"เงินที่สร้างจากอากาศ จะมีค่าได้อย่างไร"
นี้อาจจะเป้นคำถามสงสัยของนักลงทุนหลายๆคนที่ว่าเงินดิจิตอลถูกสร้างขึ้นมาจากกลุ่มคนเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่าง จะมีมูลค่าที่สูงขึ้นได้อย่างไร ซึ่งแตกต่างจาก"หุ้น" หรือ"อนุพันธ์" ที่ต่างมีมูลค่าขึ้นลงได้ตามปัจจัยบางอย่าง เช่น หุ้นจะมีมูลค่าขึ้นกับผลประกอบการและปันผลที่บริษัททำได้ หรือแม้แต่อนุพันธ์เองจะมีสินค้าที่ตัวเองอ้างอิงอยู่จึงเกิดแรงเก็งกำไรขึ้นมาในหมู่เทรดเดอร์ เป็นต้น
ส่วนการประเมินมูลค่า Bitcoin ถ้าจะให้เทียบกับสินทรัพย์ที่มีอยู่ในโลก ก็อาจจะคล้ายๆ กับการวิเคราะห์มูลค่าของทองคำ ซึ่งมีราคาที่เป็นไปตามอุปสงค์-อุปทานของตลาด (มากกว่าปัจจัยทางด้านพื้นฐานธุรกิจ) และที่สำคัญก็มีการขุดเหมืองทองคำ เช่นเดียวกับขุด Bitcoin สะท้อนให้เห็นถึงในเรื่องของต้นทุนในการผลิตทองคำ หรือรวมถึง Bitcoin ด้วย แสดงให้เห็นถึงว่า กว่าจะขุดขึ้นมาได้นั้น ผู้ขุดต้องใช้ทรัพยากรต่าง ๆ มากมาย เช่น เวลา ค่าไฟฟ้า ชุดอัพเดทคอมพิวเตอร์ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม เราต้องเข้าใจก่อนว่า "ทองคำ" เป็นสิ่งที่คนทั่วโลกหรือรัฐบาลให้การยอมรับพิสูจน์มาอย่างยาวนานแล้วว่าสามารถนำมาแลกเปลี่ยนกันได้ และมีมูลค่าอยู่จริง ซึ่งใช้เวลาน่าจะหลายพันปีมาแล้ว แต่สำหรับ Bitcoin เพิ่งถือกำเนิดมาได้ไม่กี่ปีเท่านั้น จึงถือเป็นบทท้าทายที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์และการได้รับการยอมรับ
อย่างไรก็ดี Bitcoin ยังมีจุดที่น่าดึงดูดใจมากกว่าทองคำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ตลาดสกุลเงินดิจิตอล กับเรื่องของเทคโนโลยี บล็อกเชน ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ในโลกอยู่ในปัจจุบันน่าสนใจและติดตามต่อไปว่า 2 กระแสนี้จะเข้ามาเปลี่ยนโลกของเราได้อย่างไร ดังนั้นบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจถึงมูลค่าของ Bitcoin กัน เพื่อให้เข้าใจที่มาที่ไปของ Bitcoin เงินสกุลที่ร้อนแรงที่สุดกัน
ดังนั้นบทความนี้ ขอนำเนื้อหาบางส่วนมาจากหนังสือใหม่ : Bitcoin & Blockchain 101 เงินดิจิทัลเปลี่ยนโลก มาอธิบายมูลค่าของ Bitcoin เกิดขึ้นได้จากอะไรบ้าง ?
(ถ้าอยากจะเข้าใจเรื่อง คริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) บิตคอยน์ (bitcoin) รวมถึงบล็อกเชน (blockchain) ควรอ่านหนังสือเพิ่มเติม)
รู้หรือไม่ว่า...ทำไมในปี 2017 Bitcoin ถึงมีราคามากกว่า 15,000 ดอลลาร์ต่อหน่วย !?
หนึ่งในสิ่งที่ผู้คนและนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่กล้าลงทุนในตัวให้มัน คือการเปรียบเทียบ Bitcoin กับหุ้นซึ่งมีมูลค่าพื้นฐานรองรับ เนื่องจาก Bitcoin นั้นไม่ใช่หุ้น การนำหลักการของหุ้นมาตีราคา Bitcoin จึงไม่สามารถใช้ได้
... Stock VS Cryptocurrency (หุ้น vs สกุลเงินดิจิตอล)
เป็นความจริงที่ว่าหากพูดถึงการลงทุนแล้ว การลงทุนใน "หุ้น" เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากกว่าในสังคม และคนส่วนมากก็ลงทุนผ่านทางตลาดหุ้น กระทั่งภายหลังได้เกิดทางเลือกการลงทุนขึ้นมาในทรัพย์รูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrency และจากการที่คริปโตเป็นการลงทุนน่าจับตา ในปี 2017 ที่ผ่านมา ได้มีนักลงทุนผู้ทรงอิทธิพลหลายท่านออกมาแสดงความเห็นต่อวงการ Cryptocurrency ในหลากหลายมุมมอง
Cr.รูปภาพจากหนังสือ Bitcoin & Blockchain 101 เงินดิจิทัลเปลี่ยนโลก
จุดประสงค์ของ Bitcoin แต่แรกคือถูกสร้างเพื่อเป็นสกุลเงินจริงๆ แต่ด้วยความผันผวนของมูลค่าตลาดทำให้ Bitcoin "ห่างไกล" ที่จะเป็นสกุลเงินจริงๆอยู่พอสมควร
ราคาของทองคำขึ้นลงปตามสภาพของ Demand และ Supply ถามว่าด้วยตัวของมันเองมูลค่าควรอยู่ที่เท่าไร ? คงจะไม่มีใครตอบได้เพราะมนุษย์เป็นคนให้คุณค่าแก่มัน ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบแล้ว Bitcoin อาจจะดูใกล้เคียงกับทองคำมากที่สุด
วันที่เป็นจุดเริ่มต้นของมูลค่า Bitcoin คือในวันที่ 22 มีนาคมเป็นวัน Bitcoin Pizza Day โดยมีบัญชีทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @bitcoin_pizza ที่จะคอยทวีตราคาของพิซซ่า 2 ถาดนี้ในปัจจุบัน โดยในวันที่ 29 พฤศจิกายน พิซซ่า 2 ถาดนี้มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์เข้าไปแล้ว นับเป็นพิซซ่าที่มีราคาแพงที่สุดในโลกเลยทีเดียว
และภายหลัง "Jercos" หรือ Jeremy Sturdivant ชายที่ได้รับ 10,000 BTC มาจากการส่งพิซซ่าไปแลก ก็ขายมันไปในราคา 400 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าราคาพิซซ่าที่เขาสั่งซื้อถึง 10 เท่า! คุ้มยิ่งกว่าคุ้มซะอีก
จากการใช้ Bitcoin แลกเปลี่ยนสินค้ากัน ทำให้เราสามารถเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้วมันเริ่มมีมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ เพราะความเชื่อมั่นในตัว Bitcoin ทำให้คนเริ่มยอมรับการใช้งานของมัน แต่แน่นอนว่าแค่การซื้อพิซซ่าครั้งเดียวไม่ได้คงยังทำให้มูลค่าของมันได้รับการยอมรับจากคนหมู่มาก เรื่องราวเหล่าที่เกิดขึ้นกับคนเพียงแค่กลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งเท่านั้น
กระทั่งในปี 2011 เกิดตลาด E-Commerce ที่รับชำระเงินด้วย Bitcoin ที่มีชื่อเสียงที่สุด ทำให้ Bitcoin นั้นมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นมาก โดยมีชื่อว่า Silk Road และแน่นอนว่ามันคือ "ตลาดมืด" ดีๆ นี่เอง
Cr.รูปภาพจากหนังสือ Bitcoin & Blockchain 101 เงินดิจิทัลเปลี่ยนโลก
... Wikileaks
หนึ่งในตัวอย่างธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์จาก Bitcoin ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ Wikileaks ซึ่งก่อตั้งในเดือนตุลาคม ปี 2006 โดย Julian Assange โดยเป็นเว็บไซต์ที่จะนำเสนอเรื่องราวความลับของรัฐบาล เช่น การสังหารหมู่ในอิรัก ทำให้ Wikileaks ถูกปิดกั้นช่องทางการเงินจากรัฐบาลแทบจะทุกชนิด Wikileaks จึงเปิดรับบริจาคโดยรับเป็น Bitcoin แทน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2011 ซึ่งทำให้ Wikileaks มีรายได้มหาศาลจากการเติบโตของมูลค่า Bitcoin ถึงขนาด Julian Assange ต้องออกมาทวิตขอบคุณรัฐบาลอเมริกาที่ปิดกั้นช่องทางทางการเงินอย่าง Visa หรือ PayPal ทำให้เขามีรายได้มหาศาล
... "Buy Bitcoin"
นอกจากเหตุการณ์น่าแปลกใจเรื่องการบริจาคเงินด้วย Bitcoin ของ Wikileaks แล้วยังมีเหตุการณ์อื่นๆ อีก ในเดือนกรกฎาคม 2017 ระหว่างที่ผู้บริหารของ FED นามว่า Janet Yallen กำลังตอบคำถามสดในงานประชุม House Financial Services Committee ผ่านทางช่องสถานีโทรทัศน์มีชายลึกลับคนหนึ่งไชูป้ายที่เขียนด้วยลายมือว่า “Buy Bitcoin” เป็นเวลาสั้นๆ ในขณะที่ตลาดเงินดิจิทัลกำลังอยู่ในช่วงขาลง ก่อนที่เขาคนนี้จะถูกลากตัวออกจากห้องประชุมเพื่อให้ไปเซ็นชื่อยอมรับการละเมิดกฎของ House Committee ซึ่งหลังจากนั้นชายคนนี้ได้โพสต์ Address ของเขาลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ท้ายที่สุดปรากฏว่ามีผู้คนมากมายบริจาคเงินให้เขารวมแล้วกว่า 7 btc
... Digital Currency Market
มูลค่าของ Bitcoin ที่เห็นได้ชัดที่สุดและเป็นมูลค่าที่ใหญ่ที่สุดคือการเป็นฐานให้กับเงินดิจิทัลแทบทุกชนิด อ้างอิงจากเว็บไซต์ Coin Market Cap ในปี 2017 มีเงินดิจิทัลอื่นนอกเหนือจาก Bitcoin ประมาณ 1,500 กว่าสกุล บางสกุลเงินก็มีความสามารถและคุณลักษณะแตกต่างกันไป บ้างก็ผูกกับธุรกิจที่มีอยู่จริงๆ บ้างก็ยังเป็นเพียงโปรเจ็กต์ที่จะถูกพัฒนาในอนาคต
สิ่งที่น่าสนใจคือ เนื่องด้วยข้อกฎหมาย เงินดิจิทัลส่วนใหญ่จึงไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน Fiat หรือเงินทั่วไปในทุกๆแห่ง ในบางกระดานแลกเปลี่ยนก็จะรับเงินสกุลทั่วไปเพียงแค่สกุลเดียวอาจจะเป็น USD JYP หรือ THB ทำให้เงินดิจิทัลส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่สกุลหลักนั้นสามารถซื้อได้ด้วย Bitcoin จึงอาจกล่าวได้ว่า Bitcoin กลายเป็นฐานรองรับเงินดิจิทัลสกุลแทบทุกชนิดทำให้มูลค่าที่แท้จริงของ Bitcoin นั้นถูกฝากไปกับเงินดิจิทัลอื่นๆ
และหากวันหนึ่งมูลค่าของ Bitcoin จะกลายเป็นศูนย์ นั่นเท่ากับว่าเงินดิจิทัลที่มีอยู่เป็นร้อยเป็นพันที่ถูกรองรับด้วย Bitcoin นี้ต้องสูญเสียมูลค่าไปหมดสิ้นเสียก่อน
ในช่วงปี 2017 Bitcoin กินส่วนแบ่งการตลาดของเงินดิจิทัลอยู่ประมาณ 30 - 40 เปอร์เซ็นต์เมื่อมูลค่าโดยรวมของตลาดเงินนี้โตขึ้น ก็ทำให้มูลค่าของ Bitcoin โตขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
หรือกล่าวได้ว่ามูลค่าของ Bitcoin นั้นจะแปรผันตามมูลค่าของตลาดเงินดิจิทัลนั่นเอง ซึ่งแนวโน้มของธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Blockchain Cryptocurrency รวมไปถึงการระดมทุน ICO นั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน และนี่อาจจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงอนาคตอันเรืองรองของ Bitcoin ได้
เนื้อหาบางส่วนจากหนังสือใหม่ : Bitcoin & Blockchain 101 เงินดิจิทัลเปลี่ยนโลก
สนใจอ่านหนังสือเพิ่มเติม คลิกได้ที่ >>> https://www.stock2morrow.com/publishing/bookdetail.php?id=209