นายธีระชาติ ก่อตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สต็อกเรดาร์ (Max Kortrakul เปิดเผยว่า สต็อกเรดาร์ เตรียมระดมทุนจากการขายเหรียญดิจิตอล หรือ ICO ด้วยการออกเหรียญโทเคนในชื่อ คาร์บอเนียม (Carboneum Token) จำนวน 120 ล้านโทเคน โดยออกขายหน่วยละ 0.10 เหรียญสหรัฐ หรือ 3.3 บาท ต่อโทเคน รวมมูลค่าระดมทุน 12 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 400 ล้านบาท

ICO คืออะไร ?

โดยปกติแล้วในโลกของทุนนิยมการระดมทุนมักจะมีหลายทาง คำที่เรามักได้ยินบ่อยๆ คือคำว่า Initial Public Offering หรือ IPO เป็นการระดมทุนจากประชาชนที่สนใจลงทุนในบริษัทต่างๆ ซึ่งมักจะนำหุ้นมาขายให้เราเพื่อบริษัทจะได้นำเงินทุนที่ระดมทุนได้ไปลงทุนหรือเพิ่มรายได้ โดยที่ผู้ลงทุนจะได้สิ่งตอบแทนมาคือการเป็นผู้ถือหุ้น เป็นแสดงความเป็นเจ้าของชนิดหนึ่ง

แต่การ Initial Coin Offering หรือ ICO จะแตกต่างออกไป โดยการ ICO เราจะไม่ได้ความเป็นเจ้าของ แต่จะได้ Token หรือไม่ก็สกุลเงินดิจิทัลเป็นการตอบแทน ซึ่งอาจมีสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันไป บางที่อาจใช้แทนเงินสด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ลงทุนใน ICO หวังว่าจะได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยการ ICO ส่วนมากมักจะบอกว่าจะมีการใช้เทคโนโลยี Blockchain โดยเงื่อนไขต่างๆ จะอยู่บนเอกสารที่เรียกว่า Whitepaper

ในการเก็บข้อมูล การ ICO ที่ประสบความสำเร็จที่มีชื่อเสียงก็เช่น Ethereum ที่ทำ ICO ในปี 2014 โดยผู้ใช้จะต้องจ่ายเป็น Bitcoin เพื่อที่จะได้ Ethereum ไว้ในครอบครอง

ICO เป็นการเสนอขายเหรียญในระยะเริ่มต้น (Initial Coin Offering) ระดมทุนและลงทุนเพื่อที่จะเปิดตัวโปรเจคโครงการหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทสตาร์ทอัพ โดยมีการออกเหรียญดิจิตอล มาเพื่อเสนอขายให้กับนักลงทุนที่สนใจจะลงทุนในตัวโปรเจคดังกล่าว คล้ายกับ IPO หรือ Initial Public Offering เพียงแต่ตัวหุ้นนั้นจะถูกแทนที่ด้วยเหรียญดิจิตอล และสามารถนำไปแลกหรือซื้อขายเป็นเหรียญสกุลอื่นๆได้อย่าง Bitcoin

StockRadars ระดมทุนเพื่ออะไร ?

เงินทุนที่ได้จะนำเงินไปเพื่อทำระบบของ Carboneum ซึ่งใช้เทคโนโลยี blockchain ในการเป็นแพลตฟอร์มสำหรับ Social Trading

Carboneum คืออะไร ?

คือคำสนธิระหว่าง Carbon กับ Ethereum

ความหมายของ Carbon คือ กระดาษที่ใช้สำหรับการคัดลอกข้อความ ซึ่งก็เปรียบเสมือนการซื้อขายล้อตามแบบบุคคลผู้มีชื่อเสียง

การระดมทุนในครั้งนี้ของ StockRadars จะมีเหรียญในระบบทั้งหมด 200 ล้านเหรียญ มูลค่าเหรียญละ 0.1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยแบ่งออกเป็นดังนี้
1. ขายให้นักลงทุนทั่วไป 60% หรือคิดเป็น 120 ล้านเหรียญ
2. ส่วนอีก 40% เก็บไว้ภายในบริษัทให้ที่ปรึกษาและสำหรับการส่งเสริมการตลาด

สำหรับเม็ดเงินระดมจะไปใช้ในการพัฒนาระบบ โซเชียลเทรดดิ้ง ที่ชื่อว่า คอยน์เรดาร์ ซึ่งเป็นระบบที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลตามการซื้อขายของผู้เชี้ยวชาญด้านเทรดดิ้งโดยอัตโนมัติ โดยคิดค่าธรรมเนียมในการติดตามเมื่อได้กำไร (follow fee) ในอัตรา 10%

“ข้อดีของระบบดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้ตามผู้นำด้านการเทรดดิ้ง ทั้งจุดซื้อและขายอย่างอัตโนมัติ และสามารถที่จะติดตามผู้นำ ซึ่งเป็นบุคคลรวมถึงระบบโรบอตและอัลกอริทึ่มได้หลายราย ซึ่งเมื่อได้กำไรก็จะมีการตัด 10% มาแบ่งผู้ที่เป็นต้นแบบในการลงทุน แต่หากขาดทุนก็จะไม่เสียค่าธรรมเนียม

ซึ่งระบบนี้จะตอบโจทย์กับนักลงทุนที่ต้องการเทรดตามคนอื่น แต่จะต้องรับความเสี่ยงเองหากขาดทุน นอกจากนี้นักลงทุนยังสามารถเห็นกลยุทธ์ของผู้นำด้านการลงทุนได้ และมีความโปร่งใสเพราะระบบจะซื้อตามสัดส่วนลงทุนทันที ซึ่งตรวจสอบได้ เรียนรู้ได้”

ทั้งนี้ การระดมทุน ICO จะใช้ในการพัฒนาแพลตฟอร์มและโปรโตคอล (Platform and Protocol development) ประมาณ 50%, การพัฒนาตลาดและธุรกิจ ประมาณ 25% (Marketing and business development), ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 10% (operating expenses), ค่าธรรมเนียมวิจัยและพัฒนา 10% (Research and consultancy fee), ค่าธรรมเนียมกฎหมาย 5% (legal and compliance fee)

โดยการประกาศ​ ICO ครั้งนี้จะมีการ Pre-sale ในวันที่ 22 มีนาคม 2561 ซึ่งจะได้ส่วนลด 8% และเปิดขายจริง 22 เมษายน 2561 พร้อมตั้งเป้าขยายตลาดในระดับภูมิภาค และระดับโลกต่อไป โดยหลังจาก ICO เสร็จแล้วจะมีการนำเข้าเทรดในตลาดต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศต่อไปในอีก 3 เดือนหลังจากการเปิดขายจริง ส่วนระบบโซเชียลเทรดดิ้งคาดว่าจะสมบูรณ์แบบและสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2562

ซึ่งเบื้องต้นผู้ที่ใช้ คาร์บอเนียม ในการชำระค่าธรรมเนียมซื้อขายระบบโซเชียลเทรดดิ้งจะได้ส่วนลด 50% ในปีแรก และจะได้รับส่วน 25% ในปีที่ 2 และส่วนลด 10% ในปีที่ 3 จากนั้นในปีต่อๆ ไปจะได้ส่วนลด 8% สามารถติดตามมีรายละเอียดเพิ่มเติมที่ carboneum.io  หรือ facebook.com/StockRadars และ Telegram: @carboneum_io

ณ 7 ม.ค. 2018 สกุลเงินดิจิตัลทั่วโลกมีประมาณ 1,384 สกุล ซึ่งแพลทฟอร์ม คอยน์เรดาร์ (CoinRedar) เรดาร์จะเปิดให้ซื้อขายจากตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิตัลใหญ่ๆ ก่อน และเปิดให้คนที่สนใจเป็นผู้นำในการสร้างกลยุทธการซื้อขายและผู้ที่สนใจลงทุน มาลงทะเบียนใช้งาน ผู้ที่สมัครเข้าใช้งานในระบบจะได้คาร์บอนเนียมโทเคนฟรีจำนวนหนึ่งเพื่อนำมาใช้ในระบบทั้งนี้ เจ้าของแพลตฟอร์มจะยังไม่ได้รับรายได้อะไรจนกว่าจะมีการซื้อขายเกิดขึ้น และเป็นการซื้อขายที่มีการทำกำไรจริง

ในอนาคตเมื่อกฎระเบียบของทางการเกี่ยวกับ Social Trading รองรับและสามารถทำได้จริง ทางบริษัทก็พร้อมนำมาปรับใช้กับการซื้อขายหุ้นด้วย

ปัจจุบัน StockRadars เป็นพันธมิตรกับโบรกเกอร์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศเพื่อให้บริการ StockRadars รวม 10 บริษัท โดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดกว่า 680,000 ครั้ง นับเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการอัพเดทเวอร์ชั่นอย่างต่อเนื่องกว่า 76 เวอร์ชั่นนับตั้งแต่เริ่มให้บริการ นอกจากนี้ยังมีการแถลงความร่วมมือกับ LINE ประเทศไทยเพื่อพัฒนา LINE FINANCE ในการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นผ่านไลน์ กับสามโบรกเกอร์พันธมิตรชั้นนำอย่าง กรุงศรี หยวนต้า และโกลเบล็กซ์

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่าทางบริษัทได้เข้าไปร่วมลงทุน กับสื่อออนไลน์รุ่นใหม่มาแรงอย่าง ลงทุนแมน ซึ่งมีจุดแข็งด้านคอนเทนต์เกี่ยวกับการลงทุน ที่สามารถเข้าใจได้ง่ายสำหรับทุกคน พร้อมทั้งเปิดตัวพันธมิตรใหม่ในระดับโลกอย่างบลูมเบิร์ก เพื่อให้บริการวีดีโอคอนเทนต์ของบลูมเบิร์กในแพลตฟอร์ม StockRadars โดยทั้งหมดนี้ถือเป็นการเสริมทัพให้แข็งแกร่ง เพื่อการลงทุนที่ง่ายยิ่งขึ้น

การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนที่สนใจควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้ายก่อนตัดสินใจลงทุน โดยที่สามารถ >>> อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : White Paper 

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ carboneum.io หรือ facebook.com/StockRadars และ Telegram: @carboneum_io