ฟุตบอลโลก 2018 ที่กำลังจัดขึ้นในประเทศรัสเซียในวันที่ 14 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม นี้ได้มีการถ่อยทอดสดผ่อนฟรีทีวีทั้งหมด 64 นัด ซึ่งทำให้ระหว่างการแข่งขัน เป็นจังหวะให้ภาคธุรกิจใช้จังหวะนี้ในการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ผ่านกลุ่มเป้าหมาย โดยในธุรกิจหลักๆที่คาดว่า จะได้ประโยชน์โดยตรง ได้แก่ อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า รองเท้า รวมไปถึง ร้านอาหารและประเภทส่งถึงที่ รวมถึงลานกิจกรรมต่างๆ
จากการสำรวจพบว่า จะมีผู้ที่จะรับชมการถ่ายทอดสดในไทย ประมาณ 11 ล้านคน โดยรับชมทุกคู่ ประมาณ 40% และชมเพียงบางคู่ประมาณ 60% โดยในปีนี้มีผู้ชมการถ่ายทอดสดมากกว่าปีที่ผ่านว่า คาดว่าสาเหตุหลักมาจาก การถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวี และเวลาการถ่ายทอดสดเอื้อต่อการรับชมของคนไทย โดยคาดว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2018 จะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้า ประมาณ 6,685 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของยอดขายปกติ ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจาก การซื้ออาหารและเครื่องดื่มสำหรับการบริโภคขณะการรับชม ซื้อเสื้อทีมฟุตบอล ไปรษณียบัตรสำหรับชิงโชค
กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งแอพพลิเคชันบริการจัดส่งอาหาร มีแนวโน้มที่จะได้รับผลจาฟุตบอลโลกมากที่สุด ทั้งอาหารพร้อมทาน อาหารกึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่ม จากร้านสะดวกซื้อต่างๆนอกจากนี้ยังมีกลุ่มสถานบันเทิง สำหรับผู้ที่นิยมไปเชียร์ฟุตบอลนอกที่พัก โดยคาดการณ์ว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 5,265 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ที่คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้จากไตรมาส1
โดยแบ่งเป็น 3,015 ล้านบาทสำหรับกลุ่มอาหาร และ 2,250 ล้านบาทสำหรับกลุ่มเครื่องดื่ม
สินค้าในกลุ่มอุปกรณีฬา เสื้อผ้าและของที่ระลึก เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจากมหกรรมฟุตบอลโลก จากการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น เสื้อทีม หมวก อุปกรณ์กีฬา limited edition คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 910 ล้านบาท และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลุ้นโชคทายผลฟุตบอลโลก ประมาณ 510 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มธุรกิจอื่นๆที่ไม่ได้รับประโยชน์จากมหกรรมฟุตบอลโลกโดยตรง แต่ใช้กระแสของฟุตบอลโลกในการจัดกิจกรรมและสร้างการรับรู้ของแบรนด์อีกเป็นจำนวนมาก เช่น กลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์
เทศกาลบอลโลก 2018 FIFA World Cup วันที่ 14 มิถุนายน - 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 นักลงทุนอย่างเราควรจะสนใจหุ้นตัวไหนบ้าง มาดูกันครับ
บริษัทหลักทรัพย์ Asia Plus รายงานว่าเทศกาลบอลโลกที่ผ่านมา SET Index ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.2% โดยหุ้นที่จะนำตลาดมักจะเป็นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มอาหาร รวมถึงกลุ่มสื่อและโฆษณาที่แอบขึ้นมาแบบเงียบๆ อย่างไรก็ตามทาง Asia Plus แนะนำหุ้น Top picks ถึง 4 ตัวได้แก่ MINT BJC PLANB และ EPG
Nomura ชี้แจงว่ามหกรรมฟุตบอลโลกจะมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน แนะนำให้ลงทุนในหุ้นช่วงนี้เพราะสถิติที่ผ่านมา SET Index ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.4% ในช่วงบอลโลก หุ้นที่มักจะ outperform ตลาดได้ดี คือ CENTEL CPALL MINT KTB SCB BBL KBANK IVL ROBINS
อีกทั้งบริษัทยังแนะนำอีกว่า ให้จับตาประเด็นเรื่องหุ้นที่จะเข้า-ออก SET50 และ SET100 อีกด้วย จะเป็นปัจจัยให้ตลาดกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง
โดยหุ้นจะเข้า SET 50 มี GULF, GLOW, DELTA, KTC, TOA, RATCH, BGRIM
หุ้นที่จะออกจาก SET 50 ได้แก่ GLOBAL, WHA, TPIPP, CBG, BCP, PSH, KCE
หุ้นจะเข้า SET 100 BLA, VGI, JAS,MBK, RS, ERW, THANI
ส่วนหุ้นที่จะออกจาก SET 100 มี BA, EPG, STA, UNIQ, ANAN, TTA, GGC,MONO, MC, THCOM. JMART, BIG, JWD
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำหุ้น CPALL โดยมองว่าจะได้รับอานิสงค์ในเรื่องการจับจ่ายใช้สอยในช่วงฟุตบอลโลกแบบเต็มๆ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำหุ้น TRUE
Maybank Kimeng แนะนำ ซื้อ BJC
จะเห็นได้ว่าเมื่ออ่านจากความเห็นนักวิเคราะห์แล้วจะเน้นหนักไปที่กลุ่มค้าปลีกเป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง BJC และ CPALL นี้ก็เป็น Theme สั้นๆในช่วงฟุตบอลโลกครั้งนี้ครับ
มหกรรมฟุตบอลโลกถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่มีความสำคัญสำหรับยอดขายและกำไรของหลายๆบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ไทยหากแต่จะเป็นหุ้นตัวไหน อย่างไร ขอให้เป็นหน้าที่ของท่านผู้อ่านที่จะพิจารณา ^^
อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้งครับ
-Vira / Freedom VI / คนเล่นหุ้น –
แหล่งข้อมูล
อ้างอิง : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
http://asiaplus.info/9-หุ้นเด่นรับกระแสบอลโลก/
http://portal.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/2000000343519/Play_of_the_day.pdf