#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

ส่อง TFFIF กองทุนเพื่ออนาคตประเทศไทย

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
205 views

เป็นที่ทราบกันดี “ตลาดทุน” เป็นหนึ่งในทางเลือกของหน่วยงานหรือบริษัท (นอกเหนือจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินทั่วไป) ที่ต้องการระดมทุนจากผู้ถือหุ้น เพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์ และสร้างผลตอบแทนกลับคืนสู่นักลงทุน หนึ่งในกองทุนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนในช่วงเดือนที่ผ่านมานั่นคือ“กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย” หรือ “TFFIF”

ที่มาของกองทุน

เนื่องจากประเทศไทยอยู่ระหว่างการวางรากฐานสำคัญของประเทศ รัฐบาลจึงเห็นความสำคัญและได้มีความพยายามที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยอาศัยการระดมทุนผ่านตลาดทุน กระทรวงการคลังผู้รับผิดชอบจึงได้เสนอจัดตั้งกองทุน TFFIF เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ลงทุน สนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ผ่านการลงทุนกับกองทุน นอกจากนั้น การระดมทุนผ่านกองทุนดังกล่าว จะช่วยลดภาระการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาอาศัยการลงทุนผ่านการกู้ยืมจากสถาบันการเงินเป็นหลัก โดยปัจจุบัน ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะร้อยละ 41 ของ GDP แม้ว่า หนี้สาธารณะดังกล่าวต่ำกว่าเกณฑ์เพดานที่กำหนดไว้ร้อยละ 60 แต่รัฐบาลได้เผื่อช่องว่าง เพื่อที่จะลงทุนได้ด้านอื่นๆ ด้วย เช่น ด้านการแพทย์ การศึกษา เป็นต้น

วัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุน

เพื่อระดมเงินทุนจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนไปลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนเพื่อเป็นรายได้ให้แก่กองทุนรวม ทั้งสามารถสร้างการเจริญเติบโตของผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กองทุนสามารถจ่ายผลตอบแทนการลงทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกองทุน

  1. บริษัทจัดการ ประกอบด้วย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
  2. ผู้ดูแลผลประโยชน์ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
  3. อายุกองทุน ไม่มีกำหนดอายุ (ทั้งนี้ สัญญาโอนและรับโอนสิทธิในรายได้ที่กองทุนจะเข้าลงทุนด้วยเงินจากการเสนอขายส่วนเพิ่มทุนครั้งนี้มีอายุ 30 ปี นับแต่วันที่ทำการโอนเสร็จสิ้น ซึ่งคือวันโอนสิทธิตามสัญญาโอนและรับโอนสิทธิในรายได้)

กองทุนนำเงินไปลงอะไร

สินทรัพย์ที่กองทุน TFIF จะลงทุน “ครั้งแรก” ได้แก่ การลงทุนในสิทธิในรายได้ร้อยละ 45 ของค่าผ่านทางรวมสุทธิที่จัดเก็บได้จากเส้นทางปัจจุบันของทางพิเศษ 2 สาย เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยังคงเป็นผู้บริหารจัดการตามปกติ ได้แก่

  1. ทางพิเศษฉลองรัช ระยะทาง 28.2 กิโลเมตร ที่เชื่อมต่อถนนวงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ด้านตะวันออกบริเวณจตุโชติ เข้ากับทางพิเศษเฉลิมมหานคร บริเวณอาจณรงค์และทางพิเศษบางนา – อาจณรงค์ และ
  2. ทางพิเศษบูรพาวิถี ระยะทาง 55 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในทางยกระดับที่มีการจัดเก็บค่าผ่านทางที่มีระยะทางยาวที่สุดในประเทศไทย และมีจุดเริ่มต้นจากปลายทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณบางนาไปทางทิศตะวันออก ข้ามแม่น้ำบางปะกง สิ้นสุดที่จังหวัดชลบุรี

นโยบายการจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุน

กองทุน TFFIF มีนโยบายที่จะจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ในกรณีที่กองทุนมีกำไรสะสมเพียงพอ และโดยรวมแล้วในแต่ละรอบบัญชี จะจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว

โดยสรุปแล้ว...

กองทุน TFFIF ได้มีกำหนดขาย IPO ให้กับนักลงทุนทั่วไปแล้ว ตั่งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยกำหนดขายที่หน่วยละ 10 บาท และต้องมียอดเงินซื้อขายขั้นต่ำที่ 10,000 บาท โดยมีผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 4.75-5.3% ต่อปี ปัจจุบัน ได้มีการซื้อขายในตลาดทั่วไป โดยปิดตลาดที่ 10.10 บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 61 หรือเพิ่มขึ้น 1% จากราคา IPO

กองทุน TFFIF จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกของนักลงทุน ที่มองหากองทุนที่มีความมั่นคง บริหารด้วยหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมักจะไม่เห็นบ่อยนักที่รัฐจะระดมทุนในรูปแบบกองทุนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนสนใจที่จะลงทุน จึงต้องศึกษาจาก “หนังสือชี้ชวน” เพื่อให้เกิดความเข้าใจการลงทุนของกองทุนมากยิ่งขึ้น

ที่มา http://www.tffif.com/th

-----------------------------

stock2morrow ขอนำกอง TFFIF ที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในตลาดหุ้นได้ไม่นาน มาให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจกองทุนนี้กัน 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง