#แนวคิดด้านการลงทุน

Geraldine Weiss สุภาพสตรีนักลงทุนเน้น"ปันผล"

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
251 views

ถ้านักลงทุนชายผู้ยิ่งใหญ่ของโลก เราคงต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับวอเร็น บัฟเฟตต์ 

แล้วถ้านักลงทุนหญิงที่ยิ่งใหญ่ของโลก คุณจะยกตำแหน่งนี้ให้กับใคร ?

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ผู้หญิงลงทุนไม่เป็นกันเลยหรือไง ? จริงๆแล้วทางสถิติ ผู้หญิงมีโอกาสลงทุนประสบความสำเร็จมากกว่าผู้ชาย โดยมีคีย์สำคัญอยู่ที่ "การควบคุมอารมณ์" กล่าวคือ ผู้หญิงสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีมากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงจะไม่ตื่นตระหนกเมื่อเห็นตลาดหุ้นลงมาแรง ..

มีนักลงทุนคนหนึ่งเป็นผู้หญิงที่ลงทุนโดยใช้หลัก "การลงทุนเน้นคุณค่า" ในแบบสไตล์ของเธอเอง คือ เน้นในเรื่องของปันผล (Dividend Yield) จนได้รับขนานนามว่า เธอคือราชินีหุ้นปันผลเลยทีเดียว เขาชื่ออะไร มีประวัติความเป็นมา และแนวคิดการลงทุนของเธอเป็นอย่างไร ติดตามกันได้เลย

Geraldine Weiss นักลงทุนหญิงใช้ Dividend Yield วัดมุลค่าหุ้น
ที่มาภาพ : Stockopedia

เจอรัลดีน วีสส์ (Geraldine Weiss) เกิดในครอบครัวชนชั้นกลางที่เมืองซานฟรานซิสโก ในปี 1926 ท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น ถึงแม้เจอรัลดีนจะเป็นผู้หญิง แต่พ่อแม่ของเธอก็ให้โอกาสเธอได้ทำในสิ่งที่อยากจะทำเต็มที่โดยไม่ได้สนใจว่าเด็กผู้หญิงโตขึ้น จะต้องแต่งงาน มีครอบครัวและเป็นเบี้ยล่างของสุภาพบุรุษในยุคสมัยนั้น

เจอรัลดีนเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียสาขาการเงิน เศรษฐกิจ และการลงทุน หลังจากเรียนจบในปี 1960 เธอก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือในห้องสมุดประชาชน โดยเฉพาะหนังสือประเภทการลงทุน เรียกได้ว่าบรรณารักษ์เห็นเธอแล้วยังต้องแปลกใจว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะ "คลั่ง" หนังสือการลงทุนอะไรได้ถึงเพียงนี้

เธอเปิดเผยว่ามีหนังสืออยู่ 2 เล่ม ที่เป็นเล่มโปรดเลย คือ Security Analysis และ The Intelligent Investor เขียนโดยเบนจามิน เกรเฮม เมื่อเธออ่านแล้วได้เปลี่ยนมุมมองการลงทุนของเธอไปอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับวอเร็น บัฟเฟตต์ ที่ได้รับแรงบรรดาลใจจากหนังสือทั้ง 2 เล่ม และต้องวิ่งตามหาอาจารย์เบนจามิน เกรเฮม เพื่อได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย แต่จุดแตกต่างของทั้ง 2 คน คือ วอเร็น บัฟเฟตต์ จะเน้นหนักในเรื่อง "หุ้นก้นบุหรี่" คือหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่ามากๆ ซื้อและถือมันเอาไว้จะดีเอง แต่สำหรับเจอรัลดีนแล้ว เธอจะเน้นหนักในเรื่อง "หุ้นปันผล" มากกว่า

เธอกล่าวว่าหัวใจหลักของการศึกษาเรื่องปันผลของหุ้นมีอยู่ 3 ข้อ ด้วยกัน คือ
1. อัตราการปันผล ของหุ้นตัวนั้นๆคือมูลค่าที่แท้จริง
2. ปันผลมาจากกำไรสุทธิที่แท้จริง ถ้าบริษัทจ่ายปันผลเพิ่ม นั้นหมายความว่าบริษัทนั้นๆมี "Growth" 
3. การนำปันผลที่ได้นำกลับไปลงทุนซ้ำอีก (Reinvest) จะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนอย่างน่ามหัศจรรย์ใจ

การลงทุนช่วงแรกๆของเจอรัลดีน คือการนำหุ้นบลูชิพมากกว่า 350 ตัว มาทำการทดสอบและวาดกราฟเทียบระหว่างอัตราการปันผลและราคาหุ้น ถ้าหุ้นตัวไหนมีอัตรา Yield ที่สูงนั้นหมายถึงหุ้นตัวนั้น "ต่ำกว่ามูลค่า" และเป็นเวลาที่ดีในการเข้าซื้อ ในขณะเดียวกันถ้าหุ้นตัวไหนมีอัตรา Yield ที่ต่ำ อาจจะบ่งบอกว่าหุ้นตัวนั้นแพงและเป็นเวลาที่ดีในการพิจารณาขาย

** หุ้นบลูชิพ คือหุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานทางการเงินที่ดี มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง คนในตลาดรู้จักกันเป็นอย่างดี

ครั้งหนึ่งเธอเคยปรึกษากับสามีของเธอว่า "ถ้าฉันเอาเงินเก็บของครอบครัวไปซื้อหุ้น เธอจะว่าอะไรฉันไหม" สามีของเธอไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องยอมไฟเขียวให้กับเธอไป ...
ในช่วงปี 1962 สหรัฐอเมริกายิงขีปนาวุธไปที่คิวบาเพื่อสกัดกั้นสหภาพโซเวียต ตลาดหุ้นวอลสตรีทตกอย่างแรง เธอจึงใช้จังหวะนี้ซื้อหุ้น 100 ตัวซึ่งเธอคัดเลือกมาแล้วจากหุ้นบลูชิพทั้งหมด 350 ตัว และ 35 ใน 100 ตัวเธอก็ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีว่ามันต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น ตัวอย่างเช่น หุ้นยาสีฟันคอนเกต , หุ้นเจเนรัลมอเตอร์, ไอบีเอ็ม, และผู้ผลิตอาหารซีเรียลอย่าง Kellogg’s

 

ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ? 
เธอเปิดเผยกับนิตยสาร IQ Trends ว่าจากวันนั้นถึงวันนี้กว่า 40 ปีแล้ว หุ้นบางตัวเธอยังถือมันอยู่เลย บางตัวก็ได้ขายออกไปแล้ว เพราะคิดว่ามันให้ปันผลที่ต่ำเกินไป รวมๆแล้วเธอได้ผลตอบแทนทบต้นปีละ 11.2% ซึ่งมากกว่าวอลสตรีทที่ขึ้นมาปีละ 9.8% ถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก

สาเหตุที่ทำให้เจอรัลดีน วีสส์ เลือกกลุ่มหุ้นบลูชิพขึ้นมานั้น เธอให้เหตุผลว่าสิ่งที่ต้องทำอันดับแรก คือ กำหนดขอบข่ายของหุ้นที่สนใจ อย่างเช่นกรณีของเธอสนใจแต่หุ้นบลูชิพเป็นเพราะว่าหุ้นเหล่านี้ผ่านระยะเวลามายาวนานจนได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความมั่นคงในระดับหนึ่ง สามารถทำกำไรและจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอขึ้นอยู่กับว่ามากหรือน้อยเท่านั้นเอง สิ่งที่เธอคิดต่อมา คือ ปกป้องเงินลงทุนของเธอก่อนด้วยสมมุติฐานที่ว่า การลงทุนด้วยเงิน 2 พันเหรียญ เราจะทำอย่างไรไม่ให้เงินลงทุนก้อนนี้หายไป ดังนั้นต้องซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่า และจ่ายปันผลที่สมเหตุสมผล

แต่ใช่ว่าการลงทุนของเธอจะราบรื่นทุกครั้งไป เธอซื้อหุ้นครั้งใหญ่จริงๆคือช่วงปี 1962 คือสงครามอเมริกา-คิวบา เธอต้องทนขาดทุนติดต่อกันมานานถึง 7 ปีกว่าจะเริ่มมีกำไรในรูปของส่วนต่างราคาหุ้นอีกครั้ง เธอยอมรับว่า "7 ปี เป็นการเดินทางที่ยาวนานจริงๆ ถ้าสมมุติว่าอายุขัยเฉลี่ยของคุณคือ 70 ปี การรอคอย 7 ปี นี้จะกินเวลาไปมากถึง 1 ใน 10 ของชีวิตเลย นั้นคือราคาที่เราต้องจ่าย" เธอให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร IQ Trends

 

Geraldine Weiss กับหนังสือที่เธอเขียน Dividends Don't Lie
ที่มาภาพ : The Globe and Mail

ระหว่างที่ลงทุนในตลาดหุ้น เธอก็มีอาชีพเป็นคอลัมนิสต์ เขียนบทความทางการลงทุนให้กับนิตยสาร IQ Trends แต่เนื่องจากว่าสมัยนั้น "ผู้หญิง" มักไม่ได้รับการยอมรับจากวอลสตรีท และเรื่องสิทธิสตรีเพศก็ไม่ได้เข้าใจเหมือนในสมัยนี้ ดังนั้นเธอจึงใช้นามปากกาว่า (G. Weiss) ซึ่งคนอ่านทั่วไปเข้าใจว่าคนเขียนเป็นผู้ชาย แต่จริงๆแล้วเป็นผู้หญิง

นอกจากเป็นคอลัมนิสต์แล้ว เจอรัลดีนยังเขียนหนังสือทางการลงทุนสองเล่ม คือ


1. Dividends Don't Lie: Finding Value in Blue Chip Stocks ปันผลไม่เคยโกหกคุณ การหามูลค่าหุ้นที่แท้จริงในหุ้นบลูชิพทำอย่างไร

2.The Dividend Connection: How Dividends Create Value in the Stock Market ปันผลจะสร้างความมั่งคั่งได้อย่างไร

 

== สรุป ==
ศาสตร์การลงทุนแบบเน้นคุณค่ามีหลายรูปแบบ การยึดถือในเรื่องปันผลก็เป็นหนึ่งในนั้น และก็มีคนประสบความสำเร็จกับรูปแบบนี้ซึ่งยากแก่การลอกเลียนแบบ ศาสตร์แต่ละศาสตร์เหมาะสมกับคนที่แตกต่างกัน

เจอรัลดีน วีสส์ มีเส้นทางคล้ายกับวอเร็น บัฟเฟตต์ กล่าวคือเกิดมาในครอบครัวชนชั้นกลาง สนใจด้านการลงทุน อ่านหนังสือของเกรเฮม และใช้กลยุทธ์การลงทุนเน้นคุณค่าเพียงแต่บัฟเฟตต์ซื้อหุ้น "ก้นบุหรี่" แต่เจอรัลดีนใช้ปันผลเป็นหลักในการวัดมูลค่าของหุ้น

หลักการของเธอมี 3 ข้อ คือ อัตราปันผลเท่าไร เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปีไหม และเราจะนำเงินปันผลที่ได้มากลับไปลงทุนเพิ่มหรือเปล่า

จะเห็นได้ว่าหลักการเดียวกัน แต่ต่างกลยุทธ์ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ โดยไม่จำเป็นต้องถือหุ้นเหมือนๆกัน หรือทำอะไรตามๆกัน นี้เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนรายย่อยครับ แค่เน้นปันผลก็สามารถสร้างความมั่งคั่งในตลาดหุ้นได้ ...

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://moneyweek.com/475126/the-worlds-greatest-investors-5/

https://www.telegraph.co.uk/money/special-reports/invest-likegeraldine-weissthe-queen-blue-chip-dividends/


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง