#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

PTG หุ้นลงรอบนี้ โอกาสหรือความเสี่ยง ?

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
90 views

นักลงทุนถามเกี่ยวกับหุ้น PTG หุ้นเติบโตแข็งแกร่งกับผู้บริหารมากความสามารถอย่างคุณ พิทักษ์ รัชกิจประการ ถึงหุ้นที่ลงมาอย่างต่อเนื่องทำจุดต่ำสุดกันทุกวัน จากราคาหุ้นที่ 30 กว่าบาทจนเหลือ 11 บาท นับเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี 8 เดือนเลยก็ว่าได้
เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น และการลงแรงของหุ้น PTG รอบนี้มองเป็นโอกาสเข้า "ซื้อ" หุ้น หรือควร "หลีกเลี่ยง" กันแน่ ...

สาเหตุหลักที่หุ้นลงเกิดจากความคาดหวังของนักลงทุนที่มากเกินไป และเชื่อมั่นว่าปั้มสีเขียวของ PT จะเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการขยายสาขาเชิงรุก การหันไปทำธุรกิจ Non-oil มากขึ้น เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย บุกกาแฟระดับพรีเมี่ยมอย่างคอฟฟี่เวิล์ด ธุรกิจใหม่อย่างปาล์ม Complex รวมถึงศูนย์บริการรถครบวงจรอย่าง autobac และ Protruck แต่ปรากฏว่างบการเงินไม่ได้โตอย่างที่คาด

ล่าสุดผลดำเนินงานไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 177 ล้านบาท ลดลง 33% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 264.88 ล้านบาท ถึงแม้รายได้จะโตตามการขยายสาขาที่ปัจจุบันมีอยู่ 1,803 สาขา

การดำเนินงานที่พลาดเป้าถือเป็นข่าวร้าย .. แต่ข่าวดี คือ ผู้บริหารคนเก่งอย่างคุณพิทักษ์ รัชกิจประการ เริ่มมองเห็นแล้วว่าจะหันทิศทางของบริษัทไปในทิศไหน เขากล่าวว่าจะปรับลดสาขาการขยายสถานีให้บริการน้ำมันจากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 2,000 แห่ง ให้เหลือเพียง 1,900 แห่ง พร้อมปรับแผนหันมาเน้นเปิดในพื้นที่สายหลักและพื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงให้มากขึ้น การเน้นเปิดตามสายรองอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์อย่างที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทยังเน้นการขยายธุรกิจ Non-oil มากขึ้น และจะเป็นไปในเชิงรุกโดยกาแฟพันธุ์ไทยเปิดเพิ่มขึ้นเป็น 180 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 160 สาขา ขณะที่ร้าน Max Mart จะเพิ่มเป็น 160-170 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 140 สาขา

ในส่วนของธุรกิจปาล์ม Complex บริษัทยังเดินหน้าต่อไป ตอนนี้สำเร็จไปแล้ว 60-70% คาดว่าจะสำเร็จเป็น 100% ในไตรมาส 4/61 ที่จะถึงนี้

ปี 2557 บริษัทมีรายได้ 5.5 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 494 ล้านบาท 
ปี 2558 บริษัทมีรายได้ 5.3 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 650 ล้านบาท
ปี 2559 บริษัทมีรายได้ 6.4 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 1.03 พันล้านบาท
ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 8.4 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 913 ล้านบาท
ปี 2561 บริษัทมีรายได้ใน 6 เดือนแรกที่ 5.1 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 446 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่ารายได้ของบริษัทเติบโตมากขึ้นตามการลงทุน แต่กำไรของบริษัทกลับมีความผันผวนไม่ได้โตตามรายได้ อาจจะเป็นเพราะว่าอัตรากำไรสุทธิของบริษัทที่ค่อนข้างต่ำประมาณ 1.2% ทำให้กำไรค่อนข้างตึงตัว อย่างไรก็ตามทางผู้บริหารเริ่มมาเน้นธุรกิจ Non-oil มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อัตรา Margin เพิ่มสูงขึ้น ประเด็นนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร อัตรากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นได้ดีหรือไม่

ปัจจุบัน PTG อยู่ ณ ระดับราคา 11.4 บาท ค่า P/E ที่ 22 เท่า ค่า P/BV ที่ 3.74 เท่า และเงินปันผลที่ระดับราวๆ 1.4%

 

== โบรคเกอร์มองอย่างไร ==


บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ให้ความเห็น 5 ข้อที่แนะนำ "ขาย" หุ้น PTG คือ 


1.ผลการดำเนินงาน 2Q61 น่าผิดหวังโดยเฉพาะธุรกิจ Non-oil
2. ธุรกิจปาล์ม Complex เลื่อนเป็น 4Q61 
3. กำไรเติบโตลดลง 4% จากที่คาดหวังว่าน่าจะเติบโตสูง
4.สัดส่วนหนี้สินต่อทุน D/E Ratio เป็น 2.51 เท่า เป็นเรื่องน่ากังวลและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อ
5. ธุรกิจยังอ่อนแอ ให้ราคาเหมาะสม 11.2 บาท/หุ้น

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส เผยได้ปรับลดคาดการณ์กำไรปี 61-62 ลง 17% และ 14% ตามลำดับ สะท้อนผลประกอบการไตรมาส 2/61 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด และปรับลดการขยายสถานีบริการลงตามบริษัท

ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" จากเดิม "ซื้อ" และปรับราคาพื้นฐานลงเหลือ 15 บาท

 

== สรุป ==


หุ้น PTG เป็นหุ้นที่ความคาดหวังสูง เมื่อไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง ราคาหุ้นก็กลับเข้าสู่ความเป็นจริง การเน้นขยายสาขาเส้นทางสายรองอาจจะไม่ตอบโจทย์ ทำให้ผู้บริหารเริ่มกลับมาเน้นสายหลักและเพิ่มมูลค่าให้กับสถานีให้บริการน้ำมันมากขึ้นด้วยธุรกิจ Non-oil อย่างร้านกาแฟและสถานีบริการรถบรรทุก-รถยนต์ครบวงจร

อีกทั้งไตรมาส 4/61 จะมีประเด็นเรื่องปาล์ม Complex ที่ล่าช้าเข้ามารวมอยู่ในงบการเงินด้วย ซึ่งตรงนี้จะเป็นตัวผลักดันรายได้และอัตรากำไรสุทธิให้มากขึ้น แต่ประเด็นนี้ยังต้องรอกันต่อไปว่าจะดีจริงหรือไม่

ทางด้านโบรคเกอร์มองว่าราคาตรงนี้ยังเป็นความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่มากขึ้น ผลการดำเนินงานที่น่าผิดหวัง จึงปรับลดราคามาเป็น "ขาย" ส่วนอีกโบรคเกอร์หนึ่งแนะนำว่าให้รอดูความชัดเจน แนะนำ "ถือ" ไปก่อน

ทางผู้บริหารคนเก่งอย่างคุณพิทักษ์ รัชกิจประการ เห็นจุดอ่อนแล้ว แต่ประเด็นคือจะแก้ได้ตรงจุดหรือไม่ ถ้าแก้ได้ตรงจุด สามารถผลักดันกำไรให้โตได้ อัตรากำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้น ราคาตรงนี้ถือเป็น "โอกาส"
ในทางกลับกัน ถ้ามองเห็นแต่แก้ไม่ถูกจุด ยิ่งทำยิ่งแย่ ตรงนี้ก็มองว่าเป็น "ความเสี่ยง" ครับ

ของคุณแหล่งข้อมูล
http://www.efinancethai.com/hotnews/hotnewsmain.aspx?release=y&name=WU9MK0pWSmhvczhCOXBlUlRHSU14QT09

https://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=PTG&ssoPageId=5&language=th&country=TH


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง