"ถ้าอยากเจ๊งหุ้นให้ซื้อหุ้นขาลง ..."
คำพูดนี้อาจจะเหมาะกับสถานการณ์ในเวลาแบบนี้ที่ตลาดหุ้นตกลงมาอย่างหนัก แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ถือว่าเป็น"โอกาส" สำหรับนักลงทุนที่อยากจะสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
คำถามสำคัญ คือ ตลาดหุ้นเราเป็น Bear Market หรือเข้าสู่ขาลงรอบใหญ่แล้วหรือไม่ .. ? ตามตำราบอกไว้ว่าตลาดหุ้นลง 20% ภายในเวลา 2-5 เดือน เราจะเรียกตลาดนั้นว่า "Bear Market" ถ้าเราให้ SET Index อยู่ที่ 1,700 จุด ของรอบ
ถ้าลง 20% นั้นหมายความว่า SET Index จะอยู่ราวๆ 1,360 จุด ซึ่งการลงมาอยู่ในระดับ 1,620 จุด เราจะเรียกว่าการ "ปรับฐาน" เท่านั้น
== อะไรคือสาเหตุการปรับฐานรอบนี้ ==
ถ้าใครที่ตามข่าวจะรู้ว่าประเทศไทยกังวลอยู่ 2 อย่าง คือ ..
1. สงครามการค้า ที่เรียกกันว่า Trade War (บางคนเรียก Tech War)
2. การเมืองไทย ที่ยังดูไม่ชัดเจน
ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้ ยังคาดเดาผลลัพธ์ไม่ได้ แต่เชื่อว่าอย่างหลังน่าจะเป็น "ปัจจัย" ที่นักลงทุนดูจะกังวลมากกว่า
== เราจะ "ลงทุน" อย่างไรในสภาวะตลาดแบบนี้ ==
ประวัติศาสตร์บอกเราไว้เสมอว่า การลงของตลาดหุ้น ท้ายที่สุดแล้วจะกลับขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ได้เสมอ ดังนั้นถ้าใครเป็นนักลงทุนระยะยาว การลดลงของตลาด คือ "โอกาส" ที่จะสร้างพอร์ตโฟลิโอให้เรามั่งคั่งในระยะยาว
ในบทความของ The Motley Fool เรื่อง How to invest in Bear Market for Long team Investor กล่าวไว้ 3-4 ประเด็นสำหรับนักลงทุนระยะยาวไว้ว่า ...
1. ราคาหุ้นลงมามากขนาดไหน จากจุดสูงสุุด
2. หุ้นมี "มูลค่า" ถูกเพียงพอตามความต้องการของเรา เราอาจจะดูในเรื่องของ P/E P/BV อัตรากำไรสุทธิ หนี้สินต่อทุน และที่สำคัญคือ "ธุรกิจ" ยังไปต่อได้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้าหรือไม่
3. อย่าลืม "ปันผล" บริษัทที่เราจะลงทุน ต้องมีปันผลที่สมเหตุสมผลเพียงพอ
4. อย่ากู้เงิน หรือใช้ Margin มาซื้อหุ้น ให้ลงทุนตามสถานะที่เรามี
== สรุป ==
สำหรับนักลงทุนระยะยาวแล้ว เราควร "ลงทุน" เก็บหุ้นเข้าพอร์ตในช่วงที่หุ้นโดนถล่มอย่างหนัก ไม่ควรหลีกหนีออกจากตลาดไปซะก่อน แต่ก่อนจะถึงจุดซื้อหุ้นได้นั้นมีสิ่งที่ต้องคิด คือ ราคาหุ้นลงมามากน้อยแค่ไหน หุ้นมีมูลค่าถูกเพียงพอหรือไม่ ธุรกิจของบริษัทจะยังดีอยู่อีกไหม และมีปันผลที่น่าสนใจหรือเปล่า