ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของทำเลใดทำเลหนึ่งนั้นมีหลายอย่างทั้งโครงการของเอกชนรูปแบบต่างๆ เช่น สถานศึกษา โรงพยาบาล ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ หรืออาคารสำนักงาน เป็นต้น แต่โครงการเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีโครงการภาครัฐเกิดขึ้นแบบเป็นรูปธรรมก่อน หรือมีการประชาสัมพันธ์และมีแนวโน้มที่จะสร้างขึ้นแน่นอน
เช่น โครงการรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในปัจจุบันที่กลายเป็นปัจจัยหลักที่มีผลสำคัญอย่างยิ่งต่อทำเลต่างๆ ในสมัยนี้ แต่โครงการภาครัฐอีกรูปแบบหนึ่งที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของทำเลใดทำเลหนึ่ง คือ โครงการก่อสร้างถนน ทางด่วน สะพานข้ามทางแยก สะพานข้ามแม่น้ำ เป็นต้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการถนนเส้นทางใหม่ ซึ่งเป็นรูปแบบโครงการที่ทำให้เกิดทำเลใหม่ๆ ตลอดแนวเส้นทางแตกต่างจากเส้นทางรถไฟฟ้า เพราะเส้นทางรถไฟฟ้าจะพัฒนาตามแนวเส้นทางถนนที่มีอยู่เดิมและช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับทำเลนั้นๆ ให้มากขึ้น ในขณะที่เส้นทางถนนจะเป็นการเปลี่ยนที่ดินจากที่ไม่มีทางเชื่อมต่อกับถนนให้กลายเป็นที่ดินที่มีศักยภาพและเป็นการเปิดพื้นที่ในการพัฒนาใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เป็นการเพิ่มทำเลหรือพื้นที่ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ ให้มีมากขึ้น
โครงการก่อสร้างและขยายทางหลวงเชื่อมระหว่างถนนศรีนครินทร์และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3119 (ร่มเกล้า)
โครงการถนนเส้นทางหนึ่งที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงปลายปีที่ผ่านมาคือ โครงการก่อสร้างและขยายทางหลวงเชื่อมระหว่างถนนศรีนครินทร์และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3119 (ร่มเกล้า) หรือที่เริ่มเรียกกันติดปากว่าถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า ถึงแม้ว่าถนนเส้นทางนี้จะใช้เวลาตั้งแต่การริเริ่มโครงการจนถึงวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ก็ราวๆ 20 ปี เพราะว่ากรุงเทพมหานครริเริ่มโครงการนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 กว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ก็ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง และที่เปิดให้บริการในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก็ไม่ใช่การเปิดให้บริการแบบสมบูรณ์ตลอดเส้นทาง เพราะมีในส่วนของทางลอดและทางยกระดับข้ามมอเตอร์เวย์ยังไม่แล้วเสร็จ โดยคาดว่าช่วงสุดท้ายนี้จะแล้วเสร็จประมาณปลายปี พ.ศ. 2561 ซึ่งถนนเส้นทางนี้เป็นการเชื่อมต่อถนนสายสำคัญสองเส้นทางในพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร
โดยถนนขนาด 6 – 8 ช่องจราจรเส้นทางนี้เป็นการเปิดพื้นที่ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอีกมากเพราะว่าถนนความยาวกว่า 16 กิโลเมตรและเป็นถนนในแนวตะวันออก – ตะวันตกที่ช่วยเชื่อมการเดินทางของคนจากพื้นที่รอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออกให้เดินทางเข้ากรุงเทพมหานครได้สะดวกมากขึ้น โดยเชื่อว่าถนนเส้นนี้จะเป็นเหมือน ถนนเลียบทางด่วน - รามอินทรา ในอนาคตอันใกล้ เพราะเป็นถนนขนาดใหญ่ และระยะทางยาวตัดผ่านถนนเส้นหลักหลายสายอีกทั้งเป็นถนนที่เชื่อมต่อไปถึงถนนพระราม 9 – ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า - สุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ถนนเส้นทางอื่นๆ ในพื้นที่นี้ก็มีการขยายช่องจราจรให้มากขึ้นเพื่อสามารถรองรับการจราจรที่คับคั่งมากขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของโครงการที่อยู่อาศัยที่มากขึ้นในพื้นที่โดยรอบ
การเปิดพื้นที่ใหม่ๆ หลังจากที่มีโครงการถนนเส้นทางนี้เกิดขึ้นส่งผลให้พื้นที่นี้เป็นที่สนใจของผู้ประกอบการหลายรายในการเข้ามาหาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร เพราะว่าพื้นที่บริเวณนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ พร้อมสรรพอยู่แล้ว เช่น โรงพยาบาลทั้งของรัฐบาลและเอกชนที่ใช้เวลาเดินทางจากพื้นที่ตามแนวถนนตัดใหม่นี้ไม่นาน โมดิร์นเทรดขนาดใหญ่ก็มีอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่นี้เช่นกัน รวมไปถึงสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาและระดับรองลงไปก็มีหลากหลายเช่นกัน
นอกจากนี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) ที่จะผ่านตามแนวถนนศรีนครินทร์โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ.2564 และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม - มีนบุรี) ที่มีเส้นทางตามแนวถนนรามคำแหง ที่แม้จะไม่ได้ผ่านพื้นที่นี้โดยตรง แต่ก็มีส่วนเพิ่มศักยภาพพื้นที่โดยรอบได้มากเช่นกัน อีกทั้งเป็นการเพิ่มความสะดวกในการเดินทางเข้าเมืองของคนในพื้นที่นี้ที่ไม่จำเป็นต้องขับรถไปเองก็ได้เพียงแต่อาจจะขับรถมาจอดที่จุดจอดแล้วจรของเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะเปิดให้บริการในอนาคต
จากนั้นก็ใช้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางเข้าเมืองมาทำงาน เรียนหนังสือหรือเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ ได้แบบไม่ลำบากเกินไปรวมไปถึงยังสามารถคาดการณ์เวลาในการเดินทางได้ค่อนข้างแม่นยำกว่าการขับรถเข้าเมืองแบบในอดีต หรือจะใช้บริการแอร์พอร์ตลิ๊งค์เพื่อเดินทางเข้าเมืองก็สะดวกเช่นกัน
การเกิดขึ้นของพื้นที่หรือว่าทำเลใหม่ๆ หลังจากที่มีถนนเส้นทางใหม่เปิดให้บริการนั้นสิ่งที่จะตามมาด้วยแน่นอนก็คือโครงการที่อยู่อาศัยที่จะเข้ามาในพื้นที่ก่อนโครงการรูปแบบอื่นๆ เพราะราคาที่ดินที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่หรือว่าการเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่เช่นกัน และเมื่อจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยมีมากขึ้นประกอบกับการเดินทางเชื่อมต่อกับพื้นที่ต่างๆ มีความสะดวกสบายก็จะเป็นปัจจัยบวกให้เกิดโครงการรูปแบบอื่นๆ ตามมาในอนาคต โดยเฉพาะโครงการพาณิชยกรรม
ดังนั้น พื้นที่ตามแนวถนนเส้นทางใหม่แบบ “ถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนศรีนครินทร์และถนนร่มเกล้า” จึงมีความน่าสนใจมากสำหรับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลที่การเดินทางสะดวกอีกทั้งมีศักยภาพในการขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต
นอกจากนี้ที่ดินในพื้นที่ฝั่งโซนกรุงเทพกรีฑาช่วงก่อนถึงถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกจะเป็นพื้นที่ที่มีราคาสูงอีกทั้งราคาที่ดินจะปรับเพิ่มขึ้นได้มากกว่าและรวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับส่วนที่ข้ามถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกไปแล้ว เพราะเป็นโซนที่อยู่ไม่ไกลจากถนนพระราม 9 และถนนศรีนครินทร์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อเข้าถึงใจกลางกรุงเทพมหานครหรือ CBD ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที โครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ในพื้นที่นี้จึงเป็นโครงการที่น่าสนใจและไม่ควรชักช้าเพราะราคาที่ดินและบ้านจะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่านี้แน่นอนในอนาคต
เพราะถ้าสังเกตจากการเปลี่ยนแปลงก่อนหน้านี้ที่ราคาขายบ้านเดี่ยวที่อยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑาจะมีราคาขายอยู่ที่ 15 – 30 ล้านบาทต่อยูนิต แต่ราคาขายบ้านที่อยู่บนถนนตัดใหม่เส้นทางนี้ จะเริ่มที่ประมาณ 25 – 40 ล้านบาทต่อยูนิตเลย และเริ่มมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปจับจองที่ดินและเริ่มทยอยเปิดขายโครงการกันแล้ว ราคาขายบ้านทั้งบ้านเดี่ยวและรูปแบบอื่นๆ ก็จะปรับเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ แน่นอนในอนาคต