หลายๆครั้งที่เราลงทุนในหุ้น เราก็มักจะมองหาจังหวะซื้อสวยๆ เข้าซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้นเลย...กะว่าได้กำไรก็จะขายออก หรือกะถือลงทุนยาวๆกันไปเลย เพราะว่ากราฟราคา และอารมณ์ บรรยากาศ พร้อมข้อมูลวงในหุ้นพร้อมจะเป็นขาขึ้นเรียบร้อยแล้ว...แต่แล้วหุ้นก็ไม่ยอมขึ้น รอแล้วรอเล่าก็ไม่ขึ้น ผ่านไป 1 อาทิตย์ 1 เดือน 1 ปี ก็ยังไม่ขึ้น แถมตกเอาๆอีก จนหมดใจท้อใจกับการลงทุนในหุ้นตัวนั้นเสียแล้ว จึงยอมขายออกยอมขาดทุน แต่ไม่นานหลังจากนั้น ผ่านไป 1 อาทิตย์ 1 เดือน 1 ปี หุ้นก็ขึ้นมาอย่างสวยงาม...ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง...ผมเองก็เคยเจอครับ ไม่ต้องเสียใจไปครับ วันนี้เรามาดูวิธีแก้ไขกันครับ
 
 
เพื่อนๆเคยได้ยินคำนี้กันมั้ยครับ "เผื่อใจไว้ก่อน...สำหรับการลงทุนในหุ้น" หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินแล้ว และก็คำนี้ครับ "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจในการลงทุนทุกครั้ง"
 
 

ในการลงทุนมีทั้งความเสี่ยง แต่ในความเสี่ยงนั้นก็มีผลกำไร เราจึงต้องเผื่อใจเอาไว้เสมอก่อนการลงทุน แล้วเราจะทำอย่างไรเพราะส่วนใหญ่เราก็รู้นะว่าการลงทุนมีความเสี่ยง แต่ความหอมหวานของกำไรก็ทำให้เราจัดหนักทุกที...นั้นเพราะว่าการลงทุนเป็นโลกของนามธรรม คือเป็นอะไรที่จับต้องได้ยาก ซึ่งมันไม่ได้เป็นรูปธรรมที่เป็นสิ่งของที่จับต้องได้ง่ายๆ โลกของรูปธรรมมันคือเล่นกับจิตใจของเราได้โดยง่าย ดังนั้นวิธีแก้ไขจึงคือ การสร้างนามธรรมให้ออกมาให้เราเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นเป็นรูปธรรมกันครับ...แล้วเราจะเริ่มทำความเผื่อใจในการลงทุนได้
 
 
อะไรที่จะทำให้เราเริ่มเห็นรูปธรรมได้
สิ่งที่ผมจะใช้นั้นก็คือ เรื่องของฤดูครับ
 

ประเทศไทยมี 3 ฤดู ดังนี้
1. ฤดูร้อน เริ่มประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม
2. ฤดูฝน เริ่มประมาณกลางเดือนพฤษภาคม ถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม
3. ฤดูหนาว เริ่มประมาณกลางเดืนอตุลาคม ถึงประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์

A : คือ ฤดูตามโครงสร้างหลัก ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว
B : คือ ประสบการณ์ที่เราพบเจอมาว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ ฤดูร้อนแต่ฝนตก ฤดูฝนแต่แดดออก ฤดูหนาวแต่ร้อนสุดๆ
C : คือ รูปแบบราคาที่กำลังคาดว่าจะเป็นเทรนขาขึ้น และก็มีรูปแบบเป็นขาขึ้นอย่างสวยงาม
D ,E : คือ ประสบการณ์ที่เราพบเจอมาว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ หุ้นเป็นเทรนขาขึ้น...แต่ไม่ขึ้น ลง ลงและลง และก็กลับตัวขึ้นมาขึ้นได้ หรือลงยาวเลย
 
 
ซึ่งจาก A ถึง E อย่างไรเราก็ยังคงมีความเชื่อความรู้ว่าประเทศไทยก็ยังคงมี 3 ฤดูตาม A อยู่ดี และโครงสร้างนี้ก็ยังคงอยู่ตามธรรมชาติของประเทศไทย ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ การบริหารจัดการว่า ถ้าฤดูร้อนแต่ฝนตก ฤดูฝนแต่แดดออก ฤดูหนาวแต่ร้อนสุดๆ เราจะทำตัวอย่างไรจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเช่นไหร่ หรือถ้าเราได้วางแผนไว้ล่วงหน้าไว้แล้ว เผื่อเหลือเผื่อขาดจากวงจรตามปกติไว้แล้ว เราก็แค่ประครองชีวิตให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่คาดเคลื่อนไปให้ได้ หากพูดให้เห็นภาพในการลงทุนก็คือ เราต้องบริหารจัดการหน้าตักเงินทุนของเราให้ทนต่อสภาวะที่ตลาดไม่ไปตามทิศทางที่เราคาดหวังไว้ให้ได้ นักลงทุนบางคนอาจเลือกวิธี CutLoss หรือบางคนไม่ CutLoss เลือกวิธีเติมเงินทุนเข้าไปเพิ่ม หรือบางคนเลือกวิธีคำนวณเงินทุนหน้าตักไว้ตั้งแต่แรกไว้แล้วว่าจะมีส่วนเผื่อให้สามารถทนต่อการโดนตลาดลากไปผิดทางได้เท่าไหร่จนกว่าราคารจะวกกลับมาที่ต้นทุนของเรา ทั้งหมดขึ้นกับแผนกลยุทธ์การเทรดของแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับเทคนิคและประสบการณ์การเรียนรู้ความถนัดของแต่ละบุคคล...แต่สิ่งที่หลีกหนีไม่ได้เลย คือเรื่องของสภาวะจิตใจที่จะสามารถทำตามแผนกลยุทธ์การเทรดที่ออกแบบมาได้หรือไม่เมื่อพบกับสถานะการณ์หน้างานจริงๆ...ดังนั้นการเผื่อใจเอาไว้ก่อนเสมอก่อนการลงทุนในทุกๆครั้งคือ อย่านำเงินทั้งหมดของชีวิตมาลงทุน แต่หากมีความมั่นใจในการลงทุนในครั้งนี้มากๆก็ให้ทำใจเผื่อไว้เวลาผิดหวังไว้เสมอ ผลลัพธ์จะออกมาเช่นไรก็อย่าให้มันมาทำลายชีวิตของเราได้...ลุกขึ้นแล้วก้าวเดินต่อไปอย่างมีสติ