สัมภาษณ์พิเศษผ่าน stock2morrow โดย คุณวิชัย ทองแตง วางมือจากการเป็นกรรมการบริหารของกลุ่ม BDMS ณ สิ้นเดือนเมษายน 2561 นี้ หลังจากไป จุดเปลี่ยนที่สำคัญของคุณวิชัย ทองแตง จะทำอะไรในอนาคตต่อไป
"วิชัย ทองแตง" จากทนายความมือทองมาสู่ราชานักเทคโอเวอร์ กลับเข้ามามีบทบาทโดดเด่นในตลาดหุ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากกระแสการเทคโอเวอร์บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย อย่าง EFORL ซึ่งจากประสบการณ์กว่า 40 ปีในตลาดทุน และร่วม 20 ปีในธุรกิจ healthcare
ผลงานสำคัญที่ภาคภูมิใจของคุณวิชัยและครอบครัวทองแตง คือ การตัดสินใจครั้งสำคัญ จากดีลการควบรวมกิจการ ของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ระหว่างโรงพยาบาลพญาไทกับโรงพยาบาลกรุงเทพ และถือว่าเป็นดีลที่คนในสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ภายหลังจากการควบรวมกิจการในช่วงหลังวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้เกิดมิติด้านการพัฒนาโรงพยาบาลยุคใหม่ ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจ Healthcare ในประเทศไทย ที่มีส่วนช่วยสำคัญไม่ให้กลุ่มโรงพยาบาลของไทยถูกกลืนไปกับกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ จนกระทั่งสามารถสร้างความมั่นคงต่อการพัฒนาประเทศในด้านสาธารณสุขถึงทุกวันนี้ คุณวิชัย ทองแตงเชื่อว่า "ธุรกิจ healthcare ไม่มีวันตาย !"
หลังจากที่วางมือลงจากการเป็นกรรมการบริหารกลุ่ม BDMS แล้ว น่าจะทำให้มีเวลามากขึ้น เพื่อได้มีโอกาสมาทำสิ่งที่ต้องการ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมาย (passion) ตนเอง โดยยังไม่ละทิ้งเรื่องการลงทุนส่วนตัว
3 ภารกิจสำคัญที่คุณวิชัย ทองแตง ต้องการทำคืออะไร ?
1. ด้านการเกษตร
คุณวิชัย ทองแตง หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า จุดเริ่มต้นจากดินสู่ดาว จากเป็นลูกหลายชาวไร่ชาวนามาก่อน จนกระทั่งมาประสบความสำเร็จทั้งในฐานะนักกฎหมาย และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดทุน ถึงทุกวันนี้ได้นั้น เนื่องด้วยคุณวิชัย ทองแตง เป็นลูกชาวไร่ชาวนาและเติบโตมาในต่างจังหวัด จึงเข้าใจวิถีชีวิตของชาวเกษตรกรเป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นคนส่วนใหญ่ที่สำคัญของประเทศ คุณวิชัยจึงมีความปรารถนาที่จะเข้ามาช่วยพี่น้องชาวเกษตรกรไทยในทางหนึ่งทางใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งเสริมพัฒนาด้านการเกษตรกรรม ในหลายๆ มิติ หลายๆ ด้าน อาทิ ด้านทำการตลาด ด้านการบริหารจัดการ และบริหารต้นทุน เป็นต้น ซึ่งชาวเกษตรเหล่านี้มักไม่ค่อยมีความรู้ความชำนาญในด้านนี้กันเท่าไหร่นัก โดยที่ทางคุณวิชัย ทองแตง อาศัยที่มี connection ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และประสบการณ์ด้านธุรกิจมายาวนาน พร้อมทั้งได้ยกตัวอย่างการพัฒนาด้านการเกษตรกรรม เช่น ประเทศอิสราเอล มีระบบสหกรณ์ที่เข้มแข็ง สามารถช่วยเหลือชาวเกษตรกรได้เป็นอย่างดี หัวใจาำคัญหนึ่งของการพัฒนาด้านเกษตรนี้ เพื่อพัฒนารากฐานคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประเทศ
2. ด้านการศึกษา
จากองค์ความรู้ ประสบการณ์ด้านธุรกิจและการลงทุน ที่สะสมมาหลายสิบปี คุณวิชัย ทองแตง จึงปรารถนาที่จะเผยแพร่องค์ความรู้ ประสบการณ์ของตนเอง ที่ประสบความสำเร็จมาได้ เพื่อให้ข้อคิดและสร้างแรงบันดาลใจไว้ให้แก่คนรุ่นใหม่ โดยที่คุณวิชัย ทองแตง ยินดีรับเชิญไปบรรยายให้ ”ฟรี” โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยขอเริ่มต้นบรรยายให้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่ออุทิศถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกิดประโยชน์แก่สาธารณะ ทั้งนี้ได้ไปบรรยายตามมหาวิทยาลัยชั้นนำมาแล้วถึง 14 แห่ง
3. ด้าน SME/ โชห่วย
สำหรับธุรกิจ SME ถือเป็นรากฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ คุณวิชัย ทองแตง เชื่อในแนวคิด "Power of network" การที่ธุรกิจระดับ SME จะสามารถเติบโตได้ดีนั้น ต้องมีระบบที่เอื้ออำนวยช่วยในการสนับสนุนทางธุรกิจซึ่งกันและกัน โดยการหาจุดร่วมมือกันทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดและช่วยเหลือกันสำหรับพัฒนาธุรกิจ เช่น บางอย่างที่ SME ยังมีจุดอ่อนแออยู่ หากได้หาแนวทางร่วมมือกันทางธุรกิจแล้วนำมารวมตัวกัน (consolidate) ให้เกิดความเข้มแข็งแก่กลุ่ม SME
คุณวิชัย ทองแตง ขอยึดหลักการแนวทางการลงทุนตามรอยปรมาจารย์การลงทุนระดับโลก Warrent Buffett ที่มุ่งเน้นลงทุนเชิงคุณค่าในธุรกิจที่มีอนาคต
หลังจากนี้ไปน่าติดตามกันต่อไปว่า 3 ภารกิจครั้งสำคัญต่อการพัฒนาสังคม พร้อมไปกับการควบคู่ไปกับการเป็นนักลงทุนรายใหญ่ด้วย จะเป็นอย่างไรต่อไป
ท้ายที่สุดนี้ คุณวิชัย ทองแตง ได้ฝากปรัชญาการลงทุนการใช้ชีวิต ดังนี้
มุมมองการลงทุน ให้มองสังคมโดยรวม "อย่าลงทุนโดยมองแต่เพียงกำไรเท่านั้น แต่การลงทุนที่ดีควรเชื่อมโยงไปกับการเติบโตของบริษัท และควรเชื่อมต่อกับคนในสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ด้วย"
ฝากคนรุ่นใหม่อย่าคิดแค่มุมเดียว ให้คิดเพื่อประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมด้วย