สวัสดีนักลงทุนทุกท่านอีกครั้งนะครับ ก็ผ่าน Big Event ที่สำคัญไปอีกหนึ่งเรื่องสำหรับการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา คงจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการกันแล้ว เป็นยังไงบ้างครับ ตรงใจของนักลงทุนไหมครับ

ถือว่าเรื่องการเมืองการจัดตั้งรัฐบาลส่งผลค่อนข้างมากกับตลาดทุนในประเทศทีเดียว เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนสถาบันทั้งจากในประเทศและต่างชาติให้ความสำคัญ เพราะการที่สถาบันจะนำเงินมาลงทุนจำนวนมาก ก็ต้องดูเสถียรภาพของรัฐบาล นโยบาย รวมถึงโปรเจคต่างๆที่จะเกิดขึ้นมีความมั่นคงขนาดไหน

ถ้าการเมืองวุ่นวาย รัฐบาลเลือกมาแล้วไม่มีเสถียรภาพอยู่ได้ไม่นานก็ต้องยุบ จัดการเลือกตั้งใหม่ โอกาสที่เม็ดเงินจะไหลเข้ามาลงทุนยาวๆก็น่าจะเกิดขึ้นได้ยาก ตลาดทุนก็คงจะขึ้นได้ลำบากกลายเป็นสภาวะของการเก็งกำไรระยะสั้นกันซะส่วนใหญ่

ประกอบกับเครื่องมือทางการเงินที่ออกมาช่วงหลังๆก็เป็นลักษณะของ Derivative คือมีความผันผวนสูง มีอัตราคูณ ถ้าถือผิดทางแล้วไม่ stop lost สามารถสร้างความเสียหายได้มากในระยะเวลาสั้นๆได้เลยค่ะ และสามารถเทรดได้ทั้งฝั่งซื้อถ้ามองว่าขึ้น และฝั่งขายถ้ามองว่าลง แล้วถ้าสถาบันใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการเก็งกำไรด้วยแทนที่จะเอาไว้ป้องกันความเสี่ยง ตามวัตถุประสงค์หลักแล้ว ตลาดทุนก็จะยิ่งมีความผันผวนมากขึ้นด้วย

จากที่สังเกตเห็นการเคลื่อนที่ของหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 วิ่งขึ้นวิ่งลงวันนึงทีละ 5ช่อง 10ช่อง อย่างกับหุ้นหลักบาท ไม่นานนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็อนุญาตให้ต่างชาติ short หุ้นใน NVDR ได้อีก คราวนี้ก็บันเทิงละคะ ถ้าประเทศไทยไม่มีข่าวดีจริงๆ เศรษฐกิจไม่เติบโตแบบแข็งแกร่ง แนวต้าน 1800 จุดจะผ่านกันไหวไหมครับ

กลับมาดูสถานการณ์ปัจจุบัน SET ที่ระดับ 1630 ปัวร์มองว่าถ้าให้พออุ่นใจหน่อยก็ไม่ควรลงไปต่ำกว่าแนวนี้ ปี 2019 นี้ก็คงต้องลุ้นกันเฮือกใหญ่ๆเลยแหละค่ะ ต่างประเทศก็ดูจะเริ่มกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากตัวเลข GDP ของประเทศเยอรมันนี ที่ออกมาต่ำกว่าเป้าหมายมาก ก็น่ากังวลอยู่เหมือนกันเพราะเยอรมันนีถือว่ามีความแข็งแรงของเศรษฐกิจมากสุดในกลุ่มยูโรโซน ถ้าพี่ใหญ่ออกอาการเซ แล้วน้องๆจะเป็นยังไงหล่ะครับ

มาทางฝั่งบ้านเราผลการเลือกตั้งออกมาก็มีข้องกังขากันเยอะพอสมควร เอาจริงๆก็มีกันทุกครั้งที่มีเลือกตั้งที่จะมีข้อร้องเรียน ใบเหลืองใบแดงตามกันออกมา แต่ครั้งนี้หลายอย่างก็ไม่รู้จะหาเหตุผลมาอธิบายยังไง สังคมออนไลน์ก็หูตาไวกันสุดๆ คะแนนที่ 1 กับที่ 2 ก็สูสีกันมาก แถมคนละขั้นกันอีก ก็คงต้องไปดูกันจนถึงประกาศรับรองผลเลือกตั้งช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2562 กันเลยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบไหนกัน

ยังไงนักลงทุนตาดำๆแบบปัวร์และหลายๆท่านก็คงต้องวางแผนเทรดรับมือ ประคองพอร์ตให้รอดปลอดภัย รักษาเงินต้นไว้ได้เดี๋ยวกำไรก็มาเอง