#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

CDS (Credit Default Swap) ระเบิดเวลาในโลกการเงิน

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
81 views

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน หากย้อนเวลาไปใครที่พอจะจำเหตุการณ์วิกฤตทางการเงินของ สหรัฐฯ ได้จากวิกฤตธรรมดา ที่ลุกลามไปยัง เศรษฐกิจโลก หรือที่เราคุ้นหูกันดีว่า วิกฤตสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (Sub Prime)  ทำไมอยู่ๆ จึงกลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจโลกอะไรคือตัวกระตุ้น วันนี้จะมาเล่าให้ฟังกันครับ

 

วิกฤตการเงินปี 2008 เป็นวิกฤตการเงินใหญ่ที่ผสมผสาน หลายเรื่องไว้ด้วยกันแต่ต้นตอสาเหตุที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องวิกฤตสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ (Sub Prime) เองจากวิกฤตนี้ลุกลามกลายเป็นวิกฤตสถาบันการเงิน และ ปัญหาของสินเชื่อในระบบเพราะมี นวัตกรรมทางการเงินที่เหมือนดาบสองคมยิ่งเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก ซึ่งนวัตกรรมทางการเงินนี้ มันพิเศษและซับซ้อนมากเพราะถูกออกแบบมาเป็นนวัตกรรมในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อที่จะเข้ามาจัดการกับปัญหาสินเชื่อเน่าที่มีอยู่ในระบบแต่ไม่ได้เป็นอย่างงั้นครับ กลายเป็นระเบิดที่สะสมมานาน และ การรับประกันความเสี่ยง แต่ผมจะเรียกมันว่า ตราสารขยะพิษนะครับ (Toxic Waste Security)

 

การรับประกันความเสี่ยง

ถ้าใครเคยดูงบการเงินขององค์กรณ์ใหญ่ ๆ จะเห็นจากในงบการเงินว่าสินทรัพย์ที่มีส่วนใหญ่นั้นเป็นสนิทรัพย์ทางการเงินและมูลค่าของมันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา หรือมีความผันผวนมาก เราจึงเคยเห็นข่าวเวลาที่ระบบการเงินของประเทศไหนมีปัญหา จะมีสถาบันการเงินใหญ่ๆ ล้มละลายเพียงชั่วพริบตา เช่น กองทุนแอลทีซีเอ็ม (Long Term Capital Management Fund ) เป็นกองทุน เฮดจ์ฟันด์ที่ล้มละลายในปี 1998 จากากรลงทุนที่มีความเสี่ยง,ธนาคารแบริ่งซึ่งเป็นธนาคารที่มีชื่อเสียงของอังกฤษล้มละลายในปี 1994 การล้มละลายของ ธนาคารใหญ่ๆ หรือกองทุนใหญ่ๆ ที่ผ่านมาทุกท่าน เคยตั้งคำถามกันมั้ยครับว่า ประเทศเหล่านี้ จะจัดการยังไงกับความเสี่ยงเหล่านี้จะมีธนาคารล้มละลายอีกมั้ย

 

CDS (Credit Default Swap) เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองผู้ที่ต้องการการรับประกันความเสี่ยงจากความน่าเชื่อถือ (นี่แหละตัวการสำคัญ) อนุพันธ์ทางการเงินชนิดนี้เป็นต้นเหตุของการขาดทุนในบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่อย่าง AIG จนเกือบล้มละลายในวันที่ 16 กันยายน ปี 2008 และสถาบันการเงินระดับโลกหลายๆ แห่งทำให้บริษัทประกันภัยในญีปุ่นและยุโรปอีกหลายๆ แห่งประสบปัญหาตามมา CDS จึงเปรียบเสมือนระเบิดลูกใหญ่ที่รอวันระเบิดอยู่ตลอดเวลา CDS ถ้าจะให้อธิบายง่าย ๆ ผู้ซื้อ CDS จะได้กำไรก็ต่อเมื่อเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้หลักทรัพย์ที่ตนถือไว้มีความน่าเชื่อถือน้อยลง (หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกหนี้  “ผู้ออกหุ้นกู้” ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายหนี้ได้นั่นเอง CDS เฟื่องฟู่อย่างมากแบบไม่น่าเชื่อ (สถาบันการเงินกลุ่มนี้ต่างก็รู้ดีอยู่แล้วว่าสหรัฐฯ มีปัญหาเรื่องสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ Sub Prime อยู่แต่ก็ยังพัฒนาตราสารอนุพันธ์ชนิดนี้ขึ้นมาและผลักภาระไปหาสถาบันการเงินอีกกลุ่มหนึ่ง) พูดง่ายๆ คือผลักภาระไปให้กลุ่มสถาบันการเงินอีกกลุ่ม  ผู้ขาย CDS ส่วนใหญ่เป็นกองทุนและสถาบันการเงิน และได้ด้รับค่าธรรมเนียมจากการขายอีกด้วย แต่จะได้กำไรก้อนใหญ่ก็ต่อเมื่อ ผู้ที่ซื้อ CDS เจ๊ง ส่วนบริษัทประกันภัยส่วนใหญ่ได้รับเบี้ยประกันจากลูกค้า (CDS เป็นที่นิยิมมากในบริษัทประกันภัยขนาดใหญ่) สถาบันการเงินต่าง ๆ ก็กระโดดเข้ามาเป็นผู้ให้ประกันเพราะหวังค่าธรรมเนียมจากการขาย CDS และไม่คาดคิดว่าจะเกิดปัญหาสินเชื่อขึ้น.......

 

ในขณะเดียวกันตราสารอีกชนิดหนึ่ง MBS และ CMO ถูกซื้อไว้แทบทุกแห่งในสหรัฐฯ และ ยุโรป เพราะเป็นตราสารที่มีความมั่นคงแต่ดอกเบี้ยต่ำ สถาบันการเงินจึงพากันซื้อไว้และเป็นที่นิยมต่อมาสถาบันการเงินกลุ่มนี้ และสถาบันการเงินกลุ่มนี้ ก็ได้ผลักภาระไปให้สถาบันการเงินอีกกลุ่มหนึ่งโดยพัฒนา CDS ขึ้นมาเพื่อป้องกันความเสี่ยง ทั้ง ๆ ที่สถาบันการเงินกลุ่มนี้ต่างก็รู้ดีว่าปัญหาของสหรัฐฯ ในขณะนั้นคือปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์  ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแทบติด ศูนย์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรทั้งกลับกลายเป็นว่ายิ่งเติมเชื้อไฟเข้าไปอีกที่ช่วยเพิ่มความละโมบโลภมากของคนที่คิดว่าเศรษฐกิจดีผู้คนต่างพากันซื้อข้าวของบางคนไม่ซื้อเงินสดเลยด้วยซ้ำ

 

สรุป

ถ้าทุกท่านลองทำความเข้าใจ จะเหมือน Money Game ใครเจ๋งกว่าก็อยู่รอด เห็นมั้ยละครับว่า CDS (Credit Default Swap) เปรียบเสือนดาบสองคม ทุกท่านลองทำความเข้าใจกันดูนะครับว่าคล้ายๆ กับประเทศเราที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือไม่ ที่มี นโยบายในเรื่องของ สินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ดอกเบี้ยที่ต่ำ แต่ในสภาวะความเป็นจริง ค่าแรงเท่าเดิม ขณะที่เงินเฟ้อเร่งตัว ภาคธุรกิจเองก็ไม่มีความสามารถที่จะจ้างแรงงานด้วยค่าแจ้งที่แพง....บ้านเราก็มี CDS นะครับ ระวังไว้ให้ดี.....

 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง