ดูเหมือนหุ้นกลุ่มธนาคารจะดีใจได้ไม่นาน จากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้นนโยบาย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยให้ปรับอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จากเดิมที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้อยู่นานที่ 1.50% เป็นอัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ 1.75% ซึ่งการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนี้ คงหนีไม่พ้นที่หุ้นกลุ่มธนาคารจะได้รับอานิสงค์จากการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม พอเข้าสู่เดือนมกราคม 2562 ซึ่งจะเป็นเดือนที่หุ้นกลุ่มธนาคารจะทยอยประกาศผลประกอบการออกมา แล้วดูเหมือนว่าจะต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้ราคาหุ้นต่างปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า มีอะไรกันบ้างไปดูกัน!..
เริ่มต้นที่ SCB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4Q2561 ที่ 7.1 พันล้านบาท ลดลง 23% YoY และ 33% QoQ ต่ำกว่าประมาณการที่คาดการณ์ไว้ อันเป็นผลเนื่องมาจากการตั้งสำรองที่สูงกว่าคาดเพื่อสะท้อนคาดการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ โดยราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ติดลบไปถึง 8 บาท หรือเปลี่ยนแปลง ติดลบ 5.86%
มาต่อกันที่ KBANK รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2561 โดยมีกำไรสุทธิ 7.03 พันล้านบาท หรือ ลดลง 27.82% YoY และเพิ่มขึ้น 12% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ติดลบไป 1.50 บาท หรือเปลี่ยนแปลง ติดลบ 0.81%
ส่วน BAY ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสเดียวกันว่า มีกำไรสุทธิลดลง 1.9% QoQ แต่เติบโต 7.5% YoY โดยต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยตลาดคาดการณ์ที่จะเติบโต 9% YoY และ -1% QoQ ราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดที่ 37.25 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากราคาเมื่อวันก่อน
BBL ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีผลกำไรสุทธิ 4Q2561 ที่ 9,251 ล้านบาท เติบโต 2% QoQ และ 9% YoY ซึ่งนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า หากผลประกอบการออกมาเป็นไปตามคาดการณ์กับตลาด จะมีแรงซื้อกับมาที่หุ้นได้ โดยนักวิเคราะห์จาก KS ยังมองว่า BBL จะได้รับประโยชน์จากการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงขึ้น อีกทั้ง BBL ยังมีคุณภาพสินเชื่อที่ดีมากขึ้น และงบดุลที่แข็งแกร่ง และให้ราคาเป้าหมายไว้ถึง 240 บาท ราคาปิดเมื่อวันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดที่ 199.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือลดลง 1.72%
นอกจากนั้น KKP และ TCAP จะทยอยประกาศผลประกอบการเร็วๆ นี้ โดยนักวิเคราะห์เห็นว่า จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หากผลประกอบการต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อาจจะมีแรงขายหุ้นออกมาแทนได้
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าภายในเดือนมกราคม 2562 นี้ หุ้นธนาคารทั้งเล็กและใหญ่ จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2561 ได้ครบหมด ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสะท้อนผลประกอบการที่ออกมา อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังเห็นว่า หุ้นกลุ่มธนาคารในปีนี้ มีความน่าสนใจกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ด้วยปัจจัยหนุนหลายอย่าง อาทิ เช่น
(1) แนวโน้มการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้ กนง. อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก หากภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น และเพื่อให้เป็นไปตามทิศทางการปรับตัวดอกเบี้ยของสหรัฐ โดย FED
(2) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในปี 2562 เพื่อผลัดดัน GDP ให้เป็นไปตามเป้านั้น จะส่งผลดีต่อภาคธนาคาร ในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
(3) การควบคุมนโยบายทางการเงินอย่างเข้มงวดของแบงค์ชาติ มีส่วนให้ความเสี่ยงหนี้เสีย หรือ NPL มีปริมาณลดลง ทำให้คุณภาพสินเชื่อของธนาคารดีขึ้นด้วย