นักจิตวิทยากล่าวไว้ว่า โดยพื้นฐานของมนุษย์ชอบ "ซื้อของ" ตามกระแส ตามเพื่อนโดยที่ไม่ได้ตระหนักเลยว่าสิ่งของที่เรากำลังจะซื้อมีความสำคัญหรือต้องการใช้จริงๆหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ซื้อจะยิ่งรู้สึกเหมือนได้รับ "ชัยชนะ" ถ้าสิ่งของที่ตนซื้อมีราคาถูกกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว "การช็อปจะยิ่งมันส์ยิ่งขึ้น"

.

นี้จึงเป็นแนวคิดของแอปจีนสุดแนวอย่าง Pinduoduo ที่เปิดให้กลุ่มคนซื้อสินค้าเป็นกลุ่ม เมื่อรวมกันมากๆจึงกลายเป็นล๊อตใหญ่ สามารถซื้อในราคาที่ถูกลงได้ เราเรียกโมเดลธุรกิจแบบนี้ว่า "Social E-Commerce" ที่เน้นในเรื่องของการแชร์ การบอกเล่า รวมกันให้ซื้อสิ่งของชนิดเดียวกัน

.

สิ่งที่น่าสนใจคือ Pinduoduo ก่อตั้งขึ้นในช่วงเวลาที่สงครามอีคอมเมิร์ซในประเทศจีนมีความรุนแรงมาก โดยเฉพาะการขยายอาณาจักรของ Alibaba แต่ Pinduoduo ก็ยังใช้โอกาสนี้เบียดขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 อย่างน่าอัศจรรย์

.

เขาทำได้อย่างไร ... ?

Colin Huang หรือหวงเจิง ผู้ก่อตั้ง Pinduoduo
(ที่มาภาพ : Bloomberg)

Colin Huang หรือหวงเจิง ชาวจีนที่เกิดและเติบโตที่เมืองหางโจว ประเทศจีน (บ้านเดียวกับ Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba) เขาจบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ University of Wisconsin สหรัฐอเมริกา และเข้าทำงานที่ Google ต่อมาในปี 2006 เขาลาออกจาก Google และกลับมาบ้านเกิดเพื่อทำธุรกิจของตัวเอง

.

ในปี 2015 เขาก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพ Pinduoduo ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันอีคอมเมิร์ซอย่างรุนแรงของ 2 ค่ายอย่าง Alibaba และ JD.com โดยที่เขามีแนวคิดว่าจะคิดโมเดลธุรกิจอย่างไรให้ผู้ซื้อได้ใช้สินค้าราคาถูกและมี "ความสนุก" ในการช๊อปปิ้ง นั้นคือต้องเจาะตลาดล่างและการตลาดแบบปากต่อปาก ซึ่งเขาออกมาบอกภายหลังว่า Pinduoduo คือส่วนผสมของ Costco + Disneyland คือ มั่นใจว่าได้ของถูก และมีความสนุกกับการซื้อสินค้า

.

Pinduoduo ได้รับเงินทุนสนับสุนจาก Sequoia Capital China และ Tencent ที่ถือหุ้นอยู่ 17%

.

Pinduoduo ใช้กลยุทธ์ "ซื้อเป็นกลุ่ม" เป็นจุดขาย โดยบริษัทจะมีหน้าที่รับออเดอร์ว่าถ้าสั่งซื้อเกินเท่านี้ จะได้ราคาพิเศษเท่าไร ยิ่งมีคนสั่งเข้ามามากจะมีส่วนลดมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ซื้อมีการแชร์สินค้าจาก Pinduoduo ไปยังโซเชียลอื่นๆเช่น Wechat เพื่อชักชวนให้คนเข้ามาซื้อรวมกัน

.

== ปัจจัยที่ทำให้ Pinduoduo ประสบความสำเร็จ ==
1. การวางกลยุทธ์ที่จับตลาดล่าง การเน้นซื้อของถูก ปริมาณเยอะๆ และเน้นจับกลุ่มคนเมืองชั้นรองและชนบทที่มีปริมาณมากถึง 65% ของประชากรชาวจีน ในขณะที่ Alibaba และ JD.com สูญเสียงบการตลาดไปกับการแย่งส่วนแบ่งการตลาดเพื่อจับคนชนชั้นกลางและคนรวยตามหัวเมืองใหญ่ๆ ที่มีส่วนแบ่งแค่ 35% เท่านั้น

.

2. คนชนบทมีเวลามากกว่าคนเมือง พวกเขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการแชท การช้อปปิ้งเพื่อหาสินค้าราคาถูกตามอินเตอร์เน็ต

.

3. คนตามเมืองใหญ่ เน้นสินค้าราคาปานกลาง-แพง แต่ต้องมีนวัตกรรม นำแฟชั่น ในขณะที่คนชนบทยังคงเน้นสินค้าราคาถูกแต่ต้องมีคุณภาพ โดยเฉพาะการมีเพื่อนแนะนำ นั้นทำให้ Pinduoduo ประสบความสำเร็จโดยใช้ปากต่อปาก

.

4. แอป Pinduoduo ออกแบบมาให้จ่ายเงินผ่าน WeChat เพียงคลิ๊กเดียว ซึ่งง่ายต่อการกดจ่ายของคนหัวเมืองรองและชนบท ที่ไม่ชอบทำอะไรยุ่งยาก หรือบางคนที่ไม่มีบัตรเครดิต

.

ถึงแม้ Pinduoduo จะได้รับความนิยมมากแค่ไหน แต่การขายสินค้าราคาถูกส่งผลให้บริษัท "ขาดทุน" เนื่องจากอัตรากำไรที่บางมากนั้นเอง

.
ในปี 2559 บริษัทมีรายได้ 504.8 ล้านหยวน มีขาดทุนสุทธิ 232.2 ล้านหบวน
ในปี 2560 บริษัทมีรายได้ 1,744.1 ล้านหยวน แต่มีขาดทุนสุทธิมากถึง 525.1 ล้านหยวน

.

แค่นั้นยังไม่จบ โมเดลธุรกิจของ Pinduoduo จะดูแหวกแนวมาก แต่อย่าลืมว่าคู่แข่งของเขาอย่าง Alibaba ก็มีทุนที่หนามาก พวกเขาสามารถทุ่มตลาดโดยใช้ Taobao เป็นแกนนำลดราคาสุดถูกและรับประกันว่า ถ้ามีใครให้ถูกกว่ายินดีคืนเงินส่วนต่างให้ นี้ยังไม่นับการลดราคาตามเทศกาลสำคัญอีก รวมถึงโปรโมชั่นการตลาดแนะนำเพื่อนให้ซื้อ 1 คน คนแนะนำจะได้คูปองส่วนลด 10 หยวน

.

== สรุป ==
การซื้อสินค้าเป็นกลุ่ม ถือว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่แปลกใหม่ และโดนใจคนจีนส่วนใหญ่ของประเทศที่เน้นในเรื่องราคาถูกและต้องมีคุณภาพ อย่างไรก็ตามบริษัทเองก็ยังต้องเจอกับการขาดทุนเรื่อยมา และคู่แข่งทีใหญ่กว่าและมีทุนหนากว่าก็พร้อมทำโปรโมชั่นแข่งขันด้วยเช่นกัน เช่น Alibaba ที่มีการทำตลาดในหลายประเทศ ทุ่มตลาดโดยทำโปรโมชั่น จัดแคมเปญแจกคูปองส่วนลด

Pinduoduo ถือเป็นแอปที่ประสบความสำเร็จ แต่ในระยะยาวจะยังดีอยู่หรือไม่ คือคำถามสำคัญที่เรา รวมถึงนักลงทุนจะต้องติดตามครับ

.

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.forbes.com/sites/ywang/2019/04/16/chinas-jd-com-needs-less-slackers-as-growth-slows-and-losses-mount/#78839d8e1752

https://en.wikipedia.org/wiki/Pinduoduo

https://www.blognone.com/node/103887

http://www.forbesthailand.com/news-detail.php?did=2612

https://www.the101.world/pinduoduo/

https://en.wikipedia.org/wiki/Colin_Huang