BEAUTY รายได้-กำไรไตรมาสแรกวูบ
BEAUTY เผยผลประกอบการ Q1/62 รายได้ 548.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 69.6 ล้านบาท ทรุดหนัก เร่งปรับกลยุทธ์จัดโครงสร้างการจำหน่าย เดินหนักรุกตลาดต่างประเทศ ป้องกันความเสี่ยงตลาดในประเทศ
นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/62 บริษัทมีรายได้รวม 548.7 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 904.9 ล้านบาท หรือ ลดลง 39.4% และมีกำไรสุทธิ 69.6 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 282.4 ล้านบาท หรือ ลดลง 75.4 %
ทั้งนี้ ผลประกอบการปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดในประเทศเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อกระแสข่าวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางของบริษัทอื่นๆไม่ผ่านมาตรฐาน อย. ส่งผลกระทบให้ฐานลูกค้ารายย่อยระมัดระวังการซื้อมากขึ้น แต่ในระยะยาวถือว่าเป็นผลดีต่อบริษัทเพราะสินค้าของบริษัทผลิตถูกต้องมีเลขที่จดแจ้งที่ได้รับการรับรองจาก อย. ทุกรายการ อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในช่วงที่ผ่านมาลดลงเป็นจำนวนมากส่งผลให้ยอดซื้อลดลง
ด้านตลาดต่างประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากกระแสข่าวเรื่อง อย. ปราบปรามสินค้าไม่ได้มาตรฐานของบริษัทอื่น ทำให้การส่งออกสินค้าทุกประเภทไปประเทศจีนล่าช้า ลูกค้าขายส่งของบริษัทต้องใช้ระยะเวลาในการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายยาวนานกว่าเดิม ประกอบกับประเทศจีนมีการออกกฎหมายใหม่ เก็บภาษีสินค้าออนไลน์ อย่างไรก็ตามธุรกิจ BEAUTY ยังคงขยายตัวได้ดี และมีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยังได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากตัวแทนจำหน่ายประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสินค้า BEAUTY ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคจีนและมีความต้องการเพิ่มขึ้น
บริษัทได้ดำเนินการปรับกลยุทธ์เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า อาทิ Cross Boder E-commerce และ ช่องทางตลาดหลัก (General Trade) ประกอบด้วยช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ในตลาดทั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน(Mainland China) รวมถึงแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศอื่นๆที่มีศักยภาพเพื่อสร้างยอดขายในตลาดต่างประเทศเติบโต
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/62 และปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อมั่นว่าในปีนี้จะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้มากกว่า 20% และรักษาอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 25% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 60% ต่างประเทศ 40% โดยการปรับกลยุทธ์โครงสร้างการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ มุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้โดยขยายธุรกิจช่องทาง Non Retail ในประเทศ เดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ดีต่อเนื่อง เนื่องจากช่องทางดังกล่าวมีต้นทุนดำเนินการที่ต่ำ และเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงลดการพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไปโดยขยายสัดส่วนการขายช่องทางต่างๆเพิ่มขึ้น