VGI Group ทำรายได้-กำไร ทุบสถิติ เพิ่มขึ้น 30% ผลจากกลยุทธ์ O2O Solutions ผสานทุกแพลตฟอร์มทุกธุรกิจ ดันยอดเติบโต ขยายแนวรบสื่อใหม่ ใส่ปัญญาประดิษฐ์ ตั้งเป้าผู้ใช้ Rabbit Card พุ่ง 15 ล้านใบ คาดรายได้ปีนี้พุ่ง 6,000 ล้าน รับอานิสสงส์รถไฟฟ้าสายใหม่ 10 ขบวน
นายเนลสัน เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2561/62 ทำรายได้เติบโตเหนือความคาดหมาย ด้วยรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 31.0% เป็น 5,158 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงกว่า 1,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.1% จากปีก่อน ซึ่งความสำเร็จนี้มาจากการผสมผสานกลยุทธ์ O2O Solutions ที่นำจุดแข็งของแต่ละแพลตฟอร์มมาสร้างสรรค์และต่อยอดทางธุรกิจ
ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของกลุ่มวีจีไอ ประกอบด้วย ธุรกิจสื่อโฆษณา โดยในปี 2561/62 สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน ทำรายได้ 2,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราการใช้สื่อมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อโฆษณาประเภทดิจิทัลและพื้นที่ร้านค้าบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและอื่นๆ มีการเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น มีรายได้ 414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% และยังคงความเป็นผู้นำในตลาดนี้ด้วยจำนวนอาคารภายในการบริหารทั้งสิ้น 180 อาคาร สำหรับสื่อโฆษณากลางแจ้งทำรายได้เพิ่มขึ้น 12.6% เป็น 1,079 ล้านบาท มาจากการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องของสื่อโฆษณาดิจิทัลบิลบอร์ดจำนวน 35 จอ ที่ได้เปิดตัวเมื่อเดือนก.ค. 2560 ของบริษัท MACO
นอกจากนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา VGI ได้เข้าถือหุ้นจำนวน 18.6% ในบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) (PlanB) ผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกบ้าน ด้วยมูลค่าลงทุนที่ 4,260 ล้านบาท ทำให้ทั้งสองบริษัทเป็นผู้นำตลาดสื่อนอกบ้านของประเทศไทย ด้วยมูลค่าสื่อรวมกันกว่า 12,000 ล้านบาท รวมทั้งได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อว่า VGI AnyMind Technology Company Limited ร่วมกับ AnyMind ผู้นำธุรกิจสื่อโฆษณาที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างมูลค่าเพิ่มและยังเป็นผู้นำธุรกิจด้านการตลาดเชิงอิทธิพล (Influencer Marketing) โดย VGI ถือหุ้น 49% และถือหุ้น 49% ในบริษัทร่วมทุน VClick Technologies Limited โดย iClick Interactive Asia Group Limited ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเทคโนโลยีการตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ใช้ข้อมูลผ่านเทคโนโลยี AI พัฒนาแอปพลิเคชั่นมือถือและเปิดตัวเครื่องบริการชาร์จมือถือพร้อมจอแสดงผลแบบดิจิทัล ผ่านเครือข่ายของ VGI จำนวน10,000 จุดทั่วประเทศไทย
สำหรับ ธุรกิจบริการชำระเงิน มีรายได้ทั้งสิ้น 1,311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 246.8% สาเหตุหลักมาจากการควบรวมงบการเงินของกลุ่มทรานส์ แอด ผู้ให้บริการด้านงานระบบแบบครบวงจรโดย MACO รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มแรบบิท โดยในปีนี้จำนวนผู้ใช้ Rabbit Card มีจำนวนทั้งสิ้น 11 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 23% บรรลุตามเป้าหมายสำหรับปีที่ตั้งไว้ที่ 10.5 ล้านใบ รวมทั้ง Rabbit LinePay ที่ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่า 5.5 ล้านราย เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านคน หรือ 83% ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้สูงกว่าเป้าหมายเต็มปีที่ตั้งไว้ที่ 5.3 ล้านราย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของการขยายเครือข่ายผู้ใช้อย่างต่อเนื่องและได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรรายใหญ่อย่าง บีทีเอส กรุ๊ป (“BTS”) ผู้นำการให้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และ AIS ผู้นำอันดับ 1 ระบบสื่อสารโทรคมนาคม
ด้านธุรกิจโลจิสติกส์ VGI ถือหุ้น 23% ของ Kerry Express (Thailand) ผู้นำอันดับหนึ่ง ในการให้บริการจัดส่งพัสดุไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยเงินลงทุน 5,901 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน Kerry สามารถส่งได้ถึง 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง O2O Ecosystem ที่ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มธุรกิจของ VGI ทั้งการโฆษณา การชำระเงิน และโลจิสติกส์ นอกจากนี้เรายังได้เปิดตัวสื่อใหม่บนรถบรรทุกของ Kerry จำนวน 300 คัน ที่วิ่งให้บริการทั่วกรุงเทพและปริมณฑล โดยลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า 10.8 ล้านคนต่อวัน ปัจจุบัน Kerry ยังมีการเปิดร้านให้บริการรับส่งพัสดุบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้วจำนวน 2 สถานี ได้แก่ พร้อมพงษ์ ทองหล่อ และมีแผนจะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย
นายเนลสัน กล่าวว่า ปี 2561/62 ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จและสามารถสร้างรายได้ทุบสถิติใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของกลยุทธ์ O2O Ecosystem โดยในปี 2562/63 เราคาดการณ์การเติบโตที่ประมาณ 20% โดยมีเป้าหมายรายได้รวมอยู่ที่ 6,000 – 6,200 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจโฆษณาจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนรถไฟฟ้าใหม่ 10 ขบวน และมีแผนการขยายจำนวนบัตร Rabbit และ จำนวนผู้ใช้ Rabbit LinePay อย่างต่อเนื่อง โดยเราคาดว่าจำนวนบัตร Rabbit จะเพิ่มขึ้น 36% จาก 11 ล้านเป็น 15 ล้านใบ ในขณะที่จำนวนผู้ใช้ Rabbit LinePay จะเพิ่มขึ้น 45% จาก 5.5 ล้านราย เป็น 8 ล้านราย