ถ้าชีวิตคือเกมอะไรสักอย่าง และจุดหมายคือไปสู่อิสรภาพทางการเงิน
ผมคิดว่ามันมีอยู่ 3 ด่านที่เราต้องผ่านให้ได้
หนึ่ง หาเงินให้เก่ง
สอง เก็บเงินให้อยู่
สาม ลงทุนจากเงินเก็บนั้นให้งอกเงย
.
ด่านแรก “หาเงินให้เก่ง”
ในอาชีพเดียวกัน มีคนมีรายได้ตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้าน ถามว่าเพราะอะไร?
ก็เพราะโลกนี้จ่ายเงินตามความสามารถ ไม่ใช่ชื่ออาชีพที่เราทําอยู่
วิธีแก้คือ คุณต้องหาความรู้เพิ่ม เรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างความแตกต่าง
อย่าเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ ที่ฝีมือธรรมดา แถมยังไม่ตั้งใจทํางานอีก
.
ด่านที่สอง “เก็บเงินให้อยู่”
หลายคนผ่านด่านแรกมาได้ แต่มาตายด่านนี้
เป็นได้ยังไงที่บัญชีธนาคารคนเงินเดือนแสน มีเงินเก็บน้อยกว่าคนเงินเดือนหมื่น?
เฉลย : เพราะบางคนหาเงินเก่ง แต่ใช้เงินเก่งกว่า
วิธีแก้คือ คุณต้องรู้จักสมการนี้
“เหลือจ่ายค่อยเอามาเก็บ = ชีวิตนี้ยากจน”
แต่ถ้า “เหลือเก็บค่อยเอาไปใช้ = ชีวิตนี้จนยาก”
ใครเก็บเงินไม่อยู่ ผมแนะนําให้เปิดอีกบัญชี
แล้วสังธนาคารตัดเงินอัตโนมัติเข้าบัญชีนั้นทุกวันที่ 1 จะเดือนละพัน เดือนละหมื่น ก็แล้วแต่กําลังศรัทธา
.
ด่านสุดท้าย “ลงทุนจากเงินเก็บนั้นให้งอกเงย”
ด่านนี้น้อยคนที่จะฝ่าไปได้ นอนสลบจบสนิทมาหลายราย
บางคนกล้ามาก ไปลุยเล่นหุ้นเอง เพราะได้ “หุ้นเด็ด” มา
สุดท้ายกลายเป็น “หุ้นเด็ดวิญญาณ”
วิธีแก้คือ ถ้าคุณมีเวลาและความสามารถ
คุณต้องศึกษาเรียนรู้ก่อนจะลงทุน
แต่ถ้าคุณไม่มีเวลา ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องลงทุน
เดี๋ยวนี้ง่ายมากจนคนยุคก่อนมองค้อนด้วยความอิจฉา
.
ครับ! ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงต้องเป็นระดับเจ้าสัว
ธนาคารถึงมาดูแลอย่างดี แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรวยร้อยล้าน
หลายธนาคารก็พร้อมบริการการเงินส่วนบุคคล
มีผู้จัดการการเงินส่วนบุคคลและที่ปรึกษาทางการเงินมาให้คุณ
คุณแค่เอาเงินมาวาง เดี๋ยวเขาดูแลเรื่องการลงทุนให้
จะออมทรัพย์ ตราสารหนี้ ตราสารทุนประกันชีวิต เขาจัดพอร์ตให้หมด
.
3 ด่านนี้ผมไม่ได้บอกว่ามันง่าย
เพียงแต่จะบอกว่ายุคนี้โอกาสทุกอย่างมันเอื้อเราจริง ๆ ไม่มีครั้งไหนในประวัติศาสตร์ที่คนตัวเล็กๆ จะมีโอกาสเท่านี้
.
ทั้งโอกาสในการหารายได้ โอกาสในการเก็บเงิน และโอกาสที่จะมีคนมาช่วยดูแลการลงทุน มาจัดพอร์ตให้
ที่เหลืออยู่ที่ตัวคุณเองแล้วล่ะครับ ว่าจะมีความพยายามจนผ่านด่านทั้งสามนี้ไปได้หรือไม่
หาเงินให้เก่ง เก็บเงินให้อยู่ ลงทุนจากเงินเก็บนั้นให้งอกเงย เพียงเท่านี้
อิสรภาพทางการเงินก็รอคุณอยู่ไม่ไกล
"วิสูตร แสงอรุณเลิศ"