#แนวคิดด้านการลงทุน

จับเทรนด์อสังหาฯ จากคนญี่ปุ่น

โดย ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา
เผยแพร่:
104 views

 

ด้วยประสบการณ์ 19 ปีที่ผมได้ร่วมทำงานกับคนญี่ปุ่น ได้ซึมซับแนวความคิด, นิสัย และแนวโน้มเทรนด์ในการทำธุรกิจกับคนญี่ปุ่นเป็นอย่างดี 

 

การที่เมืองไทยมีอากาศอบอุ่นทั้งปี มีดินดีที่เพาะปลูกอะไรก็งอกงาม คนไทยก็เลยมีลักษณะนิสัย สบายๆ ยิ้มง่าย และมีคำพูดติดปากว่า ไม่เป็นไร ส่วนที่ญี่ปุ่น มีอากาศอุ่นอยู่ไม่กี่เดือน นอกนั้นเจอไต้ฝุ่นบ้าง หนาวสุดขั้วบ้าง แถมมีแผ่นดินไหวบ่อยๆ แบบแทบคาดเดาไม่ได้ว่า พรุ่งนี้จะดีหรือร้าย ทำให้คนญี่ปุ่นเป็นคนทำงานจริงจัง ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง และมีวินัยสูง

 

 

ผมคุยกับคนญี่ปุ่นหลายๆคนที่ถูกส่งมาเมืองไทยใหม่ๆ บอกว่าไม่เข้าใจในความหมายคำว่า ไม่เป็นไร ของคนไทย คือพองานไม่เสร็จ ก็บอก ไม่เป็นไร แล้วก็ส่งยิ้มสยาม หรือทำงานไปเล่นไป แบบแยกไม่ออกว่างานหรือเล่น รวมทั้งการมีปัญหาระหว่างกัน ก็มักจะพูดว่า ไม่เป็นไร ทั้งๆที่ เป็นไร คือไม่ยอมเคลียร์กันตรงๆ แต่เก็บค้างคาไว้ในใจลึกๆ ส่งผลให้งานไม่เดินบ้าง หรือรอวันระเบิดใส่กันบ้าง นั่นเป็นเรื่องที่คนไทยและญี่ปุ่นต้องปรับทัศนคติเข้าหากัน ซึ่งต้องใช้ความเข้าใจและเวลากันบ้าง 

 

แต่เชื่อหรือไม่ว่า คนญี่ปุ่นถ้าได้ลองมาอยู่เมืองไทยเกินปีขึ้นไป เกือบทุกคนไม่อยากกลับ !! ผมเคยเจอทั้ง คนญี่ปุ่นร้องไห้ตาแดง เมื่อทราบว่าบริษัทจะส่งตัวกลับไปอยู่สำนักงานใหญ่ที่โตเกียว

 

ผมเคยเห็นคนญี่ปุ่นที่ลาออกจากบริษัททันทีเมื่อกำลังจะโดนย้ายจากโรงงานที่เมืองไทย ไปอยู่ประเทศอื่น แล้วเค้าก็ตั้งบริษัทเล็กๆที่เมืองไทยเพื่อจะได้อยู่ต่อ ทั้งยอมลดเงินเดือนก็มี ยอมลดสวัสดิการก็มี คือยังไงก็เอา ขอให้ได้อยู่เมืองไทย ใช่ครับ คนญี่ปุ่นชอบคนไทย ชอบเมืองไทย !

 

ข้อดีของคนไทยที่ประทับใจคนญี่ปุ่นก็เช่น ความเกรงใจ ซึ่งตรงจริตคนญี่ปุ่น นิสัยนี้มีไม่กี่ประเทศในโลกที่เข้าไปถึงแก่น คนไทยใช่ และคนญี่ปุ่นใช่ ค่าครองชีพที่ถูก คนญี่ปุ่นก็ชอบ สถานที่ท่องเทียวทั้งกลางวัน กลางคืน ทั้งในเมือง ทั้งต่างจังหวัด แถมมีทั้งภูเขางามๆ และทะเลสวยๆเบ็ดเสร็จในประเทศเดียว

 

ส่วนเรื่องความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ถือว่าดีสุดเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านไทยใกล้ๆ จึงไม่น่าแปลกใจนักที่เราเริ่มจะเห็นชัดขึ้นกับการย้ายฐานมาอยู่เมืองไทยของคนญี่ปุ่น เริ่มมีห้างเน้นขายคนญี่ปุ่นแถบสุขุมวิท และมีเจเปนทาวน์กระจายไปอยู่ทั่วกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แถว ธนิยะ, สุขุมวิท รวมทั้งทำเลบูมแห่งใหม่ที่ใครๆก็พูดถึงคือ ศรีราชา นั่นก็มาจากเทรนด์การย้ายหลักแหล่งมาอยู่เมืองไทยมากขึ้นของคนญี่ปุ่น ในแถบกรุงเทพฯนั้น เข้าใจว่าดีว่าเป็นฐานของคนญี่ปุ่นที่ทำงานในเมืองหลวงหรือพื้นที่ใกล้ๆ

 

ส่วนที่ศรีราชานั้น บางคนทราบดี ส่วนหลายคนสงสัยว่าทำไมจึงเริ่มมีคนญี่ปุ่นไปอยู่มากและฮิต ?

จริงๆแล้ว ศรีราชา ค่อยๆเติบโตมานานแล้ว แต่เพิ่งจะบูมในปีนี้นี่คือภาพที่คนนอกเห็น ส่วนคนพื้นที่เห็นภาพตรงนี้ชินตา

 

ด้วยโลเคชั่นที่ใกล้ทั้งท่าเรือ และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ดึงโรงงานญี่ปุ่นมากมายมาอยู่ในนี้ ความเจริญจึงตามมาแบบไร้ขีดจำกัด

ใกล้ๆก็มีทั้งทะเล แหล่งท่องเที่ยว ห้างดัง และล้อมรอบด้วยสนามกอล์ฟ จึงไม่ใช่แค่ดึงเฉพาะคนทำงาน แต่ดึงมาได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว

 

พฤติกรรมความเปลี่ยนแปลงที่ชัดขึ้นที่ผมเห็นเมื่อเทียบกับเมื่อสมัยก่อนคือ สมัยก่อนคนญี่ปุ่นจะยอมเดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯกับชลบุรีทุกวัน คือมีคอนโดฯที่สุขุมวิท ส่วนโรงงานอยู่ชลบุรี ก็ยอมเสียเวลา เสียค่าน้ำมันรถ ค่าคนขับรถ เดินทางเช้าเย็น

 

แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว ความสะดวกสบายในแถบศรีราชา ดึงดูดคนญี่ปุ่นไปตั้งรกรากและปักหลักเป็นที่เรียบร้อย และด้วยการที่มีงบฯในการเช่าที่พักของคนญี่ปุ่นจากบริษัท นั่นคือเป็นโอกาสที่ดีกับคนที่อ่านเทรนด์ตรงนี้ออก การลงทุนซื้อคอนโดฯที่ศรีราชา เพื่อปล่อยให้คนญี่ปุ่น หรือคนที่ทำงานในละแวกนั้นเช่ารายเดือน หรือรายปี จึงเป็นการลงทุนที่ล้อไปกับเทรนด์ใหม่นี้

 

เมื่อเมืองใหม่เกิดแล้ว ความไว้เนื้อเชื่อใจของคนญี่ปุ่นต่อเมืองศรีราชามีแล้ว (ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่คนญี่ปุ่นจะมั่นใจในเมืองไหน เงื่อนไขต้องครบ ทั้งความสะดวกสบาย การจราจร และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน) นั่นก็เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องอ่านเกมนี้ให้ขาด

 

เลือกโครงการคอนโดฯศรีราชาที่ทำเลดีๆ ออกแบบหรูให้ถูกใจความเนี๊ยบของคนญี่ปุ่น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่เอื้อต่อชีวิตตอนพักจากงาน ถ้าเจอนั่นคือคุ้มที่จะลงทุน ด้วยค่าเช่าหลักหลายหมื่นต่อห้อง และด้วยงบฯที่บริษัทให้ พร้อมทำสัญญาเป็นรายปี นั่นคือผลตอบแทนที่สามารถจะทำให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของคอนโดฯได้แบบฟรีๆเมื่อเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง

 

ซึ่งนักลงทุนควรไปชมโครงการเปิดใหม่ แล้วกดเครื่องคิดเลขคำนวณกันดู ประตูสู่โลกของการลงทุนคอนโดฯในลักษณะปล่อยเช่า ในพื้นที่อนาคตที่เติบโต บุกศรีราชาแบบจริงจังแล้ว

 

หนึ่งในโครงการที่ผมเห็นในตอนนี้ และเตรียมที่จะเปิดให้ชมและจองก็คือ NUSA SRIRACHA ที่น่าสะดุดตาทั้งทำเล การออกแบบที่สวย+หรู คำนึงถึงพื้นที่ใช้สอย จนถึงพื้นที่สีเขียว และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดเต็ม อีกทั้งการดึงเชนโรงแรมระดับ 5 ดาวเข้ามาบริหาร โดยคำนึงถึงผลตอบแทนสำหรับนักลงทุน ที่จะได้รับ เป็นการคิดเผื่อสำหรับนักลงทุนไปพร้อมกันด้วยถ้าสนใจก็เข้าชมเว็บกันที่http://www.nusasiri.com/nusasriracha/

 

จับเทรนด์อสังหาฯ จากคนญี่ปุ่น... ยังไงคนญี่ปุ่นก็รักเมืองไทย ไม่ต่างนักกับที่คนไทยก็ชอบเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

สองประเทศนี้มีอะไรลึกๆที่ถูกใจกันและกัน แล้วนั่นก็เป็นประตูอีกบานสำหรับคนที่อ่านเทรนด์ออกแล้วนำมาใช้ในการลงทุน

 

 

 


CEO และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ stock2morrow ศูนย์กลางนักลงทุนรายย่อย 

ที่ปัจจุบันต่อยอดสู่การเป็นสถาบันอบรมความรู้ด้านการลงทุน และสำนักพิมพ์สต็อคทูมอร์โรว์

ผู้ปลุกปั้นนักลงทุนให้กลายเป็นไอดอลของใครหลายๆ คน 

เจ้าของเพจ : https://www.facebook.com/PiyaphanMakeBillion/ 

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง