#แนวคิดด้านการลงทุน

OPEC มีความสำคัญต่อประเทศไทยอย่างไร?

โดย Mark Yagalla
เผยแพร่:
6,929 views

ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา โอเปคได้ยึดตลาดน้ำมันของโลกไว้แน่น โดยเมื่อเดือนกันยายน ปี พ.ศ 2561 ประเทศสมาชิกของโอเปคทั้ง 17 ประเทศนั้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 44% ของการผลิตน้ำมันทั่วโลกและ 81.5%ของปริมาณสำรองน้ำมันที่พิสูจน์แล้วของโลก การครอบคลุมนี้ทำให้หลายประเทศอย่างประเทศต้องไทยต้องพึ่งพาโอเปคสำหรับการนำเข้าน้ำมันดิบ
 
อย่างไรก็ตามสิ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนไป เมื่อปีที่แล้วสหรัฐอเมริกาได้ขึ้นเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกแซงหน้ารัสเซียและซาอุดิอาระเบีย โดยการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาเกินกว่าซาอุดิอาระเบียเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองทศวรรษ ในเดือนมิถุนายนและสิงหาคมของปีที่แล้วสหรัฐอเมริกาแซงหน้ารัสเซีย ในด้านการผลิตน้ำมันดิบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2542
การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากน้ำมันดิบเกรด Light Sweet ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2011. การเจริญเติบโตที่ผ่านมาส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่เช่นภูมิภาค เพอร์เมียน ในเท็กซัสฝั่งตะวันตกและทางตะวันออกของนิวเม็กซิโก ภูมิภาค เบคเคน ทางตอนเหนือของดาโกต้าและมอนทาน่า
 
สหรัฐฯได้ผลิตน้ำมันจำนวนมากจนกลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบสุทธิ สิ่งนี้ทำให้ บริษัท น้ำมันของไทยสามารถซื้อน้ำมันดิบในสหรัฐฯและไม่ต้องพึ่งพาโอเปค อีกต่อไป มีรายงานจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เมื่อปีที่แล้วว่าการส่งออกสหรัฐฯมาประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเป็น 2 ล้านบาร์เรล โดยแบ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ 1 ล้านบาร์เรลจาก WTI Midland. ในขณะที่ไทยออยล์ และเอสโซ่ประเทศไทยซื้อน้ำมันดิบ Bakken อย่างน้อย 500,000 บาร์เรลต่อบริษัท
 
นี่เป็นเรื่องใหญ่และประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างมากสำหรับประเทศไทยเนื่องจากน้ำมันดิบในสหรัฐฯนั้นถูกกว่าน้ำมันดิบเบรนท์เกือบ 8 ดอลลาร์
 
ดูแผนภูมิสำหรับด้านล่างประกอบในแต่ละประเภท

ด้วยความสามารถในการซื้อน้ำมันดิบที่ถูกกว่าจากสหรัฐฯจะช่วยเพิ่มกำไรของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) โดยตรง โดยการใช้น้ำมันดิบในการกลั่นที่ถูกกว่าทำให้ บริษัท เหล่านี้สร้างรายได้จากการขายน้ำมันเบนซินและดีเซลมากขึ้น

 

ความสามารถนี้สำหรับ บริษัท น้ำมันของไทยที่จะซื้อจากสหรัฐอเมริกามีความสำคัญมากเนื่องจากผมคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นต่อไปอย่างน้อยก็ในฤดูร้อนก่อนที่จะลดลง ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง นี่เป็นรูปแบบความต้องการตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นทุกปีโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาจะนับช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงของการขับรถ โรงเรียนในสหรัฐอเมริกาปิดทำการในช่วงฤดูร้อนและผู้ปกครองส่วนใหญ่พาลูก ๆ ไปเที่ยวและขับรถส่วนตัวไปด้วยและเมื่อมีรถอยู่บนท้องถนนมากขึ้น จึงทำให้ความต้องการทางน้ำมันสูงสุดในรอบปี

 
ขณะนี้สหรัฐฯเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกและส่งออกมายังประเทศไทย จึงทำให้โอเปคจึงไม่สำคัญต่อประเทศไทยเท่าที่เคยเป็นมา
 
บทความโดย Mark Yagalla
แปลโดย สมศักดิ์ ฉายะมณีรัตน์
---------------------------------------------------
อ่านบทความต้นฉบับได้ที่นี่

How Important Is OPEC To Thailand?

For the past 50 years, OPEC has held a tight grip on the world’s oil
market. As of September 2018, the then 17 member countries
accounted for an estimated 44 percent of global oil production and 81.5
percent of the world's "Proven" oil reserves. This dominance has made
countries like Thailand reliant on OPEC for its crude imports.
However, things are now changing. Last year, the United States
surpassed Russia and Saudi Arabia to become the world’s largest crude
oil producer. U.S. crude oil production exceeded that of Saudi Arabia for
the first time in more than two decades. In June and August of last year,
the United States surpassed Russia in crude oil production for the first
time since February 1999.
U.S. crude oil production, particularly from light sweet crude oil grades,
has rapidly increased since 2011. Much of the recent growth has
occurred in areas such as the Permian region in western Texas and
eastern New Mexico, the Federal Offshore Gulf of Mexico, and the
Bakken region in North Dakota and Montana.
The U.S. now produces so much oil that it has become a net exporter of
crude oil. This has allowed Thai oil companies to purchase U.S. crude
and not have to rely any longer on OPEC. It was reported by the
Bangkok Post last year that US exports to Thailand will increase to at

least 2 million barrels. State oil company PTT Plc is 1 million barrels of
WTI Midland, while Thai Oil and Esso Thailand bought at least 500,000
barrels of Bakken crude each.
This is a big deal and big cost savings for Thailand as U.S. crude is
cheaper than Brent North Sea by almost $8. Have a look at the charts
for each.

By being able to purchase cheaper crude oil from the U.S., it directly
boosts the bottom lines of PTT Public Company Ltd (PTT) and Thai Oil
Public Company Ltd (TOP). By using cheaper U.S. crude in refining,
these companies make more money selling gasoline and diesel.
This ability for Thai oil companies to purchase from the U.S. is very
important as I expect oil prices to continue climbing, at least into the
summer before dropping in the fall. This is a seasonal demand pattern
that occurs every year, particularly in the US where we have the summer
driving season. Schools in the U.S. are off for the summer months and
most parents take their kids on vacation and most drive. With more cars
on the road, demand for gasoline and diesel is at the highest point of the
year.
Now that the U.S. is the world’s largest crude producer and exporting to
Thailand, OPEC is not as important to Thailand as it once was.


อดีต Hedge Fund ผู้มีชื่อเสียงจาก Wall Street สามารถทำเงินจากการเทรดกว่า 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ภายในอายุ 19 เป็นผู้บริหารกองทุนขนาดกว่า 50 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐในเวลาต่อมา. เป็นผู้เขียนบทความต่างๆมากมายบน website ทางการลงทุน เช่น Insider Finance, The Motley Fool, Seeking Alpha, และ Hacker Noon. และผลงานหนังสือ Wall Street Joyride: The True Story of the Prodigy, the Playmates and the Missing $50 Million

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง