#มือใหม่เริ่มลงทุน

"ลงทุนตามเขา ทำเราเจ็บหนัก" กับ My Way My Investment EP.7

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
82 views

คำว่า “กลัว” ดูเหมือนจะเป็นคำที่อยู่นำหน้า “การเริ่มต้น” การลงทุนของเพื่อนๆหลายๆคนใช่ไหมคะ? ถ้าคำว่า “กลัว” อยู่นำหน้าคำว่า “การเริ่มต้น” เพื่อนๆคิดว่า คนที่เคยลงทุนแล้วล้มเหลว คำว่า “กลัว” จะฝังใจเขาแค่ไหนกันคะ? อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขาต้อง “ไม่กลัว” และ เขามีอะไรเป็นอาวุธ ที่จะนำมาสู้กับการลงทุนครั้งใหม่ของเขาได้

My Way My Investment NO.7  เพราะเราเชื่อว่า ทุกอาชีพสามารถลงทุนได้ สำหรับบทสัมภาษณ์นี้ เราพาเพื่อนๆมารู้จักกับอีกหนึ่งอาชีพ  ที่ดูจะเข้าไม่ถึงการลงทุนเลย และแตกต่างกับทั้ง 6 EP. ที่ผ่านมา Graphic Designer อาชีพที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ และความรู้สึกในการทำงาน แตกต่างกับ คุณหมอ หรือนักธุรกิจที่มีกระบวนการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล และคล้ายการลงทุนมากกว่า ซึ่งนอกจากหนุ่ม “สายอาร์ต” ผู้ห่างไกลการลงทุนท่านนี้ จะให้แนวคิดในการลงทุนในแบบฉบับอาชีพของเขาได้แล้ว บทสัมภาษณ์นี้ จะช่วยปลดคำว่า “กลัว” ที่อยู่นำหน้าการลงทุน ให้เพื่อนๆได้อีกหลายคนอีกด้วยค่ะ เพราะเขาเป็นอีกคนที่เคยลงทุนแล้วล้มเหลว..

แนะนำตัวให้พวกเรารู้จักหน่อยค่ะ แล้วอาชีพ Graphic Design ต้องทำอะไรบ้างคะ?
ป๊อป วรวุฒิ พวงมาลัย อายุ 38 ปี ตำแหน่ง Graphic Design Manager ครับ และเปิด Graphic Studio ชื่อ Popeyeview Studio ของตัวเองด้วยครับ งานของสาย Graphic ก็จะเป็นประมาณ ดูแลภาพรวมการออกแบบของสื่อ Digital ภายในองค์กร ,ออกแบบสื่อ Digital Media ต่างๆ อย่าง Website ,App Design และดูแล Branding ครับ

ปัจจุบันลงทุนอะไรบ้างและเริ่มต้นลงทุนได้อย่างไร?
ตอนนี้ก็ลงทุนในกองทุนรวมครับ แบ่งส่วนลงทุนใน Forex บ้าง ยังอยู่ในการทดลองและศึกษานะ ตอนเริ่มต้นลงทุนครั้งแรกเลยคือ “ลงทุนตามเขา” ตอนนั้นเริ่มทำงานใหม่ๆ มีคนแนะนำว่า มีเงินก็น่าจะเก็บสะสมในหุ้นในทองดูบ้าง เราเริ่มจากในทองครับ ไม่มีความรู้เลย และไม่มีการติดตามใดๆ คิดว่าจะได้เหมือนที่เราออมทรัพย์กับธนาคาร สุดท้ายคือราคาทองลง เราติดดอย ลงทุนครั้งแรก คือแพ้เลยครับ (หัวเราะ) ที่เราไม่ประสบความเร็จในการลงทุนเพราะเราใช้ความเชื่อจากคนอื่น คนที่เขาแนะนำเขาก็หวังดีต่อเราแหละ แต่เราไม่มีความรู้หรือการศึกษาเพิ่มเติม ทั้งๆ ที่เราควรรู้ว่าการลงทุนมันมีขึ้นมีลง เรายังไม่รู้เลย เราคิดว่ามันคงเหมือนออมทรัพย์ อย่างน้อยมันน่าจะได้ทุกปี บวกทุกปี แล้วมารู้ตัวตอนที่เวลามันผ่านไปปีสองปีแล้ว กลับมาดูอีกที ทำไมมันลดลง และไม่เป็นอย่างที่เราคิด ซึ่งก็เป็นความผิดของตัวเราเอง ที่เชื่อคนอื่น ก็เลิกลงทุนเลยตอนนั้น เป็นช่วงที่มาเปิดสตูดิโอของตัวเองด้วย ตำแหน่งงานประจำก็สูงขึ้นด้วย ก็ทำงานอย่างหนักและเก็บเงิน โดยกลับมาที่การออมเงินปกติเหมือนเดิมครับ 

ตอนนั้นเรียกว่า Fail จนอยากเลิกลงทุนไปเลยได้ไหม? แล้วกำลังใจที่ทำให้เรากลับมาลงทุนอีกครั้งคืออะไร?
ตอนนั้นเลิกลงทุนเพราะเสียดายเงิน ทำงานมาก็เหนื่อย พอทำตามคนอื่นๆแล้วมันพลาด ก็ไม่อยากลงทุนอีก ประมาณ 2 ปีได้ครับคือไม่ลงทุนเลย จนมาคิดได้ว่า..แล้วต้องทำงานไปถึงเมื่อไหร่? เมื่อไหร่มันจะพอ? เห็นน้องรุ่นใหม่เก่งๆเยอะ ถ้าเราอายุ 50-60 จะสู้กับน้องๆ ไหวหรอ? แล้วจะมีหลักประกันอะไร ที่จะบอกได้ว่า เมื่อเราทำงานไม่ได้เพราะอายุเยอะ เราจะอยู่รอดในสภาพเศรษฐกิจสังคมแบบนี้ได้ ก็คิดได้ว่าเวลาที่เราไม่สามารถใช้แรงเพื่อทำงานได้ เงินก้อนที่เราเก็บออมมา มันน่าจะช่วยเราได้บ้าง เลยเริ่มกลับมาศึกษาเรื่องการเงินก่อน และการลงทุนถึงตามมา 

    การลงทุนครั้งที่สอง ตอนนั้นเริ่มโตแล้วครับ คือประมาณ 2 -3 ปีที่ผ่านมา เราเริ่มมีเงินก้อนนึง มันน่าจะเป็นเงินที่สามารถสร้างรายได้อีกช่องทางนึงให้เราได้ หรือว่าช่วยให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ ประสบความสำเร็จได้ง่ายได้ขึ้น รวมกับไปเจอคลิปของวิทยากรให้ความรู้เรื่องการเงินรายบุคล ก็ลองไปเปิดฟัง แล้วคิดว่ามันเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันที่มันมีอยู่จริงแต่เราไม่เคยคิดเลย เราเคยคิดแต่ว่าทำงานให้ดีที่สุด หารายได้ให้มากที่สุด แต่เราลืมคิดไปเลยว่า “เงิน”มันไม่ใช้สินทรัพย์ที่มีค่าเท่าเดิมตลอดเวลา เงิน 10 บาท 100 บาท 1000 บาท ผ่านระยะเวลาไป มันไม่ได้มีค่าเท่าเดิม เลยเริ่มไปศึกษา จนได้กระบวนการคิด แผนการเงิน และแผนการลงทุนใหม่ รอบสองมีความชัดเจนของแผนการลงทุนมากกว่าครั้งแรกเยอะมากครับ เหมือนพอเราเริ่มศึกษาแล้วกลั่นความหมายของการลงทุน ในรูปแบบของตัวเราเองออกมา ก็จะอยากลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเรามีเป้าหมายหลายอย่างเต็มไปหมด และเป้าหมายใหม่ๆ มันก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ ตามเวลาของมัน ถ้าตัดการ Fail จากการลงทุนตามเขาบอกในช่วงแรกๆออก ตอนนี้เราก็ไม่เคยรู้สึกอยากเลิกลงทุนเลยนะ การลงทุนมันไม่ใช่การทำกำไรให้ได้มากๆอย่างเดียว การลงทุนสำหรับเรา มันคือการสร้างความปลอดภัย มันคือการเตรียมเบาะนุ่มๆ เอาไว้ เผื่อว่าวันที่เราล้ม เราจะได้ไม่เจ็บตัวมากนัก เราเลยไม่เคยอยากเลิกลงทุน  ประมาณนั้น

ไม่กลัวเสียใหม่อีกรอบหรอ?

ไม่กลัวครับ แต่ก็เสียด้วยนะ (หัวเราะ) ที่เสียได้แต่ไม่กลัวเพราะเรามีเป้าหมายแล้วว่า เสียเท่าไหร่ที่เรายอมรับได้ คล้ายๆว่าเรามีแผนแล้ว

จากการแชร์ประสบการณ์ผิดพลาดครั้งแรก เราได้บทเรียนอะไรบ้าง?
    คือเราเป็นเด็กอาร์ต เราเกลียดการคำนวน และไม่ชอบอ่านหนังสือวิชาการ แน่นอนเราไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนเลย พอมีใครชวนไปลงทุนอะไร เรามองแค่ว่า เขาคือพี่ที่สนิทมาก เขาน่าจะแนะนำแต่สิ่งดีๆ ให้เรา แค่นั้นแหละ แล้วเราก็ทุ่มตามเลย โดยคาดหวังว่าผลลัพธ์มันจะดีตามที่พี่เขาเล่า สุดท้าย Fail หนักเลย รู้จักศัพท์แรกของวงการ การลงทุนในทันที “ติดดอย” หลังจากนั้นเราก็ถอนตัวออกมาพักใหญ่เลย และบอกตัวเองเลยว่า ถ้าเรายังถามเขาอยู่ว่า “พี่ลงทุนอะไรดี” เราจะไม่สะเออะ ไปลงทุน เราต้องเลือกเอง อย่างมีข้อมูล อย่างมีเหตุผลเท่านั้น เราถึงจะเริ่มกลับมาลงทุน

ทำไมคนทำงานประจำถึงต้องมีรายได้หลายทาง และต้องลงทุน?
ก็ไม่เสมอไปนะ ถ้ารายได้ทางเดียวเพียงพอต่อการใช้ชีวิตของเขา แต่เราไม่พอไง เราลองตั้งเป้าแล้ววางแผนดูแล้ว เราต้องทำงานเพิ่มขึ้น ทำงานหนักในช่วงอายุนี้ ทำในช่วงที่ทำได้ เพราะงานของเรามีอายุจำกัด เด็กรุ่นใหม่ๆ ทำงานเก่งขึ้นทุกๆ ปี เรายิ่งต้องรีบหารายได้ เพื่อเตรียมไว้ในวันที่อาจจะเสียงานประจำไป แล้วอีกอย่างสมัยนี้งานหารายได้หลายๆทาง มันง่ายมากๆ ไม่ได้ยากหรือเหนื่อยไปกว่าเดิม มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะทำอะไร และตั้งใจมากพอหรือยังมากกว่า ใครจะไม่อยากมีรายได้เพิ่มขึ้น เมื่อเรามีเวลา 24 ช.ม.  เท่ากันทุกคนเนาะ ถ้าเราสามารถจัดการเวลาเพื่อสร้างงานได้หลายช่องทาง มันก็ดีกว่า งานประจำถ้าถึงเวลาที่เราต้องไป มีรุ่นใหม่เพิ่มเข้ามา เราเอาตัวเองไปผูกไปไว้ตรงนั้นที่เดียวมันอันตราย ถ้าพังมันพังหมด เหมือนที่ตอนแรกผมเอาทุกอย่างไปผูกไว้กับการลงทุนทอง ทั้งการลงทุนและงานมันก็ต้องกระจายความเสี่ยงเหมือนกัน

คิดว่าสายงานที่เราทำมีผลดีอย่างไร ต่อการลงทุนของเรามันดูไกลกันมาก? เคยใช้กราฟิก หรือวิชวลอาร์ตเข้ามาช่วยเรื่องการลงทุนให้เข้าใจง่ายขึ้นไหม?
ถ้าตรงกับคำว่า Graphic เลยไม่มี เราคงไม่มาออกแบบชาร์ตสวยๆ หรือพอร์ตสวยๆ สำหรับการลงทุนหรอก (หัาเราะ) ถ้ามีน่าจะเป็นกระบวนการคิดมากกว่า งานของเรามีกระบวนการคิด ที่คล้ายๆ กับการคิดในการลงทุนอยู่เหมือนกัน คือ

ถ้าเป็น กราฟฟิกการก็ รับ Brief โจทย์ > ร่าง Sketch งานและออกแบบ > จบงานภายในเวลาที่กำหนด

ถ้าเป็นการลงทุนก็ ตั้งโจทย์ว่าจะลงทุนเพื่ออะไร > วางแผนรูปแบบการลงทุน > กำหนดจุดที่จะพอสำหรับการลงทุนนั้น ประมาณนั้นครับ

แล้วอุปสรรคของสาย Graphic ต่อการลงทุน?
เราว่า “ความคิดตัวเอง” เป็นอุปสรรคของทุกอาชีพแหละ เราหาข้ออ้างได้ง่ายกว่า หาอะไรที่เป็นสาระ ไม่มีเงิน ไม่มีเวลา ที่ยากๆ เหนื่อยๆ ทำไง เดี๋ยวปีหน้าจะ… เดี๋ยวสิ้นเดือนจะ… ไม่มีเวลาเลย… เหนื่อย… ทำแล้วแพ้ ทำแล้วมันไม่ใช่…. เราอ้างไปได้หมดแหละ แล้วสุดท้ายเราก็เสียเวลาไปกับการคิดหาข้ออ้าง แทนที่จะเสียเวลาไปกับการลองทำจริงๆ

แบ่งเวลาอย่างไร? งานประจำ งานของสตูดิโอตัวเอง และการลงทุนด้วย
เราทำไปพร้อมๆ กันนะ เพราะเราไม่ได้ลงทุนทุกวัน และไม่ได้เป็นนักลงทุนมืออาชีพ เราตั้งเป้าว่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปลงทุนเพื่ออะไร หรือเราจะเก็บเงินใหม่เท่าไหร่ เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายอะไร แล้ววางแผนด้วยวิธีคิดที่ได้ศึกษามา พอได้แผนแล้วก็ปล่อยไหลเลย เราเน้นใช้กองทุนรวมในการลงทุนเป็นหลัก มันไม่ต้องตามทำอะไรเองดี มีมืออาชีพเป็นคนจัดการให้ แล้วเราก็ตามมาเช็คผลการลงทุนเอาทุกๆ  3 หรือ 6 เดือนว่าผลลัพท์ เขาจัดการได้ โอเคตามเป้าของเราไหม ควรย้าย หรือปรับแผนยังไงไหม เท่านั้นเอง แล้วเราเอาเวลาหลักๆ ไปทำงานหาต้นทุนเหมือนเดิม เพราะมันเป็นงานที่เรายังรักที่ยังทำมากกว่า ในตอนนี้

แบ่งเคล็ดลับส่วนตัว และหลักคิดสำหรับการลงทุนหน่อย?
ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเคล็ดลับนะครับ แต่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง แล้วทำตามนี้เราจะคิดเรื่องของเงินได้สบายใจขึ้น ส่วนตัวก่อนเราเลย จะลงทุน เราต้องตอบตัวเองด้วย 3 โจทย์นี้

  1. “เป้าหมาย” ลงทุนเพื่ออะไร เงินหามาเหนื่อยแทบตายไม่ควรถูกเอาไปเสี่ยงโดยไม่รู้ว่าเพื่ออะไร และแค่คำตอบว่า “ลงทุนเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด” ไม่ใช่คำตอบที่ดีสำหรับเรา มันกว้าง เลื่อนลอย ไร้จุดหมายไป

  2. “แผนการลงทุน” เพื่อให้ได้ตามเป้า เราต้องใช้เครื่องมืออะไรในการลงทุน และเครื่องมือนั้น มีความเสี่ยงอะไรที่เราต้องยอมรับ

  3. “จุดพอเพียง” เราจะไม่ลงทุนไปตลอดกาล เราต้องกำหนดจุดจบของการลงทุนครั้งนั้นให้ได้ เพื่อสร้างวินัย แล้วเพื่อให้มันเป็นการลงทุน ไม่ใช่การเล่นการพนัน ที่เราจะอยากได้อยู่เรื่อยๆ อย่างไม่รู้จักพอ

3 ข้อนี้คือสิ่งที่จะกำหนดการลงทุนของตัวเองมาตลอด จนถึงปัจจุบันครับ

ฝากอะไรถึงคนที่ยังไม่เริ่มลงทุน กลัวๆ กล้าๆ ที่จะเริ่่มลงทุน
ถูกแล้วที่กลัว ถ้ายังไม่มีทัศนคติเรื่องการเงินที่ถูกต้อง ถ้ายังตอบคำถามว่า “ลงทุนเพื่อผลตอบแทนสูงกว่าเดิม”  เก็บเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ เถอะครับไม่ใช่เรื่องเสียหาย อย่าเอาชีวิตทั้งหมดไปเสี่ยง อย่าไปเชื่อแคมเปนส์ โฆษณาชักชวนการลงทุนจนเกินไปครับ เขาได้คอมมิชชั่นจากเรา  เขาไม่ได้อยู่ดูแลเราเมื่อเราขาดทุน หรือล้มละลาย อยากให้เริ่มต้นด้วยการวางแผนการเงินส่วนบุคคลก่อน เหมือนที่เราได้ไปรู้จักชุดความรู้หนึ่งมา จากโค้ชการเงินคนหนึ่ง ( พี่หนุ่ม The Money Coach) แกตั้งสูตรที่ผมว่ามันโคตรจริงอย่างนี้

จงสำรวจสภาพการเงินของตัวเองก่อนว่าเป็นไปตามนี้หรือยัง ( Money Fitness )

  1. สภาพคล่องดี: มีกิน มีใช้ มีเหลือเก็บ พอรึยัง

  2. ปลอดหนี้จน: หนี้เลว หนี้ที่ไม่ได้สร้างรายได้กลับมาหาเรา เครียร์มันให้หมด

  3. พร้อมชนความเสี่ยง: เราพร้อมกับภาวะวิกฤตในชีวิตตัวเองรึยัง มีเงิน มีแผนรองรับ โดยจะไม่เป็นภาระต่อคนในครอบครัวแล้วรึยัง

  4. มีสะเบียงสำรอง: วันนี้ถ้าขาดรายได้ เรามีเงินสำรองพอ ต่อการใช้ชีวิตในช่วงที่ขาดรายได้รึยัง

  5. สอดคล้องเกณท์ภาษี: หากินในแผ่นดินไทย ดูแลรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองดีพอรึยัง ยังเป็นคนที่พยายามหลบเลี่ยง กับสิ่งเหล่านี้อยู่รึป่าว

  6. บั้นปลายมีทุนเกษียณ: ในวันที่ไม่มีแรงกายในการทำงาน เรามีทุนมากพอที่จะดูแลชีวิตตัวเองรึยัง

6 ข้อนี้คือสิ่งที่เราว่า มันดี สำคัญมากๆ กว่าการลงทุน ผมลงทุนเพื่อจัดการให้ชีวิตเติมเต็มกับทั้ง 6 ข้อนี้ ผมไม่ได้ลงทุนเพื่อหวังเงิน 10ล้าน 100ล้าน เหมือน ปกหนังสือหลายๆ เล่ม เพราะผมไม่ได้อยากลงทุนไปทั้งชีวิตโดยไม่รู้จักพอ หรือไม่มีเป้า  ผมแค่อยากทำงาน เก็บเงิน ลงทุนตามเป้า แบบนี้ไปเรื่อยๆ อย่างพอเพียงครับ

สิ่งหนึ่งเลยที่พวกเราเหล่านักลงทุนทราบกันดี คือ “ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง” แต่เราจะอุดรูความเสี่ยงนั้นด้วยความรู้ของตัวเอง เชื่อว่าบทสัมภาษณ์ของคุณป๊อปนี้จะสร้างความ กล้า และเปลี่ยนทัศนคติในการลงทุนของเพื่อนๆหลายคนให้เริ่มลงทุนได้ หรือใครที่ลงทุนอยู่แล้วจะสามารถนำไปปรับใช้ให้การลงทุนของคุณปลอดภัยมากขึ้น สำหรับเรา มีประโยคที่กระทบใจและเป็นข้อเตือนใจที่ดีมาก จะช่วยเตือนสติก่อนจะซื้อหุ้นตัวใหม่ไปได้อีกนาน คือประโยคที่คุณป๊อปบอกไว้ว่า อย่าสะเออะไปลงทุนถ้ายังมีคำถามที่ถามคนอื่นว่า “พี่ๆลงทุนอะไรดี” เพื่อนๆคนไหนชอบหรือมีประโยคกระแทกใจอะไร อย่าลืมมาแชร์กันบ้างนะคะ..แล้วพบกันใหม่ใน My Way My Investment NO.8 ค่ะ (ยิ้ม)

 

ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง