เมื่อสองปีก่อนผมเคยเขียนบทความที่ชื่อว่า “3 มิติการลงทุนเมื่อมนุษย์อายุยืนขึ้น” ไว้ที่นี่ (https://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=845) โดยได้ทิ้งคำแนะนำไว้ 3 อย่าง คือ
1) ลงทุนในทักษะขั้นสูง
2) ลงทุนในการรักษาสุขภาพ
3) เริ่มใส่ใจในการลงทุนตั้งแต่วันนี้
นึกไม่ถึงว่าภายใน 2 ปีที่ผ่านมานั้น เรื่องนี้จะถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นสำคัญทั้งในวงการนโยบายสาธารณะและวงการไฮเทคอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้จะเพิ่มเติมมิติการลงทุนที่ผู้เขียนคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านในการเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคที่พวกเราจะอายุยืนขึ้นเรื่อยๆ
1. เสี่ยงเพื่อเงินก้อนใหญ่ (critical mass) ให้เร็วขึ้น
ในบทความที่แล้ว ผู้เขียนแนะนำให้พวกเราพยายามอัพสกิลขั้นสูงไว้เรื่อยๆ ระหว่างที่เรากำลัง aging เพื่อไม่ให้เราเสียเปรียบในตลาดแรงงานในอนาคต และเพื่อไม่ให้เรา “stuck in time” เมื่อถึงวัยเกษียณ โดยเฉพาะถ้าเราอยู่ในบริษัทหรือองค์กรที่มีนโยบายอายุเกษียณค่อนข้างชัดและไม่มีทีท่าว่าจะยืดมันออกไป
แต่ถึงเราจะพยายามตามโลกให้ทันระหว่างที่เราทำงาน มันก็ยังอาจจะไม่พอด้วยซ้ำ เนื่องจากโลกเปลี่ยนไปเร็วมากปีต่อปี อีกทั้งเทคโนโลยีที่จะเข้ามาทำให้เราได้เปรียบและมีความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตในยามที่เราชรา (เช่น หุ่นยนต์ อวัยวะเทียม หรือ บริการทางสุขภาพและบริการสำหรับคนชรา) ก็อาจเข้าถึงลำบากหรือมีราคาสูงมากตามอุปสงค์ที่ล้นหลามจนคนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง คนที่คิดการณ์ไกลจะไม่หวังอย่างเดียวว่าในอนาคตเทคโนโลยีเหล่านี้จะมีราคาถูกลง (เพราะมันไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป)
ด้วยแรงกดดันในตลาดแรงงานและความไม่แน่นอนของต้นทุนในการชราภาพอย่างมีสุขนี้ การสร้างเงินก้อนใหญ่ที่จะคอยเป็น money making machine ตามหลักของเจ้าพ่อไลฟ์โค้ช Tony Robbins เพื่อให้เอามันไป “ทำงาน” จะเป็นการไปเอา risk-free rate หรือจะเอาไปลงทุนด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม ยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างเงินก้อนนี้ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
สิ่งที่ผู้เขียนกำลังจะบอกก็คือมันเริ่มคุ้มขึ้นที่เราจะออกไปทำมาหากินด้วยวิธีใหม่ๆ ที่อาจจะเสี่ยงกว่าการทำงานประจำที่เราถนัดหรือที่เราร่ำเรียนมา ไม่ว่าจะเป็นการลองทำธุรกิจหรือการลองโดดไปสร้าง career ในรูปแบบใหม่ที่อยู่นอก comfort zone ของเรา
ถ้ายังกลัวอยู่ ให้ลองคิดแบบนี้ครับ เมื่อเราอายุยืนขึ้น ช่วงเวลาที่เราเป็น “เด็ก” ที่สามารถลองอะไรใหม่ๆ แล้วล้มได้ก็ควรจะขยายออก จากเดิมที่หลายคนแนะนำให้ลองทำอะไรที่อยากทำตอนช่วงอายุ 20-25 ปี อาจจะขยายกรอบนี้ไปถึง 40 เลยก็ยังได้ (เพราะมันอีกนานมากกว่าเราจะชราภาพจนทำอะไรไม่ได้) เพราะฉะนั้นมันยังไม่สายที่จะลองทำอะไรที่อาจจะทำเงินให้คุณได้มากกว่าแผนปัจจุบันที่อาจจะไม่ปลอดภัยอย่างที่เราคิดแล้ว (เพราะเงินที่มันสร้างได้อาจไม่พอใช้ไปจนจบชีวิต)
2. อย่าลืมประกันบำนาญ
ประกันบำนาญ เป็นคำที่มักได้ยินในหนังสือการเงินและแทบไม่ได้ยินอีกเลยในชีวิตจริง โดยเฉพาะสำหรับคน gen ใหม่ๆ แต่เมื่อเราจะอายุยืนขึ้นมันสามารถเป็นช่องทางการลงทุนง่ายๆ ในการช่วยการันตี เงินให้ไหลเข้ากระเป๋าเราได้ในวัยชรา โดยไม่มีความเสี่ยง
จริงอยู่ว่าในโลกนี้ยังมีเครื่องมือในการลงทุนอื่นๆ ที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าประกันบำนาญ แต่น้อยนักที่จะไร้ความเสี่ยงใดๆ แบบนี้
เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องซื้อมากถึงขนาดที่ว่าเพื่อการันตีเงินที่เราต้องการใช้ยามชรา เพียงซื้อโดยมองประกันบำนาญว่าว่ามันเป็นการซื้อความสุขขั้นต่ำสุดที่เราขาดไม่ได้ในยามชราก็พอ เช่น สมมุติเรามองว่าเราต้องการเงินราว 5 หมื่นบาทต่อเดือน แต่เราจะอยู่ไม่ได้ถ้ามันต่ำกว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือน เราก็ควรซื้อให้มันจ่ายเราได้ที่เงินขั้นต่ำนี้ ส่วนที่เหลือเราจะใช้เครื่องมือการลงทุนอื่นๆ ที่อาจมีความเสี่ยงมากกว่า
หวังว่าทุกท่านจะได้มุมมองใหม่ๆ ไปขบคิดกันระหว่างที่พวกเราชราภาพกันอย่างช้าๆ นะครับ
stock2morrow ขอนำบทความดีๆ จาก ดร. ณภัทร มาให้เพื่อนๆ เริ่มวางแผนการเงินการลงทุนกันตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด