#แนวคิดด้านการลงทุน

4 ข้อควรรู้ก่อนจะลงทุน "หุ้นปันผล"

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
96 views

1. หุ้นปันผลดี มักจะเป็นหุ้นที่มีมูลค่าไม่แพง
ในบางครั้งหุ้นที่ปันผลดีระดับ 6-7% ขึ้นไปอาจจะบ่งบอกว่าหุ้นตัวนั้นมุลค่าไม่แพงมากเมื่อเทียบกับพื้นฐานที่ควรจะเป็น นักลงทุนควรจะพิจารณาความแข็งแกร่งของธุรกิจที่บริษัทนั้นทำอยู่ว่าเป็นอย่างไร จะสามารถ "เลี้ยงตัวเอง" ได้อีกหลายสิบปีหรือไม่

.

สมมุติว่าหุ้น X มีราคากระดานที่ 100 บาท และปันผลปีละ 7 บาท/หุ้น เท่ากับว่าหุ้นตัวนี้มีอัตราปันผลอยู่ที่ 7% ถ้าเราเข้าซื้อหุ้นตัวนั้นและกอดมันไว้เฉยๆ เราจะได้ปีละ 7% ซึ่งทำผลตอบแทนได้มากกว่าคนส่วนใหญ่ โดยที่ยังไม่ได้รวมส่วนต่างราคาหุ้น ถ้าหุ้นตัวนั้นลง แล้วเราเข้าซื้ออีก เราจะได้หุ้นมากขึ้นโดยใช้เงินที่น้อยลง และอัตราปันผลที่มากขึ้นตามไปด้วย

.

ต้องจำไว้ให้ดีว่า หุ้นปันผลดี ส่วนใหญ่มักจะเป็นหุ้นที่มีมูลค่าไม่แพง เป็นหุ้นที่เหมาะสมต่อการถือลงทุนระยะยาว

.

2. หุ้นปันผลดีมากๆ บ่งบอกว่าบริษัทอิ่มตัว ไม่เติบโตอีกต่อไปแล้ว
การปันผลมากเป็นเหมือน "ดาบสองคม" อย่างที่กล่าวในตอนแรก หุ้นปันผลดีบ่งบอกว่าหุ้นตัวนั้นมีมูลค่าที่ไม่แพง ในทางเดียวกันหุ้นที่ปันผลดี อาจจะบ่งบอกว่าบริษัทถึงจุดอิ่มตัว ผู้บริหารไม่สามารถหาการเติบโตรอบใหม่ได้จึงจำเป็นจะต้องนำกำไรทั้งหมดออกมาปันผล และสุดท้ายราคาหุ้นก็จะลงในท้ายที่สุด

.

สิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังเกี่ยวกับตัวหุ้น คือ Growth หรือ "การเติบโต" ตราบใดที่บริษัทไม่สามารถเติบโตได้ เป็นธุรกิจที่อิ่มตัวแล้ว นักลงทุนมักจะขายหุ้นมากกว่าเข้าไปซื้อ ดังนั้นเราจะต้องดูให้ดีว่าหุ้นปันผลมาก นั้นหมายถึงมูลค่าของหุ้นถูก หรือเป็นเพราะบริษัทนั้นอิ่มตัวแล้ว

.

3. หุ้นปันผลสามารถขอคืนภาษีได้ *** (ข้อนี้สำคัญ)
นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเงินปันผลที่ได้ เมื่อครบปีเราสามารถขอคืนภาษีกับทางสรรพากรได้

.

โดยขอภาษีคืนในกรณีที่บริษัทจดทะเบียนจ่ายภาษีจากกำไรสุทธิก่อนนำจ่ายเงินปันผล และมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายกับผู้ถือหุ้นอีกครั้ง ทำให้มีการเสียภาษีซ้ำซ้อน ซึ่งเราสามารถเข้าไปดาวโหลดเอกสารเรื่องหุ้นปันผลประจำปีได้ที่ TSD Investor Portal ที่สรุปยอดเงินปันผลในแต่ละอัตราภาษีของทุกหลักทรัพย์ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการรวบรวมข้อมูลเพื่อยื่นต่อกรมสรรพากรก่อนลงทุนในหุ้นปันผล ถ้านักลงทุนท่านใดยื่นภาษีออนไลน์เป็นประจำอยู่แล้ว ทาง TSD ก็มีทำไฟล์เพื่อการยื่นภาษีออนไลน์โดยเฉพาะครับ สะดวกสบายมาก และไม่ต้องกลัวว่าจะยื่นภาษีผิด หรือยื่นไม่ครบทุกหลักทรัพย์

.

4. หุ้นปันผลไม่ได้เป็น "Safe Heaven" อย่างที่หลายคนเข้าใจ
ถ้าบริษัทจ่ายเงินปันผลเมื่ออยู่ในสภาพทางการเงินที่ดีอยู่แล้ว เงินปันผลมักจะมีโอกาสจ่ายได้ตลอดไป แต่แท้จริงแล้ว การจ่ายเงินปันผลในบางครั้ง มักใช้เพื่อคลายความกังวลให้กับนักลงทุนเมื่อหุ้นไม่เคลื่อนไหวไปไหน บริษัทจำนวนมากได้เพิ่มเงินปันผลเมื่อธุรกิจมีการแข่งขันมากขึ้น การจ่ายเงินปันผลในลักษณะนี้มีการจบลงด้วยการตายจากไปของกิจการ การจ่ายเงินปันผลลักษณะนี้ทำให้นักลงทุนบางรายหลงเข้าไปซื้อหุ้นโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงกับดักนี้ให้วิเคราะห์ว่าผู้บริหารจ่ายเงินปันผลให้สมเหตุสมผลหรือไม่ นอกจากนี้หากเงินปันผลมีเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นลดลง ก็มีโอกาสที่จะติดหุ้นได้เช่นกันอย่างในช่วงวิกฤตปี 2008 จนสุดท้ายหุ้นไม่สามารถจ่ายปันผลได้

.

ทั้ง 3 เรื่องของหุ้นปันผลนี้ เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดกันอยู่บ่อยๆ ตัวอย่างหุ้นปันผล เช่น หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD, หุ้นที่อยู่กอง REITs หากนักลงทุนเข้าใจหุ้นปันผลแล้วจะช่วยทำให้เลือกหุ้นเข้าพอร์ตการลงทุนได้อย่างเหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของตนเองต่อไปครับ


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง