CWT เดิมพัน 3 ปีกำไร 4 เท่ากับโมเดลธุรกิจ 3 ขา กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกัน

ลักษณะธุรกิจ
ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 4 ประเภท ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ฟอก 2) ผลิตภัณฑ์ของเล่นสัตว์เลี้ยง 3) ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์หนัง 4) ผลิตภัณฑ์เบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ เช่น Toyota Honda Nissan Isuzu Mazda Mitsubishi และ Chevrolet นอกจากนี้บริษัทได้ลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท ชัยวัฒนา กรีน จำกัด ในสัดส่วน 100% โดยมีเป้าหมายเพื่อประกอบธุรกิจลงทุน (ถือหุ้น) บริษัท ในกลุ่มพลังงานทดแทน

ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- หลักๆแล้ว CWT ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์จากหนัง และพลังงานทางเลือก

- ธุรกิจฟอกหนัง ทำหนัง ได้แก่รับจ้างผลิตเบาะหนังรถยนต์ OEM คิดเป็น 95% ตรงนี้เป็นรายได้หลัก ดังนั้น นักลงทุนต้องติดตามยอดขายของรถยนต์ เศรษฐกิจภายในประเทศ

- นอกจากเบาะหนังในรถแล้ว ยังมีเฟอร์นิเจอร์หนัง

- ธุรกิจพลังงานทางเลือก โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์เป็นเจ้าของ 49% ประมาณ 5MW พลังงานชีวมวลถือหุ้น 100% ผลิตพลังงานจากไม้ยูคาลิปตัสอยู่ที่สระแก้ว เริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์กลางปีนี้ ตรงนี้จะมีรายได้ประมาณ 60 -90 ล้านต่อปี

- จะเห็นได้ว่าบริษัทเริ่มชัดเจนในเรื่องธุรกิจพลังงานทางเลือก จากเมื่อก่อนที่พึ่งพาในเรื่องธุรกิจหนังเพียงอย่างเดียว

- ตอนนี้บริษัทกำลังศึกษาในการลงทุนโรงงานไฟฟ้าจากขยะ ถือว่าน่าสนใจ ผลิตไฟฟ้าจากไบโอแก๊ส

- สิ่งสำคัญคือ การบริหารต้นทุนวัตถุดิบ นั้นหมายถึง การรับซื้อไม้ยูคาลิปตัส บริษัทจะบริหารต้นทุนอย่างไรเพราะสินค้านี้เป็น Commodity

- CWT อยู่ในขั้นตอนของ Investment Phase คือขั้นตอนของการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต

- พลังงานแสงอาทิตย์ CWT ได้สัญญาแบบ FIT ไม่ใช่ Adder

- PE ตอนนี้ 30 เท่า ROE 5% P/BV 1.8 เท่า นักลงทุนมูลค่าไปพอสมควร

- ต่อจากนี้รัฐบาลไม่ให้ใบอนุญาตเพิ่มและไม่ได้สนับสนุนพลังงานทางเลือกแล้ว ดังนั้น Growth ทางด้านพลังงานอาจจะลำบากนิดนึง หรือเราจะไปซื้อโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่อื่น ตรงนี้ก็ต้องจ่ายพรีเมี่ยม

- ตอนนี้ชีวมวล ยังมี MW ไม่มาก

- ธุรกิจเดิมของ CWT มี NEt Margin ราวๆ 2% ถือว่าต่ำ ตอนนี้ต้องหวังพึ่งธุรกิจพลังงานทางเลือก ผู้บริหารจะเพิ่มการเติบโตอย่างไร

- ตอนนี้นักลงทุนให้มูลค่า CWT ในเรื่องพลังงานทางเลือกไปแล้ว

- ถ้าบริษัทลงทุนเพิ่ม อาจจะมีการระดมทุน เครื่องมือทางการเงินหู้นกู้ หรืออะไรก็ตามแต่

ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- CWT เป็นบริษัทเก่าแก่ ในธุรกิจของการฟอกหนัง ทำหนังเบาะรถยนต์

- จริงๆธุรกิจประเภทการฟอกหนัง ยิ่งนานไปเรื่อยๆมันจะยิ่งแย่นะ ความเห็นส่วนตัว

- ธุรกิจซัพพลายเอ่อชิ้นส่วนรถยนต์ ส่วนใหญ่ก็เป็นรายใหญ่นะ ให้ราคาต้นทุนบวกกำไรนิดๆหน่อยๆ กำไรไม่เยอะ เพราะถ้ากำไรเยอะจริง บริษัทรายใหญ่เขาทำเอง เขาไม่ให้คุณทำหรอก

- ธุรกิจรับทำเบาะ ผมว่าเป็นธุรกิจธรรมดาที่ไม่ได้พิเศษอะไร

- ตอนนี้ผมมองว่าธุรกิจเดิมของเขาคงไม่โตแล้วละ คงจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ต้องไปหาธุรกิจใหม่ๆเพื่อหาการเติบโตใหม่ๆ ซึ่งคำตอบออกมาแล้วคือพลังงานทางเลือก

- แต่พลังงานทางเลือกมันยังน้อยอยู่ ไม่ได้มีนัยยะสำคัญอะไร พลังงานชีวมวลก็ยังเล็กอยู่ พลังงานขยะก็ยังไม่ชัดเจน ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร

- ในอดีต บอกกับเราเสมอว่า คนทำพลังงานทางเลือกไม่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จ ตรงนี้ CWT ต้องรอดูกันต่อไป อย่างเช่น ไม้ยูคาลิปตัส ตอนนี้อาจจะยังไม่มีใครเห็นประโยชน์แต่ต่อไปเขาบอกว่า ไม้ยูคาลิปตัสตรงนั้นมีประโยชน์ ตรงนี้มีมูลค่า เกิดการแย่งกันซื้อ ทำให้วัตถุดิบแพงขึ้น เราอาจจะไม่กำไรแล้วเวลานำไปเป็นพลังงานชีวมวล ตรงนี้ต้องมองให้ดีๆ

- สมมุติว่าผมให้พลังงานไฟฟ้าทางเลือกเลย กำไร 60 ล้าน กับธุรกิจเดิมของเขากำไรสัก 40 ล้าน รวมๆแล้วก็สัก 100 ล้าน ตอนนี้บริษัทมี Market Cap. 2 พันล้าน ตีเป็นเลขง่ายๆก็ P/E 20 เท่า ราคาตรงนี้ยุติธรรมนะ ไม่ได้ถูกอะไร ปัญหาคือความเติบโตว่าจะโตไหม นักลงทุนให้มูลค่าไปกับเรื่องพลังงานทางเลือกแล้ว ประเด็นสำคัญคือ ต่อจากนี้ละ ?

- CWT เป็นบริษัทขนาดเล็ก จะไปต่างประเทศก็ยาก

- ราคาที่ขึ้นมา ผมว่ามัน Price In เข้าไปแล้ว นักลงทุนคาดหวังไปแล้ว

- นโยบายของภาครัฐที่ออกมา ทำให้ไปยากขึ้นในเรื่องพลังงานทดแทน

- นักลงทุนเริ่มมองในด้านลบแล้วเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ ใครทำแสงอาทิตย์เริ่มไม่ให้คุณค่าเหมือนเมื่อก่อน

- การไล่ซื้อกิจการ ตรงนี้มันก็เป็นทางลัดในการเติบโต แต่ข้อเสียคือคนขาย เขาก็ไม่ขายถูก จะขายในราคาแพงพอสมควร ตรงนี้ CWT จะกล้าซื้อไหม นักลงทุนต้องลองกลับไปดู

- ผมว่า CWT เป็นหุ้นประเภทไหน ยังไม่แน่ใจ

-------------------------------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model CWT เดิมพัน 3 ปีกำไร 4 เท่ากับโมเดลธุรกิจ 3 ขา