#แนวคิดด้านการลงทุน

บริหารหน้าตักการลงทุนหุ้น แบบไหนที่ทำให้พอร์ตมีประสิทธิภาพ

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
97 views

ในการบริหารหน้าตักการลงทุน โดยปกติเราจะมีอยู่ 2 แบบในการจัดสรรเงินลงทุนในแต่ละส่วนดังนี้
1. แบบเท่ากันทุกๆสัดส่วนการลงทุน
2. แบบทบมากขึ้นไปเรื่อยๆจากสัดส่วนการลงทุนที่เริ่มต้น

ซึ่งผมจะนำเสนอวิธีที่แตกต่างออกไปให้อีก 2 วิธีครับ
3. แบบเท่ากันทุกๆสัดส่วนการลงทุน แต่เว้นระยะที่คิดว่าจะซื้อออกไป 1 ท่อน
4. แบบทบมากขึ้นไปเรื่อยๆจากสัดส่วนการลงทุนที่เริ่มต้น แต่เว้นระยะที่คิดว่าจะซื้อออกไป 1 ท่อน

มันคืออย่างไรกัน...แล้วช่วยเสริมประสิทธิภาพอย่างไรให้พอร์ตการลงทุนของเรา
โดยปกติในการลงทุน หากเรามองหน้าตักเงินที่นำมาลงทุน คือเงิน 100% หากเรานำการบริหารหน้าตักการลงทุนทั้ง 4 แบบมาใช้ในการลงทุนในหุ้นตัวเดียวกัน เราสามารถแบ่งรูปแบบการกระจายสัดส่วนการลงทุนในจังหวะเข้าซื้อของหุ้นตัวเดียวกันออกไปได้ 4 รูปแบบดังนี้

::: ภาพที่ 1 : แบบเท่ากันทุกๆสัดส่วนการลงทุน :::

ราคาหุ้น 100 บาท พอร์ตการลงทุน 100% แบ่งสัดส่วนการลงทุนเป็น 10 ส่วน...สัดส่วนละ 10% ตามส่วนต่างราคาทุกๆ 10 บาท โดยมีราคาเป้าหมายคาดหวังที่ 120 บาท ตำแหน่งราคาสุดท้ายที่ซื้อคือ 5 บาท
 
::: ภาพที่ 2 : แบบทบมากขึ้นไปเรื่อยๆจากสัดส่วนการลงทุนที่เริ่มต้น :::

ราคาหุ้น 100 บาท พอร์ตการลงทุน 100% แบ่งสัดส่วนการลงทุนเป็น 5 ส่วน...สัดส่วนตามลำดับ 3% 6% 12% 24% 55% ตามส่วนต่างราคาตามลำดับ 100บาท 80บาท 60บาท 40บาท 20บาท โดยมีราคาเป้าหมายคาดหวังที่ 120 บาท ตำแหน่งราคาสุดท้ายที่ซื้อคือ 20 บาท

::: ภาพที่ 3 : แบบเท่ากันทุกๆสัดส่วนการลงทุน แต่เว้นระยะที่คิดว่าจะซื้อออกไป 1 ท่อน :::

รูปแบบทั้งหมดจะเหมือน ภาพที่ 1 : แบบเท่ากันทุกๆสัดส่วนการลงทุน แต่ให้เราเว้นท่อนในการเข้าซื้อไป 1 ท่อน เมื่อเราทำเช่นนี้เราจะเหลือสัดส่วนที่เว้นออกมารวมแล้วคือ 50% ให้เรานำ 50% นี้มาบริหารจัดการใหม่อีกครั้ง คือ อาจซื้อในตำแหน่งราคาที่ถูกลงมาอีก หรือหากเห็นโอกาสดีๆที่ราคาจะขึ้นเราก็ซื้อตาม ซึ่งตรงนี้จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ลงทุนที่จะสามารถคาดการณ์การเคลื่อนตัวของราคาหุ้นนั้นๆได้ดีและแม่นยำมากขึ้นขนาดไหน 
 
::: ภาพที่ 4 : แบบทบมากขึ้นไปเรื่อยๆจากสัดส่วนการลงทุนที่เริ่มต้น แต่เว้นระยะที่คิดว่าจะซื้อออกไป 1 ท่อน :::

รูปแบบทั้งหมดจะเหมือน ภาพที่ 2 : แบบทบมากขึ้นไปเรื่อยๆจากสัดส่วนการลงทุนที่เริ่มต้น เมื่อเราทำเช่นนี้เราจะเหลือสัดส่วนที่เว้นออกมารวมแล้วคือ 70% ให้เรานำ 70% นี้มาบริหารจัดการใหม่อีกครั้ง คือ อาจซื้อในตำแหน่งราคาที่ถูกลงมาอีก หรือหากเห็นโอกาสดีๆที่ราคาจะขึ้นเราก็ซื้อตาม ซึ่งตรงนี้จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ลงทุนที่จะสามารถคาดการณ์การเคลื่อนตัวของราคาหุ้นนั้นๆได้ดีและแม่นยำมากขึ้นขนาดไหน 

ซึ่งจากทั้ง 4 รูปแบบในการบริหารจัดการหน้าตักเงินทุน...สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญมากๆนั้นก็คือ หุ้นที่แข็งแกร่ง มีความมั่นคง พื้นฐานดี ส่วนการบริหารจัดการในแต่ละรูปแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
ข้อดีของแบบที่ 1 : ซื้อเท่าๆกันในทุกๆสัดส่วนราคาควบคุมง่าย
ข้อดีของแบบที่ 2 : ซื้อสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นในราคาที่ถูกลงเรื่อยๆ
ข้อดีของแบบที่ 3 4 : เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์สูง ทำให้ความคุ้มค่าในจังหวะเข้าซื้อได้เปรียบมากยิ่งขึ้น

 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง