#แนวคิดด้านการลงทุน

!!! การลงทุนแบบชิวๆ อะไรทำให้เกิดสิ่งนี้กันนะ !!!

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
99 views

เรื่องของความชิลกับการลงทุน การลงทุนแบบชิลชิล จะชิลมาก หรือชิลต่ำ อะไรคือสิ่งที่ทำให้เกิดสิ่งนี้กันนะ?

หลายๆครั้งที่ผมต้องเจอกับสถานะการณ์ที่ต้องตอบเพื่อนๆนักลงทุนว่า 
"เครียดมะเวลาลงทุน" 
"ทำไมถึงชิลจังกับการลงทุน"
"ทำไมมั่นใจจัง...จัดหนักขนาดนั้นเลยกับการลงทุนรอบนี้"
"ลงทุนเท่าไหร่ถึงเรียกว่าเสี่ยงสูง"

คือแบบนี้ครับในมุมมองของผม...ผมมองทุกอย่างเป็น % ออกมาก่อน เช่น เรื่องของหน้าตักเงิน ผมจะไม่ได้สนใจว่ามันคือเงินจำนวนเท่าไหร่ เช่น 1 หมื่น , 1 แสน , 1 ล้าน แต่ผมจะมองว่ามันคือเงินที่นำมาลงทุน เมื่อได้มาเท่าไหร่ แปลว่านั้นคือระดับความเสี่ยงทั้งหมดที่ผมรับได้ เช่น รวมเงินมาทั้งเนื้อทั้งตัวแล้ว...ได้เงินมา 20,000 บาท บางคนอาจบอกว่าน้อยจุง แต่สำหรับผม ผมจะตัดเรื่องนี้ออกไป

เพราะผมมองว่าแต่ละคนมีความพร้อมไม่เหมือนกัน ระดับฐานะทางสังคมแตกต่างกัน แต่ไม่อาจมีสิ่งใดมาปิดกั้นการเรียนรู้ และโอกาสในการลงทุนของเราได้ ดังนั้นผมจึงมองว่า 20,000 บาทคือเงินที่จะนำมาลงทุนได้ และมันคือเงิน 100% และต่อมาจะคิดว่าโลกนี้เวลาเราทำอะไรก็ตาม

มันมีความเสี่ยงหมด แม้เราจะคิดวางแผนมาอย่างดีอะไรๆในโลกใบนี้ก็เกิดขึ้นได้หมด ดังนั้นทุกอย่างเสี่ยงหมด ผมก็จะคิดไปเลยว่าเงินนี้ถ้าพลาดคือเหลือ 0 บาทเลยนะ รับได้หรือไม่ ถ้าผมตอบตัวเองแล้วว่ารับได้ก็จบเรื่องความเสี่ยงที่รับได้ไป

มาต่อครับ 100% จะลงทุนอย่างไรให้ชิล และจะชิลมาก ชิลน้อยมีองค์ประกอบอะไรบ้าง จริงๆมันมีหลายจุดวัดครับ เช่น ได้ข่าววงในมาเจอหุ้นเด็ด หรือฝันเห็นหุ้นเด็ดก็ตาม 555 ถ้าคนเชื่อในสิ่งนั้น เขาอาจจัดหนักใส่เลยทีเดียว 100% ก็ได้ ถามว่าเสี่ยงมั้ย มันก็ต้องดูว่าตอบจากมุมมองของใคร บางคนอาจบอกว่าเสี่ยง บางคนบอกไม่เสี่ยง มันเลยวนมาที่คน...ที่เป็นเจ้าของเงิน ถ้าเจ้าของเงินเชื่อมั่นและตอบตัวเองได้หมดแล้วก็ไม่เสี่ยง เพราะมั่นใจ ดังนั้นผมเลยเอาปัจจัย เรื่อง 
1. ความมั่นใจ
2. การแบ่งเงินหน้าตักจาก 100%
3. ความรับรู้ของจิตใจที่จะส่งผลต่อความรู้สึกว่า "ชิลระดับไหน"

ลองมาดูจากรูปกันครับ 
 

1. กรอบบนสุด มั่นใจมาก จัดหนัก 100% ในหุ้นตัวเดียวเลยซื้อมันที่ราคาตลาดนั้นเลยเคาะซื้อ ความชิลอาจหายไปได้ แต่ถ้าคนนั้นมั่นใจเขาอาจชิลก็ได้แต่ก็ต้องฝึกมาอย่างดีมากๆ และระดับความเสี่ยงถ้าตามความรู้เรื่องการบริหารจัดการเงินแล้ว ก็ถือว่าเสี่ยงสูง
 
2. กรอบล่างสุด มั่นใจต่ำ จัดทีละ 10%ของพอร์ต ในหุ้นตัวเดียวกระจายซื้อทีละโซนราคา หรือกระจายซื้อหุ้นหลายๆตัวก็ตาม ความชิลก็จะสูงมากขึ้นไม่ต้องรับแรงกดดันอะไรมาก นอกจากว่าดันเจอแจ๊คพอตแตกหุ้นทุกตัวที่ซื้อลงหมดและลงอย่างหนักก็อาจไม่ชิลได้เช่นกัน แต่ถ้ามองจากระดับความเสี่ยงของการบริหารจัดการเงินแล้ว ก็ถือว่าเสี่ยงต่ำ
  
ซึ่งในโลกการลงทุน เราก็สามารถปรับระดับการบริหารจัดการหน้าตักเงินลดลงไปอีกได้นะครับ เช่น 0.5% 1% 2% 3% 5% ซึ่งตรงนี้คนที่เป็นเจ้าของเงินจะทราบและเข้าใจดีว่าตัวเองมีความพร้อมระดับไหน ความแม่นยำในการเข้าซื้อหุ้นเพื่อการลงทุนนั้นแม่นยำระดับไหน ก็จะสามารถออกแบบระดับ % ได้เหมาะสมตามสไตล์การลงทุนของตัวเองได้ครับ


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง