My Way My Investment Interview No.4 / ลงทุนหลากสไตล์...รวยได้ทุกสายอาชีพ (stock2morrow)
กลับมาเจอกันอีกครั้งใน My Way My Investment ลงทุนหลากหลายสไตล์...รวยได้ทุกสายอาชีพ โปรเจคจาก stock2morrow ที่เริ่มต้นจากความตั้งใจ เพราะว่าเราเชื่อว่า “ทุกคนลงทุนได้” ไม่ว่าคุณกำลังสวมหมวกกับการเป็นอาชีพอะไร ในขณะเดียวกันคุณสามารถสวมหมวกอีกใบเพื่อเป็น “นักลงทุน” ไปพร้อมๆกันได้ค่ะ สำหรับบทสัมภาษณ์นี้ ก็เป็นครั้งที่ 4 แล้วนะคะ ทั้งผู้บริหารโรงพยาบาล, คุณหมอผิวหนัง, ผู้จัดการเที่ยวบินและลูกเรือ 3 บทสัมภาษณ์จาก 3 อาชีพบอกเราได้ว่า แต่ละท่านมีเคล็ดลับและจุดเริ่มต้นของการลงทุนที่แตกต่างกัน เพื่อนๆคนไหนที่พลาดบทสัมภาษณ์ดีๆ แชร์เคล็ดลับการลงทุนที่อาจจะนำไปใช้กับตัวเองได้
แนะนำตัวให้พวกเรารู้จักหน่อยค่ะ
และเข้าใจว่าคุณเชงไม่ได้ทำแค่ธุรกิจเดียวใช่ไหมคะ?
สวัสดีครับ เชงครับ วรวุฒิ กิติอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม๊กซิมัส เอสเตท จำกัด
ปัจจุบันทำธุรกิจอยู่หลายธุรกิจครับ อันที่เป็นหลักเลย คือธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทำกับเพื่อนๆ ตอนนี้ก็พัฒนาคอนโดมิเนียมพักอาศัย ที่ทำเลถนนพหลโยธิน 34 ถนนเสนานิคม ชื่อโครงการแมกซ์ซี่คอนโด รัชโยธิน-พหลโยธิน34 ครับ ทำเลอยู่ใกล้สถานีเสนานิคมสายสีเขียว ซึ่งถัดจากสถานีรัชโยธิน และสถานีม.เกษตรครับ นอกจากนี้ผมก็มีธุรกิจ โรงแปรรูปไม้ยางพารา และโรงฉีดพลาสติกด้วยครับ
ธุรกิจหลายตัวแบบนี้ ก็ยังเป็นนักลงทุนด้วย แล้วลงทุนอะไรบ้าง?
จริงๆ ผมมองการลงทุนเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันความเสี่ยงทางธุรกิจครับ ต้องมีทรัพย์สินหลายอย่างเพื่อกระจายความเสี่ยง ต้องเตรียมเงินสดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด และลงทุนจากกองทุนหุ้น หุ้นปันผล หุ้นระยะยาว หุ้นระยะสั้น ผมมีทั้งหมดในพอร์ตครับ ก่อนหน้าที่จะมาทำอสังหาริมทรัพย์ ผมจะเน้นลงทุนในหุ้นระยะสั้นเยอะ เพราะว่ามันเป็นช่วงขาขึ้น โยกเงินจากกองทุนที่ผลตอบแทนต่ำ มาลงเล่นหุ้นระยะสั้น สำหรับกองทุนเลือกที่มีผลตอบแทนไม่สูงมากนัก แต่ความเสี่ยงต่ำและมีสภาพคล่อง เพราะการทำธุรกิจต้องสามารถโยกย้ายเงินออกมาใช้ได้บ้างบางส่วน และประกันชีวิตครับเป็นเรื่องสำคัญ ผมทำทั้งครอบครัว
ลงทุนในหุ้น,กองทุน กับลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ ต่างกันอย่างไรคะ?
อสังหาริมทรัพย์มันกว่าการลงทุนกองทุนเยอะครับ เวลาที่เราลงทุนในกองทุนหรือหุ้น คือให้คนอื่นมาบริหารเงินเรา แต่ถ้าลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรือหมายรวมถึงธุรกิจอื่นๆ มันคือการเอาเงินคนอื่นมาบริหารให้เขาครับ บริหารทั้งเงินและความสุขของลูกค้าที่เราทำสินค้าให้..
3 ธุรกิจพร้อมๆกับการเป็นนักลงทุนแบ่งเวลายังไงคะ?
อย่างตัวโรงงาน ทั้งโรงแปรรูปไม้ยางพารา และโรงฉีดพลาสติก ทำมา 10 กว่าปีแล้วครับ มันเป็นระบบของมันเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็ทำตามหน้าที่ ตามออเดอร์กันไป ไม่ได้ใช้เวลาในการดูแลเยอะ แต่ถ้าย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ก็ยากเหมือนกันที่จะทำให้เป็นระบบ ต้องคิดเสมอว่าจะพัฒนาระบบอย่างไร เพื่อให้เรามีเวลามากขึ้น จะได้เอาไปทำธุรกิจอย่างอื่นต่อ ให้เวลากับมันในช่วงแรกพอระบบที่คิดมันเข้าที่ ก็จะมีเวลามากขึ้นครับ เรื่องของการแบ่งเวลา สำหรับผมคนเรามีเวลาเท่ากันนะครับ มันอยู่ที่ความคิด คติของผม คือการจัดระบบความคิดให้มีระเบียบและการจัดระเบียบความคิดให้มีระบบ เมื่อเราจัดการมันได้ เราจะจัดสรรเวลาได้ ผมคิดไว้เลยว่าในหนึ่งสัปดาห์ เราต้องมีเวลาให้ตัวเอง ต้องมีเวลาออกกำลังกาย และมีเวลาทำงานให้แต่ละธุรกิจ จัดสรรว่าวันนี้จะไปโรงงานไม้ วันนี้ไปโรงงานพลาสติก วันนี้ต้องมาดูโครงการที่กำลังทำ อีกวันต้องไปประชุมโครงการใหม่ เราต้องจัดสรรเวลาต่างๆครับ ด้านการลงทุนเอง อะไรที่ไม่ต้องใช้เวลาอย่างกองทุนหรือหุ้นระยะยาว ก็เลือกตัวที่อยู่ในความพอใจของเรา อยากได้ผลตอบแทนมากน้อยแค่ไหน ความเสียงแค่ไหนที่สบายใจและนอนหลับมากกว่า เราเลือกได้ครับ แต่ถ้าเงินก้อนไหนหรือการลงทุนที่ต้องดูแลมีความเสี่ยงมากก็หาคนช่วยดูแลครับ แบ่งเวลาแล้วก็ต้องแบ่งพอร์ตด้วยนะครับ อย่างธุรกิจอสังหาฯ ผมเองก็ไม่ได้ใช้เงินตัวเองทั้งหมด ลงทุนเงินส่วนหนึ่ง และใช้สถาบันการเงินด้วย ต้องแบ่งพอร์ตไปลงทุนอย่างอื่นกระจายความเสี่ยงทั้งหุ้นทั้งอสังหาฯ
หลักคิดในการทำธุรกิจของคุณเช้ง และการเป็นนักธุรกิจได้เปรียบกว่าอาชีพอื่นในการลงทุนอย่างไรบ้างคะ?
หลักคิดในการทำธุรกิจของผม “give before get อย่าหวังที่จะได้รับก่อนที่จะให้” เวลาที่เราทำอะไรก็ตามถ้าเราคิดแต่ว่าเราจะได้ก่อน จะรับมาก่อน มักทำไม่ค่อยสำเร็จครับ คือเราต้องให้ก่อนครับแบ่งเลยนะ สมมุติมี 10 ส่วน เรารับแค่ 4 แล้วให้ไป 6 ส่วนเลย ผมว่ามันสูตรที่ทำธุรกิจสำเร็จ เป็นเทคนิคที่ไม่ยากนะครับ ส่วนจุดแข็งจุดแข็งของคนเป็นเจ้าของธุรกิจ ผมว่ามันทำให้ผมสามารถวิเคราะห์โอกาส คู่แข่ง หรือแนวโน้มธุรกิจต่างๆ ที่ผมกำลังจะไปลงทุนหุ้นนั้นๆได้ครับ อย่างธุรกิจอสังหาฯ เดิมทีครอบครับทำธุรกิจอสังหาฯ เป็นแนวราบ พวกหมู่บ้านมาก่อนเกือบ 30 ปี เราก็เหมือนจะรู้จักอสังหาฯดีประมาณหนึ่ง แต่พอมาทำแนวสูง ก็ต้องทำ Marketing Research ทำสำรวจเอง ทั้งคู่เแข่ง ศักยภาพ กายภาพ พอลงสำรวจเองทั้งหมดทำให้เรามีข้อมูลมากพอที่จะอุด หรือปิดความเสี่ยงนั้นๆได้ เช่นเดียวกับการลงทุนหุ้นหรือกองทุน ก่อนลงทุนเราต้องศึกษาและให้เวลากับมันเพื่อศึกษาอย่างลึกซึ้ง จะได้ไม่มาโทษตัวเองทีหลังอีกว่าให้เวลาไม่มากพอ
ฝากบอกเพื่อนที่ยังไม่ได้เริ่มลงทุนหน่อยค่ะ
เริ่่มเลยครับ แต่ลงทุนทีละน้อย ลงทุนที่ละนิด แล้วศึกษามันไปเรื่อยๆ เวลาผิดพลาดมันจะได้ผิดพลาดน้อย แต่ถ้าสำเร็จเราจะได้ภาคภูมิใจ และสามารถที่จะกล้าขยับก้าวต่อไปได้ครับ ซึ่งก็ต้องศึกษาอย่างละเอียด เหมือนที่ผมบอกไป แต่ถ้าถามผมจริงๆว่าต้องรอศึกษาให้ครบก่อนค่อยลงทุนไหม ?ผมว่าไม่ต้องนะ ลงทุนไปเลยครับ เริ่มทีละนิด เมื่อเงินเราลงไปปุ๊บ มันเหมือนมีกลไกเชื่อมกันครับ สมองเราจะทำงานเองทันที (หัวเราะ) เราจะติดตามมันศึกษามันเอง แต่ถ้าศึกษาอยู่ตลอดเวลาแล้วไม่ลงเลย เราจะไม่ได้เริ่มซักที เรามีความรู้น้อยก็ลงน้อยพอมีความรู้มากขึ้นก็ลงมากขึ้นเท่านั้นเองครับ รอศึกษาจนบรรลุ ไม่มีทางได้ลงหรอกครับ ลงเลย ทำเลย เรียนรู้จากความผิดพลาด สำเร็จยังถือว่าไม่เก่ง ต้องล้มเหลวก่อน แต่ล้มเบาๆเท่านั้นนะครับ “เงินลงสมองแล่น”
สุดท้ายฝากถึง Maxxi Condo เพราะอะไรถึงน่าลงทุน?
Maxxi Condo เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เราทำ ไม่ได้แค่อยู่อาศัยได้ แต่ที่น่าลงทุนเพราะโครงการอยู่ทำเลใกล้ม.เกษตร ใกล้รถไฟฟ้าสองสาย คือสีเขียวกับสีน้ำเงินน้ำ Yeild 5-6 % พอรถไฟฟ้าวิ่งก็จะมีเรื่องของ Capital gain ของราคาที่ดินที่ได้มาอีกด้วย สำหรับ Maxxi Condo 1 โอนปลายนี้ครับ พยายามให้ทันฉลองคริสต์มาส อาจจะมีโอนได้บางส่วนครับ สำหรับโครงการถัดไปเราก็พยายามจะขยับเข้าใกล้เมืองให้มากขึ้น ไปได้ทำเลที่หลัง MRT สถานีสุทธิสาร หลังตลาดภัทร ใกล้รถไฟฟ้าสถานีสุทธิสาร 350 - 400 เมตร มีทั้งตลาดและแหล่งของกิน ทำเลดีมาก น่าจะเปิดประมาณ Q4 ปีนี้ครับ..