“เริ่มก่อน ร้าวก่อน รู้ก่อน รวยก่อน”

 

eSports หรือชื่อเต็มๆ คือ Electronic Sport หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคือกีฬาประเภทไหน แล้วมีวิธีการเล่นยังไง? จริงๆแล้ว เชื่อว่าต่อให้ไม่เคยเล่น แต่เพื่อนๆก็ต้องเคยได้ยินผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง มันคือเกมส์ออนไลน์ ที่เราเห็นกันในปัจจุบันเนี่ยแหละค่ะ เคยได้ยินเพื่อนๆชวนกันไปตีป้อมไหมคะ? นั่นแหละค่ะ หนึ่งในเกมส์ eSports ที่ฮิตสุดๆอย่าง Rov และยังรวมไปถึงเกมส์ออนไลน์อื่นๆอย่าง AOL, Lol, Ragnarok, Winning, DotA

 

เริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะ ทำไมคอนเทนต์การลงทุนถึงพูดถึงกีฬา eSports เพราะครั้งนี้กับโปรเจกต์ดีๆ ที่พวกเราชาว Stock2morrow ตั้งใจทำขึ้นเพราะเราเชื่อว่า #ทุกอาชีพลงทุนได้ ครั้งนี้กับ โปรเจกต์ My Way My Investment EP.15 เรามาพร้อมกับอีกหนึ่งอาชีพ ที่น่าสนใจมากทีเดียวกับอาชีพนักพากย์กีฬา (เกม) eSports คุณแชมป์ ตรีภพ เที่ยงตรง จะมาให้สัมภาษณ์ และเปิดวิธีคิด มุมมองการลงทุนเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เราเรียนรู้ได้จากคนอื่นๆ ..พร้อมกันแล้วไปอ่านบทสัมภาษณ์กันค่ะ

 

Q : แนะนำตัวให้พวกรู้จักหน่อยค่ะ ทำอาชีพอะไรอยู่?

 

สวัสดีครับ ตรีภพ เที่ยงตรงนะครับ ชื่อเล่น ชื่อแชมป์นะครับ อายุ 32 ปีครับ ตอนนี้ทำอาชีพ นักพากย์กีฬา eSports ครับ ก็ทำอาชีพนี้มา 6 ปีแล้วครับ เริ่มจริงๆจังๆก็ตั้งแต่อายุ 26 ลักษณะงานคือ เหมือนเวลาที่เราดูกีฬาจะ มีทีม A และ ทีม B ใช่ไหมครับ จะมีผู้บรรยายเหตุการณ์การแข่งขัน ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ใครนำอยู่ ช่วงจังหวะเกมส์ตอนนี้ใครเป็นฝ่ายบุก หรือ ใครเป็นฝ่ายรับ ให้ความสนุกตื่นเต้นกับการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น

 

Q : เห็นว่ามีตำแหน่งด้วย หรือได้รับรางวัลอะไรด้วยหรือเปล่า?

 

อ๋อ จริงๆเป็นเหมือนแค่ Ranking จัดอันดับเฉยๆ ครับ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ก็คือจัดอันดับว่าผมพากย์มากที่สุดเท่าไหร่ของโลกหรือเอเชีย ตอนนั้น ก็พากย์มากที่สุดเป็นอันดับที่ 9 ของโลก แล้วก็อับดันที่ 1 ของเอเชียครับ

 

Q : ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่แรกเลยหรือเปล่า แล้วทำไมถึงเลือกอาชีพนี้

 

ผมเรียนจบวิศวะครับ ก่อนหน้านี้เป็นวิศวะกรมาก่อน ตอนแรกงานพากย์คือเราทำเป็นงานอดิเรก แล้วตอนนั้นคือเราอยากลองการแข่งขันเกมดูครับ ซึ่งคนก็ให้ความสนใจเข้าร่วมการแข่งขันเยอะมากทีเดียว มากกว่าที่คาดการณ์ไว้เยอะมาก มีเป็นร้อยๆทีม มาจากทั่วทวีปเลยครับเพราะเป็นการแข่งขันระดับเอเชีย เราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องลงทุนหน่อย โปรดักซ์ชั่นก็ต้องมีบ้างนิดหน่อย ต้องหาคนมาพากย์ มาถ่ายทอดสดนิดนึง แต่ปัญหาตอนนั้นคือเราไม่มีเงินทุนเลย พอถึงวันงานก็เลยเป็นตัวผมเนี่ยและในฐานะผู้จัด ก็เลยต้องมาพากย์เอง แล้วหลังจากนั้นก็คือพากย์มาตลอด ใช้เวลาหลังเลิกงานพากย์เกม พากย์การแข่งขันอะไรไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที ก็คือตัวเองลาออกจากงานประจำ และมาพากย์เป็นอาชีพแล้ว

 

Q : เห็นว่าลงทุนอยู่ด้วยใช่ไหม? ลงทุนอะไรอยู่บ้าง?

 

ครับก็มีลงทุนบ้าง ตอนนี้ตัวผมเองเป็นฟรีแลนซ์ แล้วก็มีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ผมเองต้องเดินทางบ่อย การลงทุนของผมจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างง่าย ไม่เครียดมากอัตราการเติบโต อาจจะช้าหน่อย ผมจะเน้นพวกทอง กับประกัน มี บลจ.บ้างนิดหน่อยครับ

 

Q : อะไรที่ทำให้สนใจ การลงทุนขึ้นมา

 

ผมโตมาในครอบครับที่พ่อเป็นทหาร แม่เป็นนักวาดภาพอิสระ และมีธุรกิจของตัวเอง ผมโตมาจากการที่เห็นคุณแม่ลงทุนมาตั้งแต่เด็กๆ เห็นเขาซื้อมาขายไป พอเราโตขึ้นมาหน่อยก็ชวนเพื่อนๆ แบบว่าไหนลองมาหาอะไรทำกันหน่อย เริ่มทำกิจการเล็กๆ ตั้งแต่ยังวัยวุ่น พอโตขึ้นมาหน่อยก็เริ่มจับธุรกิจ Start-Up ตั้งแต่ช่วงที่มันยังใหม่อยู่มากๆ ช่วงปี 2009 2010 คนยังไม่รู้จักเลยว่า Start-Upคืออะไร? เราก็เริ่มคิดว่า เราอยากเป็น Tech Start-Up (Tecnology Start Up) ตอนนั้นก็เริ่มลงทุนทำ Web ไว้เหมือนจะเป็น Web ซื้อขาย เกี่ยวกับอุปกรณ์เล่นเกมส์ พวกเมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง อะไรพวกนี้นะครับ หรือ I-Tem ภายในเกมส์ต่างๆ ทำมาพร้อมๆกับงานพากย์ครับ แล้วก็มี โปรเจกต์อื่นๆที่เกี่ยวกับการลงทุนมาตาม อย่างเมื่อ 4 ปีที่แล้วผมทำโปรเจกต์ ตลาดหุ้นจำลองของเกมส์ ไอเดียคือถ้าสมมุติเราเข้าไปในตลาดหุ้น เราซื้อหุ้น ที่เป็นบริษัทห้างร้านต่างๆใช่ไหม แต่หุ้นทุกตัวของผม คือทีมแต่ละทีมในเกมส์ในนั้นตอนนั้น เพราะฉะนั้นคนที่เป็นแฟนเกมส์นั้นๆ หรือทีมนั้นๆ เขาก็จะเข้ามาเล่นในตลาดหุ้นจำลองนี้ ซึ่งโปรเจกต์นั้นก็ผมถือว่าประสำเร็จความสำเร็จในช่วงแรกเลยนะครับ แต่ก็มีความผิดพลาดที่ทำให้เราไม่ได้ทำต่อเหมือนกัน

 

Q : แล้วการลงทุนอย่างพวกทอง มาตอนไหน

 

3-4 ปีแรก ของการทำงานไม่ได้คิดเรื่องการลงทุนเลย ทำงานเก็บเงินอย่างเดียว จนรู้ตัวอีกที คือเรามีเงินอยู่ก้อนนึงแล้วนะ เป็นเงินเย็น มันเป็นเงินก้อนที่เราไม่อยากทำอะไรกับมันเลย เลยอยากทำให้มันงอกเงย ก็เริ่มศึกษาแบบ Beginner เลย หนทางมันก็จะมีอยู่ไม่กี่อย่างหรอกครับ มีเล่นหุ้น ลงทุนในหุ้น ในทองอะไรแบบนี้ เรามองว่าเราชอบวัตถุอะไรแบบนี้ ก็เลยลงทุนในทอง ช่วงแรกก็เป็นการซื้อพวกทองรูปพรรณครับ ซื้อสร้องทอง ซื้อแหวน ก็คิดว่าถ้าวันนึง โดนโจรปล้ม หรือโดนยกเค้ามันน่าจะไปหมดเลยนะ ก็เวลาคิดว่าเอาล่ะเดี๋ยว ลองเป็นซื้อทองคำแท่ง ซื้อสัญญาเก็บไว้ดีกว่า ก็ทำมาเรื่อยๆจนถึงตอนนี้ก็ยังไงลงทุนทองอยู่นะครับ

 

 

Q : อะไรที่ทำให้รู้สึกว่า การลงทุนทองเข้ากับเราที่สุด

 

หนึ่งเลยมันเป็นความชอบส่วนบุคคล สองคือทองมัน ..อาจจะเป็นความคิดส่วนตัวนั้นครับ ผมคิดว่าทองมันมั่นคง คืออัตราเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น ถ้าเราเล่นค่าเงิน เงินเฟ้อ เงินฝืด อะไรพวกนี้ก็น่ากลัว แต่ไม่ว่าเงินจะเฟ้อขนาดไหน ราคาทองมันจะขึ้นตามค่าเงินไปอย่างมีเสถียรภาพ มันอาจจะให้ความรู้สึกว่ามันช้านะ แต่ผมมองว่ามันมั่นคง

 

Q : มีลงทุนอะไรอีกไหม ?

พื้นฐานเลย ด้วยอาชีพของเราที่เป็นฟรีแลนซ์ ผมจะเน้นไปทางประกัน มีเพื่อนที่แนะนำมาให้ไปซื้อประกันทั้งแบบสะสมทรัพย์ สุขภาพ ชีวิต และโรคร้ายแรง นอกจากประกันก็มีกองทุน แต่ผมเพิ่งเริ่มเลยครับ ก็จะดูกองทุนที่มีผลประกอบการที่ดีหน่อย แต่ก็อยู่ในช่วงเริ่ม รวมทั้งหุ้นด้วย ยังอยู่ในช่วงเริ่มเราศึกษาเอง มีถามเพื่อนบ้าง แล้วก็ดูหุ้นที่กองทุนเขาประกาศในแต่ละปี ปีนี้กองนี้ เก็บหุ้นตัวไหนไปบ้าง อารมณ์ลอกการบ้านเขาบ้าง (ยิ้ม)

 

Q: ทำไมถึงลงทุนกับประกันเยอะขนาดนี้?

เราคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ในโลกของฟรีแลนซ์ ไม่มีใครทำอะไรให้เรา หรือมีประกันอะไรให้เราต้องดูแลตัวเอง แต่จริงๆแล้วต่อให้เป็นคนทำงานประจำนะครับ แต่ผมว่าทุกคนควรจะต้องคิดนะครับ เราต้องคิดว่าเป้าหมายในชีวิตเรามีอะไรบ้าง แล้วเราก็ไปเลือกซื้อเลือกลงทุนให้ตรงตามเป้าหมาย อย่าเช่น สมมุติว่าเป็นคุณพ่อ มีเป้าหมายให้ลูกเรียนจนจบ ก็ควรเลือกลงทุนในประกันหรืออะไรที่สามารถทำให้ลูกเขาเรียนจนจบได้ ผมว่าเรื่องการลงทุนมันแล้วแต่เป้าหมายของแต่ละคนเลยนะ

 

 

Q : จากทั้งหมดที่ลงทุนมาชอบอะไรที่สุด

 

มันแล้วแต่ช่วงชีวิตนะครับ อย่างช่วงนี้ผมเดินทางเยอะมาก ก็เลยชอบอะไรที่มันซื้อเก็บแล้วไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมันมากนัก อะไรแบบนี้ แต่ถ้าช่วงที่เวลาที่มีเวลาพร้อมที่จะศึกษา ผมก็พร้อมที่จะมาศึกษาดูพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัวนะครับ ผมเชื่อว่าหุ้นไม่ง่ายเลย มันมีปัจจัยหลายอย่าง ต้องใช้เวลาก็เลือกลงทุนเอาที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ในช่วงจังหวะนั้นของเราให้มากที่สุด

 

Q : เคยต้องพบกับประสบการณ์ที่ลงทุนแล้วผิดพลาด ไหม? แล้วเรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นั้น

 

มีนะครับ แต่ถ้าเป็นพวกหุ้นกองทุน ยังมีไม่ค่อยมาก เคยเสียไปแล้วก็ถือว่าเป็นวิชาความรู้ ตอนนี้ก็ยังพักไว้ก่อน เพราะเรายังเข้าใจมันมากพอ ประสบการณ์ที่พลาดจริงๆ คือเรื่องตอนที่ลงทุน Start-Up มันคือประสบการณ์มองคนที่ไม่ขาด บางทีเรามองว่าคนนี้น่าจะทำไปด้วยกันกับเราจนสุดนะ แต่สุดท้ายแล้วเขาหยุด เขาอยากพักก่อน เราก็โทษเขาไม่ได้นะ แค่เราดูเขาไม่ออกว่าอยากไปกับเราแค่ไหน ผมว่ามันยากกว่าการดูหุ้นอีกนะ มันไม่เหมือนกันเลย ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ล้มเลิก Start-Up เลยส่วนนึง ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีหรืออะไรนะ แต่ต่างคนต่างมีภาระมีหน้าที่ต่างกัน เขาก็ต้องล้มเลิกไป ซึ่งเราเข้าใจครับ จริงๆถ้ามีโอกาสก็ยังอยากทำ Start-Up เกี่ยวกับเกม และ eSports นะครับ ตอนนั้นสอนเราได้มากทีเดียว เราเรียนรู้ว่า ก่อนที่เราจะเริ่มทำอะไร เราควรกำหนดเป้าประสงค์ให้ชัดเจนว่าเราอยากทำมันไปถึงจุดไหน timing ควรอยู่จุดไหน 6 เดือน Check Points เลยว่าได้ถึงเป้าที่กำหนดไว้หรือยัง ถ้ายังไม่ถึงจะหยุดหรือทำต่อไหม อย่างตอนที่ทำธุรกิจแล้วมีหุ้นส่วนทำอยู่ด้วย จริงๆควรคุยกันให้ชัดตั้งแต่แรกว่าเราจะทำถึงตรงไหน กำหนดเป้าประสงค์ให้ชัดเจน และคุยกันตอนนั้นคือผมแค่ทำ ซึ่งมันก็เป็นจุดที่ทำให้เรียนรู้มาถึงการลงทุนในตอนนี้ว่า เราจะซื้อแค่ไหน ตรงนี้แบ่งซื้อทอง แบ่งซื้อกองทุน หรือประกัน มีเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยทำ

 

Q : แบ่งเวลาการทำงานกับการลงทุนยังไง แล้วยังต้องเดินทางต่างประเทศด้วย

 

การลงทุนจะเป็นแบบ monthly คือเดือนนึงซื้อเก็บจำนวนนึงนะครับที่เราวางแผนไว้ และในหนึ่งวันก็มี ซัก 1 ชม. ที่เรามาดูว่าจะมีการปรับแผนการลงทุนอย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องการเช็คข้อมูลข่าวสาร สมัยนี้คือง่ายและเร็วมาก ก็จะเช็คในโทรศัทพ์อยู่ตลอดระหว่างที่เดินทาง ข้อมูลลพวกนี้เป็นข้อมูลที่สำคัญมากครับ ก็ดูไปตามที่เขาแชร์มา

 

Q : อาชีพของเราที่เป็นนักพากย์เกม คิดว่าส่งเสริม หรือเกี่ยวของอะไรกับการลงทุน

 

จริงๆไม่ว่าอาชีพอะไร การลงทุนก็สำคัญหมดนะครับ ตอนแรกผมก็คิดว่าไม่สำคัญจนผมได้มาลงทุนเอง การลงทุนมันมีหลายประเภท ทอง หุ้น ตราสาหนี้ กองทุนรวม หรือแม้กระทั้ง ลงทุนใน Start-Up ลงทุนเปิดกิจการ หรือการลงทุนให้ตัวเอง ไปเรียนคอร์สต่างๆ เรียนปริญญาโท-ปริญาเอก ผมก็ถือว่าเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ผมคิดว่าไม่ว่าอาชีพอะไรก็ตาม ก็สามารถลงทุนได้ แค่ต้องหาการลงทุนที่เหมาะกับตัวเราเอง


 

 

Q : เคล็ดลับการลงทุนฉบับคุณแชมป์

 

เคล็ดลับของผมไม่ได้หวือหวาอะไรนะครับ “ผมแค่ไม่ประมาท” ผมเห็นนักลงทุน หลายๆคนรุ่นใหญ่ หรือระดับโลกเอง พลาดมาก็เยอะ เราควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และอีกอย่าง นักลงทุนที่ดีนอกจากควรมีความรู้พื้นฐานทางเศรษฐาศาสตร์แล้ว ควรมีความรู้เรื่องพฤติกรรมมนุษย์ หรือ Thinking sytem ของมนุษย์ คล้ายๆจิตวิทยา มันจะทำให้คิดต่อได้ว่า ถ้าเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ ผู้คนจะไปในทิศทางไหน ผมคิดว่ามันเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่น่าศึกษาทีเดียว

 

Q : ฝากบอกอะไร ถึงคนที่ยังไม่เริ่ม หรือกลัวการลงทุนหน่อย

 

สั้นๆเลยนะครับ “เริ่มก่อน ร้าวก่อน รู้ก่อน รวยก่อน”

 

คุณแชมป์ทิ้งท้ายบทสัมภาษณ์ให้เราด้วยประโยคสั้นๆที่เข้าใจง่าย กระชับ และสื่อสารได้ชัดเจน  “เริ่มก่อน ร้าวก่อน รู้ก่อน รวยก่อน” เป็นคำ 4 คำ ที่น่าจะไปสะกิดใจให้เพื่อนๆหลายคนที่ยังไม่กล้าจะลงทุนได้เริ่มต้นกัน เราเชื่อว่าบทสัมภาษณ์นี้ จะทำให้เพื่อนได้เรียนรู้ทั้งความผิดพลาด และมุมมองวิธีคิด วิธีการลงทุกที่ต่างออกไป ซึ่งจะนำไปปรับใช้กับการลงทุนของตัวเองได้อย่างไรบ้าง อย่าลืมมาเล่าให้พวกเราฟังบ้างนะคะ..แล้วพบกันใหม่ใน My Way My Investment EP. หน้านะคะ เพราะเราเชื่อว่า #ทุกอาชีพลงทุนได้