยนต์ของประเทศที่หดตัว 0.6% เนื่องจากทางบริษัทเร่งตัดหนี้สูญตั้งแต่กลางปี 2561 จนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ บริษัทมุ่งขยายธุรกิจออกจากประเทศไทยไปต่างประเทศ โดยกำหนดเป้าหมายระยะยาวว่าธุรกิจจากต่างประเทศจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเติบโตทางธุรกิจของ TK โดยที่ตลาดในประเทศไทยจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างฐานธุรกิจในอนาคตของ TK ซึ่งประเทศแรกที่ขยายออกไปคือกัมพูชา ขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว 6 สาขา และจะเปิดเพิ่มอีก 6 สาขาภายในปีนี้ ประเทศที่สองคือสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) โดยเปิดให้บริการแล้ว 3 สาขา ที่เวียงจันทน์ หลวงพระบาง และสะหวันนะเขต และภายในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขาที่ปากเซ เชียงขวาง และอุดมชัย

ล่าสุด บริษัทได้รับอนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการไมโครไฟแนนซ์ในสหภาพเมียนมา ภายใต้ บริษัท Mingalaba Thitikorn Microfinance จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,520 ล้านจ๊าด หรือประมาณ 33 ล้านบาท โดยจะเปิดให้บริการ 3 สาขาในมณฑลพะโค หรือ หงสาวดี เพื่อให้บริการทางการเงินให้กับลูกค้าในเมียนมาภายในสิงหาคมนี้ โดยในสิ้นปี 2562 คาดว่าจะมีสาขาในต่างประเทศ 21 สาขา

“กัมพูชานับเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตของสินเชื่อ 144% และอัตราเติบโตของรายได้ 199.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 ซึ่งธุรกิจในกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วน 78% ของธุรกิจต่างประเทศของ TK ทั้งหมด โดยปีนี้คาดว่าจะมีอัตราเติบโตประมาณ 110% ในกัมพูชา สำหรับธุรกิจใน สปป. ลาว ถือเป็นอีกหน่วยธุรกิจที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงรองจากกัมพูชา โดยมีอัตราเติบโตของสินเชื่อ 85% และอัตราเติบโตของรายได้ 64% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 คาดว่าปีนี้อัตราเติบโตของสินเชื่อจะเติบโตประมาณ 75% ส่งผลให้อัตราเติบโตของธุรกิจต่างประเทศของ TK ในกัมพูชาและ สปป.ลาว ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 ให้สอดคล้องแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในการเพิ่มสัดส่วนลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อจากการดำเนินธุรกิจภายในประเทศและจากธุรกิจต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเป็น 50:50 ภายในปี 2563”  นายประพลกล่าว