#แนวคิดด้านการลงทุน

ส่องผลตอบแทน 10 หุ้นใหญ่ ลงทุนระยะยาว 10 ปี !

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
808 views

คำถามที่น่าคิด...ว่าการลงทุนหุ้นระยะยาวแล้วจะทำให้เรารวยได้จริงไหม เงินสามารถทำงานแทน และสร้าง Passive income ได้อย่างที่คาดหวังไว้หรือไม่ เราลองมาหาคำตอบกัน จาก TOP10 หุ้นที่เรารู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี  ภายใน 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2551-60)

จากข้อมูลตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พบว่า ตัวเลขอัตราผลตอบแทนที่แสดงในตาราง เราจะใช้ผลตอบแทนจากเงินปันผลบวกกับการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มขึ้นของราคาของหุ้นเข้ามาคิดกัน

ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าการลงทุนหุ้นในระยะยาว อาจจะไม่ได้ให้อัตราผลตอบแทนที่สูงเสมอไปทุกตัว ใครที่คิดว่าลงทุนหุ้นระยะยาวแล้วได้อัตราผลตอบแทนสูงอย่างแน่นอน อดทนถือแล้วรวยอย่างแน่นอน อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ การลงทุนระยะยาวแล้วรวยได้ นอกจากใช้เวลาแล้ว คุณต้องเลือกหุ้นในราคาที่ถูก ให้ถูกตัวด้วย และถูกจังหวะด้วย (Good Price & Good Stock & Good Time)

ลักษณะหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง มีจุดเด่นที่เตะตา คือ ผลตอบแทนจาก “ราคาหุ้น” ที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นจากฐานราคาที่ต่ำ เห็นได้ชัดจากหุ้น AOT และ CPALL ที่ตอนเข้าซื้อมีราคาต่ำแล้วราคาวิ่งขึ้นไปหลายเท่า เซียนแนวปัจจัยพื้นฐานที่รวยกัน ก็เพราะเขาเจอหุ้นเด้งแบบนี้ ในราคาที่ถูกกว่ามูลค่า

มีข้อสังเกต หากเราลงทุนหุ้นที่ราคาสูงแล้ว จะมีโอกาสเด้งได้เยอะๆ อีกไหม? ลองดูที่หุ้น SCC ที่ราคาฐานเริ่มแรกสูงและราคาวิ่งขึ้นไปสูงเช่นกัน ขึ้นอยู่กับอนาคตในการเติบโตของบริษัท 

แล้วจะหาหุ้นเด้งได้อย่างไร?

คงเป็นคำถามที่ทุกคนสงสัย จากบทสัมภาษณ์ ดร.นิเวศน์ ในรายกามือใหม่ Money Channal ได้บอกไว้ว่าคุณต้องเข้าใจ 2 สิ่งสำคัญ คือ


1.แนวโน้มพฤติกรรมของคนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
2.ใครเป็นอันดับหนึ่ง ที่จะเข้ามาตอบโจทย์พฤติกรรมนั้น

อีกสิ่งที่จะมาช่วยได้ หากคุณคิดผิดไปเลือกหุ้นที่ให้ผลตอบแทนไม่เวิร์ค คือการจัดพอร์ตการลงทุน (Asset Allocation) หรือการกระจายการลงทุนนั้นเอง เราไม่มีทางรู้ได้ 100% ว่าแนวโน้มพฤติกรรมของคนจะเป็นอย่างไร การกระจายลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นให้หลากหลาย จะช่วยลดความน่ากลัวจากการลงทุนได้

ลองมาเปรียบเทียบระหว่างลงทุนหุ้นแบบจัดหนักตัวเดียวกับแบบกระจายการลงทุน การลงทุนในหุ้นอย่างจัดหนัก ถ้าจัดถูกตัวรับรองรวยได้แน่นอน แต่ถ้าหากลงผิดตัวแล้วละก็คุณอาจจะยิ้มไม่ออกที่เอาเงินไปวางไว้ฟรีๆ และบางครั้งถึงขั้นขาดทุน

ส่วนการกระจายลงทุนยกตัวอย่างคุณมีเงิน 100 บาท กระจายไปลง 3 ตัว สัดส่วน 4:3:3 = AOT: SCB: PTTEP


โดยเอาเงิน 100 บาท ไปลงทุนหุ้น AOT ที่ 40 บาท SCB ที่ 30 บาทและ PTTEP ที่ 30 บาท เมื่อผ่านไป 10 ปี คุณจะมีเงินอยู่ที่ 702 บาท
แต่ถ้าคุณลงหุ้น AOT ตัวเดียวคุณจะมีเงิน 1,652 บาท ในทางกลับกันถ้าลง PTTEP คุณจะขาดทุน เหลือเงินเพียง 95 บาท ดังนั้น ถึงแม้ว่าการกระจายการลงทุน จะไม่ได้ทำให้คุณได้ผลตอบแทนสูงที่สุด แต่ก็คงความเสี่ยงในอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
 

การลงทุนหุ้นระยะยาว เพื่อให้เงินทำงานนั้น ถ้าถามว่าจะทำให้รวยจริงไหม คงตอบว่าได้ แต่ไม่ใช่ว่ากับหุ้นทุกตัว การลงทุนให้ได้ในสิ่งที่หวังนั้น นอกจากเรื่องของระยะเวลาการลงทุน และวางเงินเย็นให้ทำงานแล้ว คุณต้องมีความรู้ความเข้าใจในหุ้นที่คุณลงทุนอยู่ หมั่นทำการบ้าน คอยเฝ้าติดตามและปรับทัพการลงทุนอย่างต่อเนื่อง คุณอาจกลายเป็นเซียนหุ้นคนต่อไปได้เช่นกัน 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง