#มือใหม่เริ่มลงทุน

“การลงทุน” มองผ่านๆก็เหมือน “การพนัน” แต่ถ้ามองอย่างเข้าใจมันคือ “การออม” My Way My Investment EP.13

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
258 views

 

 

“การลงทุน” มองผ่านๆก็เหมือน “การพนัน”

แต่ถ้ามองอย่างเข้าใจมันคือ “การออม”


 

สวัสดีเพื่อนๆนักอ่าน และนักลงทุนทุกท่านค่ะ กลับมาพบกับอีกครั้งกับ โปรเจกต์ดีๆ ที่เราพวกเราชาว stock2morrow ตั้งใจทำขึ้น เพราะเราเชื่อว่า #ทุกอาชีพสามารถลงทุนได้ กับโปรเจกต์ My Way My Investment มาถึง EP.13 กันแล้ว ครั้งนี้เป็นบทสัมภาษณ์อีกครั้งที่พิเศษสุดๆ เพราะเรามาพร้อมกับอาชีพ “นักร้องนักดนตรี”  

คุณอัทธ์ อังค์กูณฑ์ ธนาทรัพย์เจริญ นักร้องนำจากวง วงเยสเซอร์เดย์ส (Yes’sir Days) สังกัด genie records GMM grammy เห็นหน้าหล่อๆตามเวทีคอนเสิร์ตมานาน สัมภาษณ์ครั้งนี้ทำให้เรารู้จักมุมเนิร์ด ๆ แบบที่เป็นนักลงทุน ซึ่งเป็นอีกมุมหนึ่งเลยของคุณอัทธ์ ที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ การเริ่มต้นการลงทุน ความล้มเหลวในการลงทุนของเขา จะเป็นบทเรียนที่ดีอีกหนึ่งบทเรียน ให้เราได้ไตร่ตรอง และระมัดระวังการลงทุนของตัวเราเองโดยผ่านประสบการณ์ของคนอื่น ..นอกจากร้องเพลงเพราะแล้ว คุณอัทธ์มีวิธีคิดในมุมมองการลงทุนอย่างไร เราไปเริ่มบทสัมภาษณ์กันเลยดีกว่า

 

Q : แนะนำตัวให้พวกเรารู้จักหน่อยค่ะ ทำอาชีพอะไรอยู่ แล้วตอนนี้ลงทุนอะไรอยู่บ้าง
 

สวัสดีครับ ผมอัทธ์ วงเยสเซอร์เดย์สนะครับ ก็เป็นนักร้องนำอยู่ที่วงเยสเซอร์เดย์สครับ ค่าย genie records GMM grammy ครับผม นอกจากการเป็นนักร้อง ก็จะเรียกว่าเป็นนักลงทุนไหม? ส่วนตัวเรามองว่ามันเป็นการเก็บเงิน ออมเงินมากกว่าครับ แล้วก็ตอนนี้มีเริ่มทำโปรเจกต์หนึ่งเป็น Application ที่ไว้สำหรับวางแผนการเงินส่วนบุคคลด้วยครับ

 

Q : ทำไมถึงเริ่มลงทุนทั้งๆที่มันดูไกลตัว และไกลกับอาชีพที่ทำอยู่มาก

 

ต้องเล่าก่อนว่า เราจบเศรษฐศาสตร์มา ซึ่งจริงๆหลายคนจะแบบ เห้ย! จริงหรอ? ปกติแล้วคนมักจะมองว่า ต้องจบนิเทศฯแน่เลย เป็นนักร้องอะไรแบบนี้ ตอนที่จบมาแรกๆเลย ก็เป็นเด็กเปรี้ยวๆนะ เรียนเศรษฐศาสตร์ เราก็ลองเข้าตลาดหุ้นก่อนเลย ลองแบบเล่นแบบ Day Trade ด้วย ปรากฎว่า ‘เจ๊งครับ ยับเลยล่ะ’ (หัวเราะ)

Q : ถือว่าเป็นช่วงการลงทุนที่ผิดพลาดของชีวิตได้ไหม ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย


ตอนนั้นเราเริ่มทำงานโฆษณา ถ่ายแบบอะไรนี้บ้างแล้ว เริ่มมีเงินเก็บแล้วละ ก็ไปลอง Trade ลองวิชา คือเสียไปเป็นแสนได้เลย  ตอนนั้นอ่ะ ก็เป็นประสบการณ์ที่ผิดพลาดหนักเลย เล่นเองด้วยนะ รู้แบบงูๆปลาๆ ลองของไง มีคนเขาบอกว่ามันจะดีเงี่ย เปรี้ยวด้วยตอนนั้นคือคิดเข้าไปลงทุน แบบว่าไปรวย เหมือนเป็นการพนันซะมากกว่า แต่พอโดนไปเยอะก็ต้องหยุด หยุดไปพักนึงเลยครับ หลายปีเหมือนกัน เพราะว่ากลัวไปเลย

 

Q : แล้วกลับมาลงทุนได้ยังไง

 

เอาจริงๆ ก็แอบตามอยู่บ้าง แต่พอมาเป็นนักร้อง เราต้องเสียภาษีอะไรแบบนี้ ก็เลยกลับมาศึกษาดูแบบจริงจังมากขึ้น เพราะการเรียนเศรษฐศาสตร์คือจะสอนให้เรา มองและวางแผนอนาคตอยู่แล้วนะ ก็เริ่มหาข้อมูลต่างๆ ตามเว็ปไซต์ตามเพจอะไรแบบนี้ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับมาใหม่ทำให้ มุมมองมันเปลี่ยนเป็น จากการเข้าไปเล่นเหมือนเล่นพนัน เป็นการวางเงินไปเพื่อเป็นการออมแทน
 


Q: พอเริ่มกลับมา มองการลงทุนแบบไหนไว้ จนถึงตอนนี้ลงทุนอะไรอยู่บ้าง?

 

ตอนนั้นคือซื้อ LTF RMF อย่างเดียวครับ แต่ก็แอบดูตลาดไปด้วย คือเราจำได้ว่าช่วงที่เรียนจบ แล้วลองของตอนนั้น หุ้น AOT ประมาณ 3-5 บาทพอมันผ่านมาอีกหลายปี เรากลับมาอยู่ในวงการการลงทุน คือมันแบบ เห้ย! ทำไมมันหลายร้อยเลยว่ะ เราทำอะไร เราไปไหนมา (หัวเราะ) จากเรื่องนี้ด้วย เลยเริ่มศึกษาเพิ่มขึ้น หาข้อมูลเพิ่มขึ้น ได้คำตอบว่า ถ้าเราเก็บระยะยาว มองระยะยาว ใช้เวลานานๆ แล้วออมมันแทนละ มันน่าจะเวิร์คกว่า ก็เลยค่อยๆเก็บ ค่อยๆทำ ค่อยๆออม มาเรื่อยๆนะ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ก็แอบนอกลู่นอกทางบ่อย เพราะเก็บเฉยๆ มันไม่สนุกไง ก็มีแอบๆเล่น แอบๆเทรดอย่าง Forex อะไรแบบนี้บ้าง เห็นตามเพจ มีอาจารย์คนนั้นสอน คนนี้พูดถึง เราก็แอบไปเรียนดู มีมาเทรดบ้าง ให้มันสนุกๆ

 

Q : แล้วที่หันมาทำ Application เกี่ยวกับการวางแผนการเงินด้วย อะไรที่ทำให้คิดอยากทำ

 

ด้วยความที่ เราคือเรียนเศรษฐศาสตร์มา และการเป็นศิลปิน อยู่ในวงการบันเทิง เรามีเพื่อนที่เป็นคนประเภทว่า ได้เงินมาแล้วใช้เลย ซึ่งเราก็เคยเป็นเหมือนกันนะ แบบได้มาแล้วหมดไป คือมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวเหมือนกัน ถ้าคนเราไม่ได้คิดจะวางแผน หรือไม่ตั้งเป้าเพื่ออนาคตเลย เหมือนว่าหาเงินใช้ไปวันๆแค่นั้น ในสถิติของคนไทย มีเปอร์เซ็นของ คนที่ทำงานแล้วเกษียณไม่ได้มีอยู่เยอะเลย ผมไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ แต่เหมือนจะ 80-90% เลยนะ แล้วในเมื่อเหมือนว่า เราจะมีความรู้ (ยิ้ม) เราน่าจะเป็น 1 เสียงที่บอกได้ว่า สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากกว่าการหาเงิน คือไม่ว่าทำอาชีพอะไร หาเงินเก่งอ่ะถูกแล้ว แต่มากกว่าการหาเงินเก่งอ่ะ คือการจัดการ และการเก็บเงินที่ต้องเก่งและถูกต้องด้วย ก็เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เราอยากทำ Application นี้ขึ้นมา เพื่อที่จะช่วยเพื่อนๆ หรือพี่ๆ ที่รู้จัก หรือคนทั่วไป ที่มองว่าเรื่องเงินเป็นเรื่องไกลตัว มีคำถามว่า ทำไมมันต้องหุ้นว่ะ แล้วหุ้นมันคืออะไร กองทุนคืออะไร

 

Q : แล้วเห็นทำเพจใน Facebook เรื่องการเงินด้วยใช่ไหม

 

เพจคือ สิ่งที่ต่อยอดไว้แบ่งปันความรู้ครับ ให้คนคิดหรือตระหนักรู้ว่า เออ! วันนี้เราเก็บเงินหรือยัง หรือเราใช้เงินเกินไปหรือป่าว เพื่อให้เค้าสะกิด การนึกถึงตัวเองในอนาคตด้วย แต่เด็กสมัยนี้ผมว่ามันเรียนรู้ได้เร็วนะครับ ตอนนั้นที่ผมไปเรียนเทรด Forex คือไปนั่งเรียนกับน้อง ม.4 เลยนะ เหมือนเขาชอบอยู่แล้ว และคุณพ่อน้องเองก็เล่นหุ้นด้วย ก็เลยสนใจ และก็มาเรียน


 

Q : คิดว่าตัวเองเป็นคนชอบให้ ชอบช่วยเหลือคนอยู่แล้วหรือเปล่า อย่างร้องเพลงก็ให้ความสุข ทำ App ทำ Page ก็เพื่อช่วยคนอื่น

 

คือสุดท้ายแล้วชีวิต จะมีเงินมากหรือน้อย หรือทำอะไรก็ตาม สิ่งที่ดีที่สุดคือการแบ่งปันกันมากกว่านะครับ การส่งต่อพลังงานดีๆ ความคิดดีๆ ความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน เพราะว่าบางที ทุกวันนี้มันอาจจะดูเครียดเกินไปหรือเปล่าในสังคม? แค่ยกตัวอย่างอย่างการขับรถ บีบแตรกัน ปาดหน้ากัน อะไรแบบนี้ มันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่เราควรจะแบ่งปันกันนะในท้องถนนนี้ สมมุติเราจะไปแล้วเขาเลี้ยวมาจะออก เราหยุดให้ เขาหันมาขอบคุณครับอะไรแบบนี้ มันคือการได้ให้ความรู้สึกดีๆ ต่อกันแล้วนะ และผมว่า ถ้าคนทุกคนพยายามส่งต่อ พลังงานดีๆ ต่อกันไปเรื่อยๆ ผมว่าสังคมมันจะน่าอยู่ขึ้นด้วย

 

Q : ทำไมตอนนั้นถึงเรียนเศรษฐศาตร์ อยากเป็นนักร้องไม่เรียนด้านดนตรีไปเลย
 

จริงๆมีสองความฝันตั้งแต่เด็กแล้วนะ แตกต่างกันมากๆๆๆๆ คืออยากเป็นนักร้องกับอยากเป็นนายกรัฐมนตรี (หัวเราะ) ที่อยากเป็นนายก เพราะว่าช่วงนั้นที่วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ที่มีจอร์จ โซรอสมา แล้วตามมาด้วยวิกฤตต้มยำกุ้ง คือมันกระทบที่บ้านผมด้วยนะ ตอนนั้นมีแต่คำถาม มันเกิดอะไรขึ้นว่ะ? ไอ้นี่มันเป็นใคร? แล้วทำไมมันใช้อะไร? อะไรที่ทำให้เศรษฐกิจมันพังแบบนั้น ก็คิดเลยว่าถ้าเรามีความรู้เรื่องการลงทุนเหล่านี้ แล้วเราไปทำให้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ได้ หรือจะแก้ไขอะไรได้บ้าง อะไรแบบนี้ มันคงจะดี

 

 

Q :นักร้องหรือลงทุน ชอบอะไรมากกว่า แล้วคิดว่ามีอะไรที่สองอาชีพนี้เหมือนกัน

มันสูสีมากเลยนะ สิ่งที่เราชอบเรารัก มันก็จะอยากทำมัน พอเราร้องเพลงก็ได้ความสุขทั้งตัวเราและแฟนเพลง อย่าง App มันคือช่วยเหลือคน ให้ความรู้และความสุข อย่างทำ Page ก็ให้ความรู้ กับการเป็นนักร้อง คือเราทำเพลงก็จะรู้ว่าคนชอบฟังอะไร Page เองก็เอามาปรับ ลดความยากของการฟัง หรือการรับสารลง คนอยากได้ยิน หรือเราต้องการสะกิดอะไรคนฟังหรือมนุษย์อ่ะ เราก็พยายามปรับภาษา หรือหามุมมอง ให้น่าสนใจ  

 

ถ้าให้เปรียบเทียบที่เหมือนกัน นักร้อง กับ การลงทุน เหมือนเป็นการเดินทาง ที่ต้องไปให้ถึงความสำเร็จ อย่างเราอยากเป็นนักร้องอยากเป็นตั้งแต่มัธยม เราก็พยายามร้องพยายามฝึก เอา Demo ไปยื่นที่นู้นที่นี่ ฝึกฝีมือ จนวันนึงเราได้เข้ามาในค่าย ค่อยๆประสบความสำเร็จไปเรื่อยๆ ได้ทำเพลง เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น อะไรแบบนี้ ผมว่าการลงทุนก็เหมือนกัน ต้องค่อยๆเก็บไปเรื่อยเรามีเป้า ก็ทำให้ถึงเป้า พอได้เป้า 1 ก็มี เป้าที่ 2และ 3ตามมา มันคือระยะเวลา ที่ก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ละขั้น เนี่ยแหละที่มันเหมือนกัน

 

Q : คิดว่าแนวทาง หรือสไตล์การลงทุนของตัวเองเป็นแบบไหน

 

แนวที่ผมชอบคือเป็นการออม ระยะยาว เขาเรียกว่า อะไรนะ VI หรือเปล่า? เพราะว่าผมเป็นคนไม่ค่อยชอบที่ไปนั่งเฝ้า ไปนั่งมองหน้าจอ เพราะเราทำงานอื่นด้วย ไปทำอย่างอื่นที่อยากทำ แต่อย่างเพื่อนผม มือกลองเยสเทอร์เดย์ส เขาจะเป็นสาย  Day Trade แปดโมงมันเอาแล้ว ตื่นมาปั๊บ ดูนู้นนี้ ขึ้นหรือลง ก่อนนอนมันก็จะทำการบ้าน บางวันมันก็จะมาบอก เห้ย! วันนี้มันเป็นแบบนี้นะ ดูกราฟดิ เนี่ยแนวรับเผื่อเด้งอะไรแบบนี้ ถ้าเราสนใจและมีเวลาก็จะเข้าไปดู เพราะก็มีไปเรียนเทคนิค กราฟ อะไรมาบ้าง ไม่ใช่แค่พื้นฐานอะไรแบบนั้น แต่จริงก็คือชอบ VI มากกว่า

 

Q : บอกเคล็ดลับการลงทุนของตัวเองหน่อย

 

คือ ต้องรู้พื้นฐานก่อน แล้วก็รู้เทคนิคบ้าง นิดหน่อยนะ ต้องรู้  รู้ว่าช่วงนี้มันย่ออยู่นะ ต้องซื้อ หรือตอนนี้ แนวต้านหรือ แนวรับ ต้อง cut ทิ้งก่อน มีแผนไว้ว่ารับช่วงไหน จะได้ทัน เพราะเราไม่ได้บู๊ล้างผลาญอย่างแนวที่เขาเทรดทุกวันอยู่แล้ว แต่เราต้องรู้เพื่อให้เป็นประโยชน์กับการตัดสินใจ ซึ่งดีกับคนที่อยากออมเงินด้วยนะครับ


 

Q : แบ่งเวลายังไง ทั้งร้องเพลง ลงทุน ทำApp ทำPage

ก็ส่วนใหญ่คือ เวลาทั้งหมด ก็คือร้องเพลง อยู่ที่ช่วงงานเยอะไม่เยอะไม่ด้วยครับ ออกเพลงใหม่มา เป็นกระแสหรือป่าว เพลงดังไม่ดังเป็นช่วงๆไป แต่ก็คือจะล็อกคิวเล่นเพลง เล่นคอนเสิร์ต เป็นหลักก่อน แล้วถึงแบ่งเวลาลงเรื่องอื่นๆ อย่างเข้าบริษัทคือก็ล็อคคิววันจันทร์ เพราะว่าวันจันทร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคิวเล่นคอนเสิร์ต  และอย่างนึงเลย ผมชอบออกกำลังกาย 4-5 วัน ปกติเวลาตื่นมาคือเที่ยง ก็ไปวิ่งเลย แต่ถ้าต้องไปคอนเสิร์ตต่างจังหวัดก็จะแอบพกรองเท้าไปก่อน พอลงเวทีก็คือวิ่ง หรือหาฟิตเนสที่โรงแรม อะไรแบบนั้น เราก็พยายามจะสร้างความสมดุลนะ ทำงานเยอะมันก็ดี แต่สุขภาพมันก็สำคัญ จริงๆคือมันเป็นการคิดพ่วงและต่อเนื่องกันมา อย่างเราวางแผนว่าจะเก็บเท่านี้ๆ กี่ปี ปีละกี่บาท เอาไปลงทุนต่อยังไง มันทำให้เรารู้ว่าเราต้องทำงานเท่าไหร่ ถึงพอ แล้วเอาเวลาไปดูแลตัวเอง ไม่ต้องหักโหมเรื่องงานมากเกินไป พอมันสมดุลมันสนุกกว่า ส่วนเวลาดูตลาดก็อย่างบางทีที่นั่งในรถตู้ ตอนเดินทางอะไรแบบนี้ เพราะส่วนใหญ่งานร้องเพลงมันก็จะกลางคืนอยู่แล้ว ก็นั่งกดๆดูไปครับ


 


Q : ยังมีบางคนที่คิดว่าการลงทุนมันไกลตัว ช่วยฝากบอกอะไรหน่อย

ตอนนี้ก็คือคนส่วนใหญ่ก็จะเก็บเงินในแบงค์ ไม่กล้าลงทุน เพราะกลัวว่ามันเสี่ยง ผมว่าก็มันเสี่ยงแหละ ถูกแล้ว แต่ให้ถามตัวเองว่า อย่างยกตัวอย่าง AOT ที่ผมเคยเจอมา ทำไมหุ้นนี้มันถึงน่าซื้อ หรือไม่น่าซื้อเพราะอะไร? คำถามที่ผมจะถามที่คนไม่เคยลองลงทุนเลย จะถามว่า สนามบินจะเจ๊งได้ยังไง คำตอบคือเจ๊งได้อย่างเดียวคือ ไม่มีคนเดินทางด้วยเครื่องบิน ซึ่งมันยากมากเลย ถ้าเรามองเห็นภาพรวมของมันได้ ความเสี่ยงมันจะดูหายไปเลย แต่ ณ ตอนนี้ AOT คือต้องดูเรื่องการโตของมันละ ถ้าจะเล่นก็ศึกษาในทางลึกก็ต้องไปดูต่อเองนะครับ (ยิ้ม) อีกนิดเดียวที่อยากจะบอก คือ เงินเฟ้อย้อนหลัง 3% กว่าแล้วนะครับ 3.3% แล้ว ฝากแบงค์ ออมทรัพย์เท่าไหร่ 0.2% ไหม? เท่าที่รู้กัน การลงทุนเนี่ยแหละเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่าของเงิน ให้เงินของคุณมันขยับขึ้นมาได้ อีกอย่างนึงเลยคืออยากให้ทุกคนมองว่ามันเป็นการออม ตั้งเป้าหมายให้มันเป็นการออม ตั้งเป้าหมายว่าเราอยากออมเท่าไหร่ หลายคนอาจจะลืมการตั้งเป้าหมาย สมมุติเราอยากมีล้านแรก เราตั้งเป้าไว้ แล้วมันจะค่อยๆคิด Step  back กลับมาเองว่า แต่ละขั้นต้องเดินไปอย่างไร ให้ถึงเป้าหมาย ให้ถึงล้านแรก แล้วเราจะอยากทำให้มันดีกว่าเดิม ดีกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ผมมองว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องอยากขนาดนั้น ยิ่งสมัยนี้มี มันมีให้อ่าน ให้เรียนรู้เยอะมาก คนทั่วไปก็จะชอบบอก ชอบสอนกันอยู่แล้ว เริ่มจากง่ายก่อนก็ได้ อย่างกองทุนก็ได้ เริ่มกันครับไม่ต้องเพื่อใคร เพื่อตัวเองครับ..

----------------------------------------

 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง