ในการลงทุน...มีเครื่องมือให้เราเลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งผลลัพธ์หลังจากการลงทุนมี 2 สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้
 

1. กำไร
2. ขาดทุน

กำไรเป็นสิ่งที่ทำใจไม่ยาก ใครๆก็ชอบกำไรมีความสุขจากกำไร จะได้กำไรมากหรือน้อยก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของนักลงทุนมากนัก แต่ช่วงเวลาของการขาดทุนคือจังหวะที่สำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุนว่าจะยอม Stop Loss ที่ตำแหน่งราคาไหนดี จะยอมแพ้ดีหรือจะลุยถือออเดอร์นั้นต่อไปดี ซึ่งในบางมุมมองอาจมีการระบุชัดเจนว่าการใช้SLวิธีไหนถูกต้อง...วิธีไหนผิดหลักการ...แต่ในวันนี้เราลองมาดูข้อได้เปรียบของแต่ละวิธีในการเลือกใช้ SL ( Stop Loss ) กันครับ
  
SL ( Stop Loss ) แต่ละแบบ
1. SLแบบชิด ( A )
2. SLแบบกว้าง ( B )
3. SLไม่มี ( C )
4. SL ปิดที่ต้นทุน ( D )

1. SLแบบชิด ( A ) 
::: หุ้นราคา 10 บาท ยอม SL ที่ 9 บาท :::
การเลือกใช้ SLแบบชิด...วิธีที่จะชนะในSLสไตล์นี้คือ ต้องแม่นยำสูงสัก 80-90% และควรเก็บกำไรมากกว่า 1 บาทหรือ 1-3 บาทขึ้นไปต่อการลงทุนในทุกๆครั้ง และเหมาะกับการเข้าซื้อลงทุนในจังหวะที่กราฟราคาพร้อมจะวิ่งไปเลยทันที หรือหากย่อตัวก็ควรจะย่อเพียงเล็กน้อย

2. SLแบบกว้าง ( B )
::: หุ้นราคา 10 บาท ยอม SL ที่ 5 บาท :::
การเลือกใช้ SLแบบกว้าง...วิธีที่จะชนะในSLสไตล์นี้คือ ต้องแม่นยำสูงสัก 80-90% และควรเก็บกำไรมากกว่า 5 บาทขึ้นไปต่อการลงทุนในทุกๆครั้ง และเหมาะกับการเข้าซื้อลงทุนในจังหวะที่กราฟราคาพร้อมจะวิ่งไปเลยทันที หรือหากย่อตัวก็ไม่ควรเกินระดับความลึกที่ 50% ของราคาหุ้นตัวนั้นๆ...แต่ถ้ามีการย่อตัวลงมาอาจแบ่งเงินทุนซื้อเพิ่ม เช่นซื้อเพิ่มแถวๆ 7.5 บาท 

3. SLไม่มี ( C )
::: หุ้นราคา 10 บาท ไม่มี SL จนกว่าราคาจะเป็น 0 บาท :::
การเลือกใช้ SLไม่มี...วิธีที่จะชนะในSLสไตล์นี้คือ ต้องแม่นยำสูงสัก 99-100% ระยะการเก็บกำไรไม่มีระยะที่ตายตัวสามารถเก็บได้ทั้งสั้นและยาว เช่น 0.5 บาท 1 บาท 5 บาท แต่สิ่งสำคัญคือราคาต้องวกกลับมา...นั้นคือทิศทางต้องแม่นยำสูง แม้ราคาจะย่อตัวลงลึกระดับไหนราคาก็ต้องสามารถวกกลับมาได้ไม่ลงไปถึง 0 เหมาะกับการเข้าซื้อลงทุนในหุ้นที่มีความแข็งแกร่ง ชอบย่อตัวลึกๆแบบเกิน 50% ของราคาหุ้นตัวนั้นๆ...ซึ่งควรแบ่งเงินทุนซื้อเพิ่มเป็นโซนๆ เช่น ซื้อเพิ่มแถวๆ 7.5 บาท 5 บาท 2.5 บาท

4. SL ปิดที่ต้นทุน ( D )
::: หุ้นราคา 10 บาท ยอม SL ที่ 10 บาท :::
การเลือกใช้ SL ปิดที่ต้นทุน...วิธีที่จะชนะในSLสไตล์นี้คือ ต้องแม่นยำสูงสัก 50-80% และควรเก็บกำไรมากกว่า 1 บาทหรือ 1-3 บาทขึ้นไปต่อการลงทุนในทุกๆครั้ง และเหมาะกับการเข้าซื้อลงทุนในจังหวะที่กราฟราคาพร้อมจะวิ่งไปเลยทันที ไม่ควรย่อตัว คือซื้อแล้วราคาต้องวิ่งไปเลยเพื่อที่เราจะได้ปิดSLที่ต้นทุนทันที ถ้าระดับความแม่นยำต่ำก็ต้องเก็บกำไรไกลขึ้น ถ้าความแม่นยำสูงจะเก็บกำไรมากหรือน้อย...ใกล้หรือไกลก็ถือว่าได้กำไรอยู่ดี ต้นทุนจะไปอยู่ที่ค่าคอมมิชชั่น
 

SL ( Stop Loss ) แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญเราต้องเข้าใจสไตล์การลงทุนของเราว่ามีรูปแบบการเข้าลงทุนในลักษณ์หุ้นแบบไหน และหุ้นชนิดนั้นๆมีรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาอย่างไร และสุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การบริหารจัดการหน้าตักเงิน