กลยุทธ์การลงทุนมีมากมายหลากหลายวิธี บ้างก็เรียบง่ายไม่วุ่นวาย บ้างก็ซับซ้อนและอาศัยเทคนิคชั้นสูง
บางกลยุทธ์เน้นซื้อขายเร็วๆ ขณะที่บางกลยุทธ์เน้นถือลงทุนในระยะยาวจะเล่น “ท่าง่าย” หรือ “ท่ายาก”
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนล้วนต้องการเหมือนกัน ก็คือ ผลตอบแทนที่น่าพอใจในระดับความเสี่ยงที่รับได้
สำหรับผมแล้ว กลยุทธ์การลงทุนที่ดีไม่จำเป็นต้องซับซ้อนแต่ควรถูกพัฒนาขึ้นมาจากตรรกกะการลงทุนที่ถูกต้อง
วันนี้ จะพูดถึงกลยุทธ์ Sector Rotation หรือการหมุนเวียนสลับกลุ่มการลงทุนที่แสนจะเรียบง่าย
แต่พิสูจน์แล้วว่าสามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว
ลองคิดเล่นๆ ดูนะครับว่าดัชนีSET index ที่เราใช้อ้างอิงกันอยู่ทุกวันนั้นคืออะไร ? และสะท้อนถึงอะไร ?
SET index คือ ดัชนีอันสะท้อนถึงหุ้นทั้งหมดในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมของตลาด นั่นแปลว่า
มีทั้งหุ้นที่ขึ้นอย่างร้อนแรงและหุ้นที่ตกอย่างรุนแรง นั่นแปลว่ามีทั้งกลุ่มsector ที่นำตลาดอย่างแข็งแกร่ง
และ sector ที่ลงอย่างถล่มทลายทุกอย่างถูกเฉลี่ยเข้ามาในสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไป
แล้วหากเราเลือกลงทุนเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นผู้นำของตลาดล่ะ คุณคิดว่าเราจะเอาชนะตลาดได้มั้ย ???
ด้วยแนวคิดที่แสนจะเรียบง่ายนี้ ผมคิดว่าทุกท่านน่าจะพอมองภาพออกแล้วว่ากลยุทธ์นี้จะเอาชนะตลาดได้อย่างไร
กระบวนการการทำงานของ sector rotation จะมีลักษณะดังนี้ คือ
จากกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีทั้งหมดกว่า 28 sectors ในตลาด เช่น BANK AUTO PETRO ENERG เป็นต้น
ในแต่ละวัน เราจะทำการจัดลำดับ 1 ถึง 28 ไล่เรียงจาก sector ที่มีโมเมนตั้มขาขึ้นสูงสุด
ไปถึง sector ที่มีโมเมนตั้มขาขึ้นน้อยสุด จากนั้นก็จะทำการเข้าซื้อหุ้นในกลุ่ม sectors
ลำดับต้นๆ อันถือเป็นผู้นำตลาด แล้วถือไปเรื่อยๆ ก่อนขายและเปลี่ยนตัวเล่น เมื่อมี sector ใหม่แซงขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดแทน
ยกตัวอย่างเช่น ระบบจะทำการเข้าซื้อหุ้นใน sectors 5 ลำดับแรก sector ละ 2 ตัว (โดยเลือกตัวที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด)
ดังนั้น จะมีหุ้นในพอร์ตทีละ 10 ตัว จากนั้น เราจะทำการถือหุ้นไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ sector นั้นยังคงอยู่ใน 5ลำดับแรก
และขายออกทันทีเมื่อ sector นั้นหลุดออกมา ก่อนเข้าซื้อหุ้นใน sector ผู้นำตลาดใหม่แทนหมุนเวียนเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ การถือหุ้นใน sector แกร่งสุดก็ไม่ได้การันตีว่าจะรอดเสมอไป ในสภาวะวิกฤตต่างๆ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ หรือ สงคราม
หุ้นแดงทั้งตลาด ดังนั้น sector นำตลาดก็มีสิทธิ์โดนเหมือนกัน ดังนั้น เราต้องนำสภาวะตลาด
(อ้างอิงตามการเคลื่อนไหวของ SET index) มาพิจารณาด้วย โดยจะลงทุนเฉพาะในสภาวะที่ตลาดเป็นใจ
ทำการซื้อหุ้น และ rotate ไปเรื่อยๆ แต่ในสภาวะที่ตลาดไม่เป็นใจ ระบบจะปิดสถานะทุกอย่าง และรอจนกว่าสภาพตลาดจะกลับมาดูดีอีกครั้ง
ภายใต้แนวคิดนี้ ผลการทดสอบย้อนหลังไป 10ปี พบว่า sector rotation สามารถเอาชนะตลาดได้อย่างเป็นที่น่าพอใจทั้งในเชิงผลตอบแทนและความเสี่ยง โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 24.4% ต่อปี เทียบกับ 8.5% ต่อปีจาก SET buy and holdในขณะที่ในเชิงความเสี่ยง ระบบมีค่า maximum drawdown ซึ่งแสดงถึงเปอร์เซ็นต์การย่อตัวสูงสุดของเงินในพอร์ต อยู่ที่ -18.3% ในขณะที่ SET buy and holdมีค่า maximum drawdown สูงถึง -58.0 %
จะเห็นว่า กลยุทธ์ที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่แฝงไปด้วยหลักแนวคิดที่ถูกต้อง มีเหตุและผล ก็สามารถเอาชนะตลาดได้สบายๆ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณข้อมูลจากนายชัยพัฒน์ ศรีขจรลาภ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับโครงงานวิจัยภายใต้คำปรึกษาของผมครับ
โชคดีในการลงทุนครับ.