#วางแผนการเงิน

ไม่มีเงิน...เล่นหุ้นไม่ได้จริงหรือ? DCA อาจเป็นคำตอบ

โดย ชานน รุ่งเรืองไพฑูรย์
เผยแพร่:
274 views

ผมได้ยินหลายคนบอกว่าสนใจอยากจะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น แต่ติดตรงที่บอกว่าตัวเองไม่มีเงิน ก็เลยได้แต่บอกตัวเองว่างั้นรอให้มีเงินก่อนก็แล้วกัน

ผมอยากจะบอกว่าถ้าจะรอก็จงรอต่อไป เพราะคําว่าไม่พร้อมนั้น มันไม่พร้อมเสมอ ตราบใดที่ใจเราไม่กล้าที่จะเริ่มจริงๆ

นี่เป็นปัญหาของคนที่เพิ่งเริ่มต้นเก็บเงิน (หรือบางคนชีวิตนี้ไม่เคยเก็บเงินเลย) พอถึงเวลาจะลงทุนก็คิดว่าสายไปเสียแล้ว คนอื่นเค้าเก็บเงิน กันมานาน ไอ้เราไม่เคยสนใจ ใช้มันอย่างเดียว ไม่มีเงินก้อนก็ลงทุนไม่ได้

“เงินก้อน” เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าต้องมีถึงจะค่อยลงทุนได้ ถ้า ไม่มีก็คงอด แล้วไอ้เงินก้อนที่ว่านี่มันควรเท่าไหร่ล่ะ? แสนนึงเรียกว่าเงินก้อนไหม? หรือบางคนบอกว่าน้อยไป ต้องล้านนึง อีกคนบอกไม่ได้หรอก มันต้องสิบล้าน

โอเคผมยอมรับความจริงว่าคนที่มีเงินเยอะกว่าย่อมได้เปรียบกว่า เพราะนี่คือโลกของทุนนิยม

แล้วยังไงต่อล่ะ? ถ้าไม่มีเงินก้อนก็ตัดใจไปเลยงั้นหรอ? ผิดครับ!

สําหรับคนที่ยังมีเงินไม่เยอะ ผมมีความเห็นว่าคุณควรจะมองข้าม เรื่องการเก็งกําไรระยะสั้น หรือกลาง หรืออะไรก็แล้วแต่ไปก่อนเลย เพราะ มันมีวิธีลงทุนอยู่วิธีหนึ่งที่ผมคิดว่าทุกคนทําได้ไม่ว่าจะเงินก้อนเล็กหรือก้อนใหญ่ สุดท้ายมันก็จะกลับมาสู่วิธีนี้ เรียกว่า Back to Basic

วิธีที่ว่านี้มีมานานแสนนานแล้วจนคลาสสิกไปแล้ว เค้าเรียกว่า DCA ย่อมาจาก Dollar Cost Average

วิธีการ DCA ก็คือการที่เราตั้งเป้าซื้อหุ้นตัวหนึ่งโดยกําหนดจํานวนเงินที่แน่นอนในการเข้าซื้อในแต่ละเดือน เหมือนค่อยๆ ฝากเงิน ทุกๆ เดือน ในอัตราที่สม่ำเสมอ แปลว่าถ้าหุ้นแพงขึ้น เราก็ซื้อได้น้อยลง ถ้าหุ้นถูกลง เราก็ซื้อได้เยอะขึ้น จินตนาการตามดีๆ นะครับว่าหากเราซื้อไปสักพักใหญ่ๆ แล้ว เราก็จะมีจํานวนหุ้นที่มากขึ้น แต่ในแต่ละครั้งที่เราซื้อทุกเดือนอย่าง สม่ำเสมอนั้นก็จะมีราคาที่เฉลี่ยกันแตกต่างออกไปเดี๋ยวแพงกว่าเดิม เดี๋ยว ถูกกว่าเดิม

DCA หุ้น SET ตลาดหลักทรัพย์

DCA จึงเป็นการลงทุนระยะยาวอย่างแท้จริง เพราะเป็นการที่เรา ซื้อหุ้นเหมือนการออมไปเรื่อยๆ ในระหว่างทางถ้าหุ้นเติบโต เราก็จะโตไป กับหุ้น พร้อมทั้งได้ปันผล เมื่อเวลาผ่านไป เราก็จะได้เงินก้อนที่เราสะสม และออมมา แปลว่าการออมหุ้นแบบ DCA นั้นมีรายได้ 2 ทาง คือ

1. Dividend yield หรือปันผล ระหว่างทางเราจะได้ Passive Income เป็นปันผลเรื่อยๆ ในระยะที่ออม และจะมากขึ้นตามจํานวนหุ้นที่ เราซื้อมาตลอดทาง

2. Capital Gain หรือส่วนต่างจากราคา แต่ส่วนนี้เราจะถือว่าเป็น กําไรไม่ได้ จนกว่าเราจะขายออกมาเท่านั้น แปลว่าในระหว่างทาง เราจะ เห็นจํานวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เราจะไม่สามารถคํานวณ Net Proft ได้ จนกว่าจะขายทิ้งออกมาทั้งหมด ถึงจะเรียกว่า Realized Profit

ส่วนตัวผมแล้วผมว่า DCA เป็นวิธีที่ง่ายและเวิร์คที่สุดสําหรับคน ลงทุน แต่ปัญหาก็คือคนส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้ไม่นานพอ เวลาราคาหุ้นลงมักจะ ทําใจไม่ได้ ทั้งที่จริงๆ แล้วหากคุณต้องการจะลงทุนแบบ DCA คุณควรจะเข้าใจคอนเซ็ปต์ของวิธีการนี้ให้ชัดเจนก่อน ถ้าคุณเข้าใจ แล้วคุณจะเข้าใจว่าระหว่างทางนั้นราคาไม่ใช่ประเด็นในการออม DCA เลย เพราะเราต้องมี วินัยในการซื้ออย่างต่อเนื่อง แปลว่าถ้าหุ้นที่เราเลือกแล้วดีจริงๆ ระยะยาว ราคาจะสะท้อนในทางบวกขึ้นไปเรื่อยๆ ต้นทุนที่เราซื้อมาเสมอในระยะยาว ก็จะสะท้อนในทางบวกเช่นกัน

มีผู้ใหญ่ท่านนึงที่ผมสนิท เคยเปรียบไว้ว่า DCA ก็เหมือนเราเห็นเหล้าดีๆ ขวดหนึ่ง แต่เราไม่มีปัญญาซื้อ แต่เราสัญญากับตัวเองว่าจะเก็บเงิน เดือนละเท่าเดิมอย่างสม่ำเสมอ เก็บไปเรื่อยๆ ทุกเดือนแบบมีวินัย จนเงินที่เราเก็บมีมากพอที่จะซื้อเหล้านั้นได้ สุดท้ายก็เปิดฉลองในตอนจบ!


นักลงทุนยังบลัดไฟแรง ที่อายุยังน้อยแต่ชั่วโมงบินสูง เพราะตกหลุมรักตลาดหุ้นตั้งแต่เรียนชั้นมัธยม ผ่านการเทรดทั้งในตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์มาแล้ว และชื่นชอบจิตวิทยาการลงทุนและศาสตร์แห่งเทคนิคคอลเป็นอย่างมาก และยังแบ่งปันประสบการณ์ให้กับนักลงทุนรายย่อยผ่านผลงานหนังสือ Best Seller "เทรดเดอร์ 3 ขา" พร้อมกับคอนเซ็ปต์ส่วนตัวเท่ห์ๆ ในชื่อ “Inspiration Investor”

 

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง