มาถึงฤดูกาลประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ หนึ่งในบริษัทที่นักลงทุนให้การติดตามนั่นคือ “AOT” หรือ “บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด” ที่คอยให้บริหารจัดการท่าอากาศไทย ให้กับผู้โดยสารเครื่องบิน โดยเฉพาะท่าอากาศหลักๆ อย่าง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง
ข่าวสารไม่ได้กระทบอะไรต่อผลประกอบการของบริษัท
โดยนับเป็นหุ้นที่มีนักลงทุนติดตามไม่น้อยกับ AOT ที่จะทำอะไรสักอย่างก็เป็นข่าวไปหมด เริ่มตั้งแต่การประกวดแบบอาคาร Terminal หลังที่ 2 ที่ได้ประกาศผู้ชนะไปแล้ว ได้แก่กลุ่มของ ด้วง-ดวงฤทธิ์ บุนนาค แต่ก็เหมือนการประกาศนี้จะไม่ราบรื่นนัก เนื่องจาก มีบางส่วนอ้างว่ากลุ่มดังกล่าว ได้ลอกเลียนแบบสนามบินจากต่างประเทศ ตามไปด้วยข่าว การไม่พอใจของคำพูดรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร ที่ได้ให้สัมภาษณ์กรณีที่เรือล่มที่ภูเก็ต ทำให้ Social Media ของจีน ได้แชร์คำพูดกันอย่างแพร่หลาย จนเป็นกระแสการยกเลิกทริปท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามาประเทศไทย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนมีปริมาณลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงที่ผ่านมา หรือแม้แต่การจ่ายโบนัสให้กับพนักงานบริษัทถึง 7.5 เท่าในปีนี้ ด้วยผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมตลอดรอบปีล่าสุด
ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งยังดึงดูดนักลงทุน
แม้ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับ AOT ในรอบปีที่ผ่านมาจะมากเพียงใด ก็ไม่ได้กระทบโดยตรงกับผลการดำเนินงานของบริษัท โดยผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมายังมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแผนการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวโดยรวม แม้ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงอยู่บ้าง แต่นักวิเคราะห์ทั้งหลายเห็นตรงกันว่า เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น ซึ่งน่าจะดีขึ้นในไตรมาศสุดท้ายของปี โดยถือเป็นช่วงเวลาทองของธุรกิจการท่องเที่ยว โดยปัจจุบัน บริษัทมีรายได้กว่า 46.9 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19.9 ล้านบาท โดยมี ROE เท่ากับ 17.83% และ ROA เท่ากับ 17.43%
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 60-75 บาท ตลอดปีนี้ โดยทำราคาสูงสุด 77 บาทในช่วงต้นปี ก่อนที่เริ่มปรับตัวลดลง และมีราคาปิด ณ ปัจจุบันที่ 65 บาท ซื้อขายกันที่ P/E 39.16 เท่า และ P/BV 6.70 เท่า และมีมูลค่าทางบัญชีเท่ากับ 9.70 บาท นอกจากนั้นยังมีมูลค่าการซื้อขายตามตลาดมากถึง 9.29 แสนล้านบาท
บทวิเคราะห์ของหลักทรัพย์
บทวิเคราะห์หลายสำนักยังมีมุมมองเป็นบวกสำหรับ AOT เริ่มต้นจากหลักทรัพย์กสิกรมองว่า แม้จะปรับประมาณการจำนวนของผู้โดยสารในปี 2562-2563 ลดลงเล็กน้อยเป็น 4.6%/4.1% จาก 6.1%/5% แต่เนื่องจากผลประกอบการที่ยังแข็งแกร่งของบริษัทจะแนะนำให้ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 72.50 บาท ขณะที่เอเอสแอล มองว่า ราคาหุ้นปรับลดลงจน Downside เริ่มจำกัด อันเนื่องมาจากผลกระทบของนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง แต่ยังเห็นแผนการกระตุ้นนักท่องเที่ยวในช่วง High Season ของรัฐบาล ที่จะส่งผลให้ไตรมาศ 4 จะมีผลประกอบการที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 80 บาท
อย่างไรก็ตาม Asia Wealth มองว่า ในไตรมาศที่ 3 ผลประกอบของบริษัทปรับลดลงอย่างมาก เนื่องจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีนกับเป็นช่วง Low Season จึงทำให้ผลประกอบการไตรมาศดังกล่าวไม่โดดเด่น โดยยังให้เพียง “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 70 บาท
โดยรวมแล้ว AOT ยังเป็นหุ้นในดวงใจของนักลงทุนหลายๆ คน ที่ยังให้การติดตาม เนื่องจากเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังอยู่ในธุรกิจที่มีการเติบโตตลอดเวลาอย่างธุรกิจท่องเที่ยว นอกจากนั้น ยังเป็นธุรกิจที่เสมือนผูกขาดที่ไม่มีคู่แข่งอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้นักลงทุน คงต้องติดตามในประเด็นต่างๆ เช่น
(1) ผลประกอบการในไตรมาศ 4 ที่กำลังจะมาถึง
(2) ผลกระทบของนักท่องเที่ยวจีน
(3) การก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟสที่ 2 และ
(4) การประมูล Duty Free ที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากประเด็นดังกล่าว มีผลกับบริษัทอย่างมีนัยสำคัญทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บทความโดย นายสิงหา พงศ์ศศิธร (Freedom VI)
-------------------------
stock2morrow นำหุ้น AOT มาสรุปประเด็นสำคัญๆ ให้นักลงทุนติดตามกัน ยังไงก็ตามต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมทุกครั้งก่อนตัดสินใจลงทุน