เป็นข่าวดังกันไปแล้วสำหรับคดี Elon Musk ที่ "น่าจะ" ปั่นหุ้น Tesla โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเขาได้ทวีตข้อความผ่าน Twitter ว่าจะซื้อหุ้นคืนที่ราคา $420 ต่อหุ้น ทำให้หุ้นเกิดการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว กลต.เลยสั่งปรับข้อหาปั่นหุ้น เป็นคดีความกันมาสักพัก และสุดท้าย Elon ก็ยอมแพ้โดนค่าปรับเป็นเงิน 20 ล้านดอล์ล่าร์และลาออกจากบอร์ดบริหารของ Tesla ส่วนตำแหน่งซีอีโอเขายังคงเป็นต่อไป
TESLA ทำรถไฟฟ้าที่ล้ำสมัย มีการขายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ที่อเมริกา ถ้าใครเปิดข้อมูลดูหุ้น TESLA แล้วจะพบว่าเป็นหุ้นที่ไม่เคยจ่ายปันผลเลย บริษัทไม่มีกำไรสุทธิ แต่ทำไมหุ้นยังแพงได้ ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ และเราจะมาปรับใช้กับตลาดหุ้นไทยได้อย่างไร ... ?
ดูจากข้อมูลย้อนหลังของหุ้น TESLA มีการขึ้นมาตลอดตั้งแต่ปี 2010 ที่ราคา 26 เหรียญต่อหุ้น จนมาถึงปี 2018 มาแตะระดับราคาที่ 310 เหรียญต่อหุ้น ขึ้นมาทั้งหมด 12 เท่า ใน 8 ปี คิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 150% ต่อปี ถือว่าเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆตัวหนึ่ง
ราคาหุ้น TESLA ขึ้นมาโดยตลอดแม้ว่าหุ้นจะไม่มีกำไร และไม่เคยจ่ายปันผล
ที่มาภาพ : YahooFinance
== ผลประกอบการของ TESLA เป็นอย่างไรบ้าง ==
ปี 2014 มีรายได้ 3.19 พันล้านเหรียญ ขาดทุนสุทธิ 294 ล้านเหรียญ
ปี 2015 มีรายได้ 4.04 พันล้านเหรียญ ขาดทุนสุทธิ 888 ล้านเหรียญ
ปี 2016 มีรายได้ 7.01 พันล้านเหรียญ ขาดทุนสุทธิ 674 ล้านเหรียญ
ปี 2017 มีรายได้ 11.75 พันล้านเหรียญ ขาดทุนสุทธิ 1.96 ล้านเหรียญ
- บริษัทขาดทุนมาโดยตลอด !!!
- หาค่า P/E ไม่ได้
- ค่า ROE ติดลบ 50.12% , ROA ติดลบ 5.15%
- บริษัทมีค่า P/BV 13.56 เท่า ถือว่าซื้อขายกันเกิน Book Value ไปไกลมาก ..
- และที่สำคัญบริษัท "ไม่เคย" จ่ายปันผลเลยแม้แต่ครั้งเดียว ...
เพราะสาเหตุอะไรนักลงทุนถึงให้มูลค่าหุ้นสูงขนาดนี้?
สาเหตุที่ 1. นักลงทุนเชื่อกันว่ารถ TESLA Model 3 ที่กำลังวางขายอยู่นี้ จะทำเงินให้ TESLA ได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะเป็นรถรุ่นที่ทางบริษัทยืนยันว่าใช้งานได้จริง!! จากบทวิเคราะห์ของบริษัทรายงานว่ามีมหาเศรษฐีจำนวนมากยอมจ่ายเงินซื้อ TESLA Model 3 แทนที่จะซื้อรถระดับหรูเพราะมีความเทห์และทันสมัยที่มากกว่า สื่อของ Business Insider รายงานว่า TESLA Model 3 จะมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ราวๆ 20-30%
หุ้น Tesla ไม่เคยจ่ายปันผล ...
ที่มาข้อมูล : Yahoo Finance
สาเหตุที่ 2. นักลงทุนเชื่อกันว่า รถไฟฟ้าของ TESLA จะมาแทนที่รถที่ใช้น้ำมันทั้งหมดในอนาคต อีกทั้งช่องว่างการเติบโตของ TESLA ยังมีอยู่มาก ในปัจจุบันมีคนใช้รถไฟฟ้าเพียงแค่ 1% เท่านั้น ยังมีโอกาสให้เติบโตอีกมาก
สาเหตุที่ 3. รถ EV เป็นรถที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ใช่ว่าใครจะมาผลิตก็สามารถผลิตได้ ในภาษาทางการลงทุนเรียกว่ามี "คูเมือง" แห่งความแข็งแกร่งระดับหนึ่ง บริษัท General Motors พยายามทำรถไฟฟ้าเลียนแบบ TESLA แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะติดปัญหาหลายๆอย่าง หรือแม้กระทั่งค่ายรถญี่ปุ่นอย่างโตโยต้าและนิสสัน ก็หันเรือไปทางการพัฒนารถที่ประหยัดน้ำมันให้มากกว่าเดิมที่จะไปสร้างรถไฟฟ้า
สาเหตุที่ 4. ผู้บริหารอย่าง Elon Musk เป็นบุคคลที่หาตัวจับยาก มีความคิดทันสมัย ดังนั้นนักลงทุนต้องให้มูลค่าของตัวผู้บริหารด้วย
สาเหตุที่ 5. งบการเงินเป็นเรื่องอดีต นักลงทุนต้องมองไปที่อนาคต ! นี้อาจจะเป็นเรื่องความคาดหวังล้วนๆของนักลงทุนเอง .. ถูกต้องที่งบการเงินของ Tesla ดูไม่ดี สื่อของอเมริกาเองก็โจมตีประเด็นนี้มาโดยตลอด แต่ถ้าหุ้นขึ้น นักลงทุนก็พร้อมจะมองไปยังอนาคตที่สดใสและการเติบโตของ Tesla ที่รออยู่ ดังคำกล่าวที่ว่า
"หุ้นแพงแล้ก็สามารถแพงอีกได้ ถ้ามันมีอนาคตที่ดีรออยู่ เราก็พร้อมซื้อทุกราคา"
และนี้ก็เป็น 5 สาเหตุ ที่บอกว่าทำไมหุ้น Tesla ถึงแพงมาก แม้บริษัทจะไม่กำไรและไม่เคยจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนเลย อาจจะเป็นเพราะนักลงทุนพร้อมจะมองข้ามทุกสิ่งทุกอย่างในสถานการณ์ที่หุ้นขึ้น ดัชนี Dow Jones ไต่ระดับทำจุดสูงสุดใหม่ ใครๆก็อยากได้เงินและพยายามทำเงินให้ได้มากที่สุดในตลาดหุ้น
ครั้งหนึ่งวอเร็น บัฟเฟตต์ กล่าวไว้ว่า "จงกลัวในขณะที่คนอื่นกล้า และจงกล้าในขณะที่คนอื่นกลัว" ในสถานการณ์หุ้น Tesla อาจจะเรียกว่าคนส่วนใหญ่ "กล้า" ก็ไม่ผิดนัก แล้วเราจะอยู่ฝ่ายกลัวหรือไม่ หรือจะทำตามกระแสซื้อหุ้นไปเลย เพราะหุ้นแพงแล้วก็สามารถแพงอีกได้
เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก เพราะตลาดหุ้นไทยเราก็มีหุ้นระดับ P/E 50 เท่า หรือ 100 เท่า แต่ยังดีที่บริษัทยังทำกำไรและจ่ายปันผลได้ถึงแม้จะน้อยนิดก็ตาม
แต่ว่ากันตามสถิติแล้ว หุ้น P/E สูง นักลงทุนโดยเฉลี่ยมักจะขาดทุน มากกว่าจะกำไรครับ ...
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://th.wikipedia.org/wiki/เทสลามอเตอร์ส
https://en.wikipedia.org/wiki/Tesla,_Inc.
https://www.blognone.com/node/105561
https://www.ceoblog.co/elon-musk-story/
https://finance.yahoo.com/quote/TSLA/
https://www.businessinsider.com/tesla-stock-price-confusing-investors-2017-5
https://www.forbes.com/sites/jonmarkman/2018/03/08/this-is-why-you-should-avoid-tesla-stock/#7a67d3fe6000
https://www.forbes.com/sites/jonmarkman/2018/03/08/this-is-why-you-should-avoid-tesla-stock/#7a67d3fe6000