ในโลกของการลงทุนนั้นหลายท่านคงจะมีวิธีการลงทุนแตกต่างกันไปตามความถนัดของแต่ละคนแต่มีส่วนไม่น้อยเลยที่คิดไว้แล้ววางแผนไว้แล้วตอนแรกแต่เอาเข้าจริงๆ พอถึงเวลาปฎิบัติจริง My Set ในการลงทุนผิดเพี้ยนไปหมด วันนี้ผมจะมาแชร์ให้ฟังนะครับว่า นักลงทุนแต่ละ Gen ส่วนใหญ่เค้ามีวิธีการจัดพอรต์ยังไง
ที่มาภาพ : 123 RF
1. Gen Baby
ก็คือ Generation Baby Boomer นั่นแหละ แต่เรียกให้ตนเองสบายใจขึ้น ใครจะทำไม
คน Gen นี้ผ่านความทุกข์ยากตามสภาพเศรษฐกิจมาก่อนหลายวัฏจักร มีนิสัยทุ่มเท ทำงานเก็บเงินเก็บทอง เห็นคุณค่าของเงิน จึงไม่ชอบการขาดทุน นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นในตัวเองสูง และหากเชื่อใครรักใครแล้วเปลี่ยนใจยาก
วันนี้ Gen Baby เกือบทั้งกลุ่มได้เกษียณแล้ว ดังนนั้น การจัดพอร์ตจำต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเงินเก็บเงินออม แต่ขณะเดียวกันก็อย่าไปกลัวว่าจะขาดทุนเงินต้นจนไม่กล้าลงทุน
ให้จัดพอร์ตหรือเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับวัยเกษียณ เน้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำสัก 70-80% แล้วนำเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนในหุ้น กองอสังหาฯ โครงสร้างพื้นฐาน REIT ที่มีรูปแบบการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ทำให้เงินในกระเป๋าโดยรวมสามารถงอกเงยได้ผลตอบแทนดีกว่าเงินเฟ้อ ป้องกันไม่ให้ค่าเงินลดลง จากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เงินเก็บเงินออมในส่วนปลอดภัย ต้องกระจายเก็บกระจายฝาก อย่ามั่นใจอะไรง่ายๆ ไม่ว่าจะสหกรณ์ หุ้นกู้ ธนาคาร ต้องจัดสรร ถ้าทำไม่ถูกก็ให้กองทุนดูแล เพราะกองทุนมีการกระจายอยู่แล้ว
มีคำเตือนพิเศษคือ วัยนี้จะมีเงินก้อนจากก ารทำงานมาทั้งชีวิต จึงต้องระมัดระวัง ต้องพึงระลึกเสมอว่าเงินก้อนนี้คือเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต อย่าหวังน้ำบ่อหน้าให้ลูกหลานดูแล ต้องป้องกันไว้ก่อน ห้ามใจดีกับลูกหลาน อย่าไปให้เงินก้อนกับเขาจนตนเองไม่เหลือพอใช้ และอย่าเผลอหลงหลาน พากินพาเที่ยว จ่ายเงินซื้อของให้หลานตัวน้อยด้วยความรักจนเกินพอดี ต้องคิดคร่าวๆ ก่อนว่าแต่ละเดือนเราต้องใช้จ่ายเท่าไร ค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาล ที่ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ เงินเฟ้อค่ารักษาพยาบาลนี่สูงมาก
ที่มาภาพ : 123 RF
2. Gen X
X ในวันนี้ คือกลุ่มวัยกลางคนจนถึงวัยที่เข้าใกล้วัยเกษียณ วัยนี้ถ้าเป็นรุ่นแรกๆ จะเกิดท่ามกลางความทุกข์ยากของพ่อแม่คือ Gen Baby จึงถูกฝึกฝนด้านวินัย ความอดทน (แต่ยังไม่ถูกฝึกเข้มเท่า Gen Baby) X จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่า เพราะใช้ชีวิตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง เกิดในยุคทีวีสี มีเครื่องวีดีโอ มีเกมกด เป็นวัยรุ่นในช่วงเริ่มมีคอมพิวเตอร์ เริ่มทำงานในยุคราคาโทรศัพท์มือถือจับต้องได้ จนถึงปัจจุบัน
ด้านการเงิน X ในวันนี้เป็นวัยมั่งคั่ง เพราะสะสมเงินออมตลอดช่วงชีวิตการทำงาน ผ่านช่วงต้มยำกุ้ง แต่มีเวลาแก้ตัว รู้จักการลงทุนในหุ้น ทองคำ อยู่ในช่วงรอยต่อของดอกเบี้ยสูงและดอกเบี้ยต่ำ จึงดิ้นรนหาทางเลือกอื่น และรู้จักกองทุนที่ช่วยลดภาษี
พอร์ตลงทุนของ X จึงควรมีส่วนผสมทั้งหุ้นและตราสารหนี้ อย่าใส่หุ้นเยอะเหมือนตอนอายุ 30-40ปี เพราะจากนี้ไปตลาดหุ้นจะไม่สวยงามให้ผลตอบแทนสูงๆ เหมือนก่อน อาจจะลงทุนในหุ้น ตั้งแต่ 40-70% แล้วแต่ว่ามีอายุการทำงานเหลือเท่าไร ส่วนที่เหลือก็เป็นตราสารหนี้หรือเงินฝาก c]tแบ่งไปลงพวกกองทุนอสังหาฯ REIT โครงสร้างพื้นฐานบ้าง
ที่สำคัญ X ต้องกระจายการลงทุนและดูผลตอบแทนแบบพอร์ตการลงทุน ไม่ดูเป็นรายผลิตภัณฑ์ และต้องรู้จักปรับสัดส่วนการลงทุน โดยลดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงลงเมื่อเข้าใกล้วัยเกษียณมากขึ้น เพราะเวลาแก้ตัวจะน้อยลง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับเงินลงทุนของ X
3. Gen Y
Y ในปัจจุบันเป็นวัยตั้งแต่เริ่มต้นทำงานจนถึงทำงานมาแล้วประมาณ 10 – 15 ปี วัยนี้จะต่างจาก X มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะอายุต่างกันไม่มาก เพราะ Y เกิดในยุคที่พ่อแม่ Gen X เริ่มมีเงินทอง มีลูกน้อยลง รักลูกมาก เริ่มให้อิสระทางความคิดในการเลี้ยงดู ... Y จึงเกิดมาพร้อมคอมพิวเตอร์และการเติบโตทางเทคโนโลยี มีเงินในมือใช้จ่ายจากผู้ปกครองพ่อแม่ ในระดับที่ดี
พอร์ตลงทุนข้อง Y ควรเป็นพอร์ตที่มีหุ้นสูงเพราะยังอยู่วัยเริ่มต้นทำงาน อาจจะถึง 70-90% แต่จุดสำคัญของ Y ที่น่าเป็นห่วงคือมีหนี้เยอะ จึงต้องสร้างวินัยทางการเงินและควบคุมการใช้จ่ายให้ได้ เพราะ Y เติบโตมาในยุคที่สังคมเปิดกว้าง กล้าคิด กล้าทำ แต่ประสบการณ์ยังน้อย มีโอกาสผิดพลาดสูง เพราะเป็นกลุ่มมั่นใจในตัวเองมาก อาจจะมองอะไรไม่รอบด้าน
การตัดสินใจลงทุนของ Y มักจะนิยมชมชอบคนที่ประสบความสำเร็จ ให้ความสำคัญกับเรื่องเงินกับการประสบความสำเร็จ เปลี่ยนใจง่าย ถ้าใครอยู่วัยนี้ต้องบังคับตัวเองให้ได้ ออมก่อนใช้ บังคับลงทุนแบบถัวเฉลี่ยไปเลย การบังคับให้ลงทุนระยะยาวควรลงทุนสม่ำเสมอทุกเดือน ไม่ใช่ว่าเจอช่วงเศรษฐกิจและการลงทุนผันผวนเลยย้ายไปย้ายมา แบบนั้นคงจะแย่
ที่มาภาพ : 123RF
4. Gen Z
Z เป็นกลุ่มที่เกิดช่วงปี 2540 ขึ้นไป เกิดหลังวิกฤตด้านการเงิน จึงไม่เห็นความทุกข์ยากของต้มยำกุ้ง มีชีวิตสะดวกสบาย เกิดมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ชอบการผจญภัย เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่ถ้าเจอสิ่งที่ถูกใจจะทุ่มเท สนใจอะไรจะจริงจัง มั่นคงกว่าเจน Y
ปัจจุบัน Z เริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงาน ชอบอะไรชัดเจนเห็นผล แม้ว่าการลงทุนระยะยาวเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับวัยเริ่มต้นทำงาน แต่ไม่ตรงกับทัศนคติของ Z เพราะเชื่อว่าโอกาสของการหาเงินมีเยอะ นอกจากนี้ Z ยังชอบศึกษาหาความรู้ ใช้กูเกิ้ล ดูข้อมูลจาก internet แภมยังเรียนรู้ได้เร็ว
พอร์ตการลงทุนของ Z ก็คล้ายๆ Y คือ เน้นหุ้นได้ถึง 80-90% แต่ด้วยลักษณะนิสัยของ Z การทำให้ Z รู้จักบริหารสภาพคล่องจึงสำคัญมาก
ถ้า Z เป็นคนที่ไม่อยู่สายการเงินก็ต้องกึ่งบังคับให้ลงทุนระยะยาวสม่ำเสมอทุกเดือนผ่านกองทุน ... แต่ถ้า Z เป็นกลุ่มคนที่สนใจการเงิน กลุ่มนี้จะหาข้อมูลมาก อยากลองอยากทำเอง ก็ขอเตือนว่าอย่าซื้อขายหุ้นเองทั้งก้อน เพราะการเล่นหุ้นทุกวันนี้ยากขึ้นมาก ถ้าอยากลองอยากพิสูจน์ ไม่ห้าม แต่ให้แบ่งกองทุนครึ่ง ซื้อขายเองครึ่ง สัก 2-3 ปี แล้วรอดูผล
สรุป
การจัดแบ่งพอร์ตลงทุนตาม Generation ก็เหมือนดูดวงเหมาโหลตามราศี มันก็พอใช้เป็นกรอบได้ แต่กุญแจสำคัญคือการวางลัคนาของแต่ละปัจเจกบุคคล ซึ่งคือ “เวลาคงเหลือก่อนที่เราจำเป็นต้องใช้เงินแต่ละก้อนนั้น ไม่ว่าเราจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม”
Refer : วรวรรณ ธาราภูมิ บลจ.บัวหลวง จำกัด