"มีอยู่ 2 สิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถหนีรอดไปได้ คือ ความตาย และภาษี"

และเพราะเหตุใดทำไมยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon รายได้ปีหนึ่ง แตะแสนล้านเหรียญถึงอยู่ได้โดยไม่เสียภาษี

...เป็นประเด็นเดือดร้อนถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากล่าวหาว่า Amazon เป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีรายได้และกำไรมหาศาล แต่กลับไม่เสียภาษี เขาทำอย่างนี้มันถูกหรือไม่ ?

ไม่ได้เป็นแค่เพียงการว่ากล่าวกันในสื่อโซเชียล แต่โดนัลด์ ทรัมป์ เองก็พยายามออกข้อกฏหมายเพื่อมาเก็บภาษี Amazon ให้ได้ แต่การออกกฏหมายแต่ละครั้งจะกระทบไปถึงบริษัทอื่นด้วย ดังนั้นจะออกกฏมามั่วๆ หรือใช้คำสั่ง ม...... ไปเรียกเก็บภาษีเฉพาะบริษัทก็คงทำไม่ได้ ประธานาธิบดีไม่ได้มีอำนาจมากขนาดนั้น

ครั้งหนึ่ง ไปรษณีย์สหรัฐ หรือ USPS แจ้งผลประกอบการ "ขาดทุน" เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาโจมตี Amazon ผ่านทวิตเตอร์ว่าเป็น "สาเหตุ" ที่ทำให้ USPS ขาดทุน !!! 
ถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ที่ประธานาธิบดีใช้สื่อโซเชียลโจมตีเป็นบริษัทแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งทรัมป์แสดงความเห็นว่า USPS และ FedEX ควรจะขึ้นราคาค่าส่ง และแนะนำว่าถ้า Amazon มี "สามัญสำนึก" ควรจะจ่ายภาษีชดเชยให้กับ USPS ไม่ให้ขาดทุน 

ด้วยประโยคนี้ทำให้หุ้น Amazon ดิ่งลงถึง 10% อย่างไรก็ตามทางผู้บริหาร USPS ออกมาชี้แจงว่า สัญญาของบริษัทที่ทำไว้กับ Amazon เรื่องว่าจ้างขนส่งนั้นเป็นสัญญายุติธรรม และไม่ได้มีการเอาเปรียบ USPS แต่อย่างใด

Amazon เป็นบริษัทเอาเปรียบจริงหรือ ด้วยกำไรขนาดนี้ทำไมบริษัทถึงไม่จ่ายภาษี เขาทำได้อย่างไร ?

เรามาดูกันว่าแต่ละปี Amazon เสียภาษีเท่าไร ..

ในปี 2015 Amazon มีรายได้ 1.07 แสนล้านเหรียญ กำไร 3.5 หมื่นล้านเหรียญ แต่เสียภาษีแค่ 950 ล้านเหรียญ
ในปี 2016 Amazon มีรายได้ 1.35 แสนล้านเหรียญ กำไร 4.7 หมื่นล้านเหรียญ แต่เสียภาษีแค่ 1.4 พัน ล้านเหรียญ
ในปี 2017 Amazon มีรายได้ 1.77 แสนล้านเหรียญ กำไร 6.5 หมื่นล้านเหรียญ แต่เสียภาษีแค่ 769 ล้านเหรียญ
ในปี 2018 ทุบสถิติสูงสุดด้วยรายได้ 2.32 แสนล้านเหรียญ กำไร 9.3 หมื่นล้านเหรียญ แต่เสียภาษีแค่ 1.2 พันล้านเหรียญ

รายได้ของ Amazon ต่อปีเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ที่มาภาพ : Yahoo Finance

เราเรียนรู้มาว่า "ยิ่งมีรายได้มาก จะยิ่งจ่ายภาษีมาก" ดูเหมือนว่าสูตรสำเร็จนี้จะใช้ไม่ได้กับองค์กรขนาดใหญ่อย่าง Amazon ที่มี Market Cap. สูงถึง 8 แสนล้านเหรียญ

ก่อนจะถึงปี 2017 กรมสรรพากรในอเมริกาเคยมีปัญหาเรื่องการเก็บภาษีการขาย หรือ Sale Tax (คล้ายๆ VAT บ้านเรา) ซึ่งจะเรียกเก็บแตกต่างกันในแต่ละมลรัฐ แต่มีข้อยกเว้นคือ ต้องมีหน้าร้านในรัฐนั้นเท่านั้นถึงจะโดนภาษีการขาย เสียดายที่ Amazon ไม่มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง ใช้วิธีส่งสินค้าเอา จึงไม่โดนเก็บภาษี Sale Tax ทำให้สินค้าในเว็บไซด์ของ Amazon ถูกกว่าร้านค้าทั่วไปเฉลี่ยถึง 10% นี้ยังไม่รวมถึงภาษีโรงเรือและสิ่งปลูกสร้างที่ Amazon ไม่มีหน้าร้านและไม่ต้องจ่าย ..
แต่ภายหลัง Amazon ขยายโกดังสินค้ามากขึ้น ขยายธุรกิจ ภาษี Sale Tax จึงโดนเก็บในปัจจุบัน

ทางด้านของ Steve Kovach ผู้สื่อข่าวและนักเขียนของ Business Insider ให้ความเห็นว่า บริษัทใน S&P 500 ควรจะจ่ายอัตราชั้นภาษีที่ 35% แต่ภาษีที่พวกเขาเหล่านั้นจ่ายกลับเฉลี่ยอยู่ที่ 20% เท่านั้น 
สำหรับ Amazon ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฏหมาย บริษัทไม่ได้หนีภาษี เขาแค่ทำยังไงก็ได้ที่จะจ่ายมันให้น้อยลงเท่านั้นเอง เช่น มลรัฐบางรัฐอยากให้เอกชนขนาดใหญ่ไปตั้งกิจการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อยากให้เกิดการจ้างงานขนาดใหญ่ แจกจ่ายความเจริญให้กับคนในท้องถิ่น อาจจะมีการลดหย่อนภาษี อย่างในเมือง Newark รัฐ New Jersey ที่ Amazon พึ่งไปสร้างโกดังเก็บสินค้าและศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ตรงนี้สามารถลดภาษีได้มากถึง 147 ล้านเหรียญ

อีกทั้งการจดทะเบียนเป็นบริษัทมีการคิดภาษีที่แตกต่างกับบุคคลธรรมดา กล่าวคือ บุคคลธรรมดาเมื่อมีรายได้จะโดนหักภาษีก่อน ในขณะที่รูปแบบบริษัทจะต้องนำมาหักค่าใช้จ่ายก่อนแล้วค่ยเสียภาษี จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นบริษัทใหญ่ๆรวมถึง Amazon ใช้งบจำนวนมากไปกับการพัฒนาองค์กร Research & Development ซึ่งรายจ่ายตรงส่วนนี้มหาศาลมากและสามารถนำไปหักภาษีได้

ล่าสุดนิตยสาร Fortune รายงานว่า Amazon เติบโตเป็นเลข 2 หลักในแง่ของรายได้แต่กลับจ่ายภาษีน้อยลงเรื่อยๆ 
และถือเป็นครั้งแรกของบริษัทในปี 2019 ...Amazon อยากจะขอเครดิตภาษีคืนเงินจากรัฐบาลกลางเป็นมูลค่า 129 ล้านเหรียญหรือคิดเป็น 1% ของกำไรขั้นต้นที่ Amazon ทำได้ ..... !!!!

ภาษีเงินได้ของ Amazon ที่มีแนวโน้มลดลง ส่วนทางกับรายได้ที่โตขึ้นทุกปี ที่มาภาพ : Yahoo Finance

== สรุป ==
ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก องค์กรยิ่งใหญ่ ยิ่งเสียภาษีน้อยลง ... ผู้เขียนเชื่อว่า Amazon มีทีมงานที่พร้อมมากและพยายามหาช่องทางในการ "ลดหย่อน" ภาษีอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ใช่ "หลีกเลี่ยง" ภาษีอย่างผิดกฏหมาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ว่าอาชีพนักบัญชี นักจัดการภาษี ทนายความด้านกฏหมายภาษีโดยตรง จะเป็นอาชีพที่ผลตอบแทนดีมากในอนาคต ....

หันกลับมามองที่ภาครัฐ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะนิ่งเฉย ทางทีมงานก็พยายามที่จะ "อัพเดท" กฏหมายให้เข้ากับยุคสมัย เราต้องจับตาดูกันต่อไป เผื่อว่ามีกฏหมายภาษีบางอย่างจะถูกนำมาใช้ในประเทศไทย คนไทยยุค 4.0 จะต้องปรับตัวให้ทันครับ

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://thaibicusa.com/amazon-เริ่มเก็บ-sales-tax-ทั่วอเมริกา/

https://www.businessinsider.com/amazon-not-paying-taxes-trump-bezos-2018-4?fbclid=IwAR3L_3VV2oHTnRJMh0ZBVZLxyf8vh-LULaHPJdR_Ugk-oBlKB1WtQPGs-Ns&utm_campaign=buffer-bi&utm_content=buffer9d297&utm_medium=social&utm_source=facebook.com

https://www.prachachat.net/world-news/news-20260

https://brandinside.asia/singapore-tax-on-amazon-lazada/

https://brandinside.asia/trump-slam-amazon-with-usps-services/

https://finance.yahoo.com/quote/AMZN/financials/

https://brandinside.asia/amazon-market-value-over-alphabet/

https://ilsr.org/before-you-click-infographic/

https://www.newsmax.com/newsfront/amazon/2019/02/14/id/902824/

http://fortune.com/2019/02/14/amazon-doesnt-pay-federal-taxes-2019/