เหมือนเป็นหุ้นต้องสาป สำหรับหุ้นถ่านหินอย่าง Banpu ที่มักจะมีข่าวไม่ดีเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อหุ้นวิ่งอยู่ดีๆ หจะมีข่าวร้ายมากดดันให้หุ้นลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของถ่านหินที่ราคาไม่ดีนัก ปริมาณการขายถ่านหินลด จีนไม่ต้องการถ่านหิน ประเด็นเรื่อง Shale Gas (ที่หายหน้าหายตาไปนานมากแล้ว) และที่สำคัญที่สุด คือ คดีหงสา ที่เป็นปัจจัยกดดัน Banpu อย่างมากไม่ให้หุ้นวิ่งดีๆตามตลาดอย่าง SET Index ที่เกือบแตะระดับ 1800 จุด แต่หุ้น Banpu ยังอยู่ที่เดิม
Banpu มีธุรกิจหลัก คือ
1) ธุรกิจถ่านหิน ที่ผลิตจากเหมืองที่บริษัทลงทุนในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน และออสเตรเลีย
2) ธุรกิจไฟฟ้า ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทในประเทศไทย และที่ลงทุนในสาธารณรัฐประชาชนจีน
ในปี 2560 ที่ผ่านมา Banpu มีสัดส่วนรายได้แบ่งจามธุรกิจ ดังนี้
- รายได้จากการขายถ่านหิน คิดเป็นสัดส่วน 91% เติบโตถึง 27% เนื่องมาจากราคาถ่านหินพุ่งสูงขึ้น
- รายได้จากโรงไฟฟ้า คิดเป็นสัดส่วน 7.5% เติบโตเพียง 19%
- รายได้จากการขายก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นสัดส่วน 1.3% เติบโตมากถึง 147% จากปีที่แล้ว
เป้าหมายของ Banpu คือ จะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจพลังงานในเครือ โดยเฉพาะพลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่ๆ รองลงมาคือธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่เติบโตเร็วมาก และบริษัทประกาศทุ่มงบประมาณ 80 ล้านเหรียญ เป็นเงินลงทุนของ BPP เพื่อลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น ร่วมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในประเทศจีน
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ปี 2561 ศาลได้ตัดสินให้บ้านปูจ่าย 2.7 พันล้าน เป็นที่เรียบร้อย ทำให้คดีความนี้สิ้นสุดลงและไม่เป็นปัญหากับหุ้น Banpu อีก ปิดฉากความกังวลของนักลงทุนมาตลอด 5 ปีเต็ม
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Banpu กล่าวว่ารายจ่ายก้อนนี้จะถูกบันทึกลงไปใน Q1/61 ซึ่งความเสียหายนี้จะไม่กระทบกับแผนการดำเนินงานและจะไม่มีการปรับประมาณการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากเงินชดเชยดังกล่าวถือว่าต่ำมาก เมื่อเทียบกับกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) ของทั้งกลุ่มบริษัทฯ ที่ทำได้กว่า 3.2 หมื่นล้านบาทต่อปี
พูดแบบนี้แล้วก็ทำให้นักลงทุนและโบรคเกอร์มีภาพลักษณ์ที่ดีมากขึ้น เมื่อผลออกมาไม่ได้แย่กว่าที่คาด
ผ่านมาไม่นาน Banpu ได้มีข่าวแจ้งออกมาว่า พร้อมลงทุนในธุรกิจจัดเก็บพลังงานของสิงคโปร์ โดยเข้าถือหุ้น 44.84% ของบริษัทนิว รีซอสเซส เทคโนโลยี จำกัด หรือ New Resources Technology Pte. Ltd. (NRT) ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 33.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,038 ล้านบาท เป็นการสะท้อนว่างบดุลของ Banpu ยังคงแข็งแกร่ง
มุมมองของหุ้น Banpu ดูเป็นบวกมากขึ้น พร้อมกับราคาถ่านหินโลกที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยทำให้หุ้น banpu กลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนอีกครั้ง
ที่ผ่านมา Banpu มีรายได้อยู่ระหว่าง 8 หมื่นล้าน - แสนล้าน ถือว่าคงตัว ในขณะที่กำไรสุทธิผันผวนมาก บางปีถึงกับขาดทุนมากถึง 1.5 พันล้าน บ่งบอกว่าธุรกิจของ Banpu เป็นธุรกิจ "วัฐจักร" อย่างแท้จริง นักลงทุนที่สนใจจำเป็นจะต้องเข้าใจธรรมชาติของถ่านหินด้วย
ปัจจุบันหุ้น Banpu เทรดกันในระดับ P/E 20 เท่า P/BV 1.3 เท่า และปันผลในระดับ 2.5-3% ถือว่าไม่ได้แพงมากนักเมื่อเทียบกับตลาด แต่ในรายของ Banpu จัดอยู่ในกลุ่มของ "วัฐจักร" การมองแบบนี้ถือเป็นการมองแบบผิวเผินเท่านั้น จำเป็นจะต้องศึกษาให้ลึกซึ้งก่อนการมองทุกครั้ง
บทวิเคราะห์ว่าอย่างไร
Phillip Capital ระบุว่า "ราคาถ่านหินแข็งแกร่งกว่าคาด" ส่งผลให้กำไร Q2/61 ออกมาฟื้นตัว และยังเป็นปัจจัยผลักดันให้กำไรทั้งปี 2561 เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึงแม้ไตรมาส 3 จะเป็นช่วง Low Season แต่บริษัทได้แรงหนุนจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นที่มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 45MW โรงไฟฟ้าหงสาผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าที่คาดการ จนถึงปี 2562 จะได้รับแรงหนุนจากโรงไฟฟ้าถ่านหินซานซีลู่กวงเฟส 1 ทางฝ่ายวิจัยจึงแนะนำ "ซื้อ" และให้ราคาเหมาะสมที่ 27 บาท
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้ :http://portal.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/2000000342181/BANPU052118_t.pdf
กรุงศรี มีความเห็นว่า "วันเวลาดีๆ กำลังจะย้อนกลับมาอีกครั้ง" ราคาถ่านหินขึ้นอย่างแข็งแกร่งเนื่องมาจากความต้องการซื้อในประเทศจีนและอินเดียช่วยหนุนราคา แต่ต้องรอดูปัจจัยกดดันในไตรมาส 3 อย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" และให้ราคาเป้าหมายที่ 28 บาท
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้ :http://portal.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/2000000342004/BANPU_180517_U1.pdf
ASL บอกว่า Banpu พึ่งตื่นจากฝันร้าย ราคาหุ้น Outperform ดีมากเนื่องมาจากราคาถ่านหุ้นที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไตรมาส 2/61 น่าจะโตอย่างโดดเด่น ปริมาณการขายถ่านหินเพิ่มขึ้น ถึงแม้จะอยู่ไตรมาส 3 ที่เป็นฤดูกาลขาลงของบริษัท แต่ก็จะได้กลุ่มโรงไฟฟ้ามาช่วยหนุน
มีมุมมองเชิงบวกให้คำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเหมาะสมที่ 25 บาท
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้ :
http://portal.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/2000000341983/CompanyReport_BANPU_170518.pdf
MBKET มีความเห็นว่า ราคาถ่านหินที่ขึ้นมา และความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ก็ยังเป็นภาพระยะส้นเท่านั้น ภาพระยะยาวคือผลดำเนินงานจากธุรกิจโรงไฟฟ้า และรายจ่ายพิเศษที่จะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก ปลดล๊อคความกังวลเรื่องคดีหงสา คงคำแนะนำ Trading Buy ให้ราคาเป้าหมาย 25 บาท
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้ :http://portal.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/2000000341926/180517_BANPU_t.pdf
Banpu นับเป็นหุ้นอีกตัวที่รายย่อยให้ความสนใจ และเคย "ยิ่งใหญ่" ในอดีตบริษัทผ่านมรสุมความยากลำบากมามาก อาจจะเรียกได้ว่าวัฐจักร"ขาลง" ที่ยาวนานถึง 7 ปีอาจจะจบลงเป็นที่เรียบร้อย
ถ้าใครติดตามเรื่องราวของ Banpu จะรู้ว่าเขาไม่ใช่หุ้นถ่านหินธรรมดาอีกต่อไป แต่เขาคือหุ้นพลังงานเต็มรูปแบบตั้งแต่การขายถ่านหิน ไปจนถึงโรงไฟฟ้าที่มีหุ้นลูกอย่าง BPP รวมไปถึงพลังงานสะอาดอย่างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม รายได้หลักของ Banpu มาจากถ่านหินถึง 90% เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าราคาถ่านหินมีผลกระทบโดยตรงกับ Banpu
ในมุมมองของนักวิเคราะห์ มองว่า Banpu มีโอกาสเทิร์น-อราว ได้ ภายใต้สมมุติฐานที่ว่า ราคาถ่านหินจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ โดยให้ราคาประมาณ 26 บาท (จาก Consensus)ก็เอาใจช่วยให้ Banpu กลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีตครับ