5 แนวคิดลงทุนหุ้นมือใหม่อย่างมีความสุข

           เริ่มต้นปี 2018 มาตลาดหุ้นก็ขึ้นไปจุดสูงสุดใหม่ ทะลุ 1800 จุดมาแล้ว หรือที่เรียกกันว่า All Time High ถือได้ว่าตลาดหุ้นไทยเป็นช่วงกระทิง (Bull Market) ถึงแม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจจะยังไม่ได้กลับมาดี ค่าเงินบาทแข็งค่ายังเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังกันอยู่ รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ ทั้งในประเทศ รอบประเทศ หรือ แม้กระทั่งเกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ในอีกซีกโลกหนึ่ง ล้วนมีผลกระทบกับการลงทุนได้ทั้งสิ้น จึงกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยในการลงทุนหรือเทรดหุ้นด้วย สิ่งเหล่านี้อาจจำความไม่สบายใจมาให้นักลงทุน โจทย์คือทำอย่างไรจะหาวิธีการลงทุนหุ้นสำหรับมือใหม่ให้มีความสุข ลองมาดู 5 วิธีดังต่อไปนี้กันเลย

1 เน้นการลงทุนระยะยาวคาดหวังผลตอบแทนให้เหมาะสมกับตลาดหุ้น สำหรับหุ้นไทย ผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยต่อปีประมาณ 10% บวกเงินปันผลอีกประมาณ 2-3 % รวมผลตอบแทนจากตลาดหุ้นประมาณ 12-13 % ต่อปี  ถือได้ว่าไม่น้อยจนเกินไป และไม่ได้มากจนเกินไปเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยจากธนาคาร ดังนั้นสำหรับนักลงทุนควรคาดหวังผลตอบแทนให้เหมาะกับตนเองและสอดคล้องกับภาวะตลาดหุ้น อาจจะ 5-15 % เช่น กองทุน ETF หุ้นที่อิงดัชนี SET50 เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรู้ ประสบการณ์ในการลงทุนที่ผ่านมา นักลงทุนสามารถทำได้มากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ แต่ไม่ควรเร่งพอร์ตให้โตเร็วจนเกินไป ภายใต้ความเสี่ยงสูงๆ อาจทำให้พอร์ตพังได้เช่นกัน

2 วิธีการเลือกหุ้นควรใช้หลักความปลอดภัยของบริษัทเป็นหลัก หรือหุ้นที่มีความแข็งแกร่งทั้งในแง่ของธุรกิจและผลประกอบการ เช่น เป็นผู้นำของอุตสาหกรรม เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อผู้บริโภค อีก 10 ปีข้างหน้ายังอยู่รอดต่อไป แม้ภาวะเศรษฐกิจจะตกต่ำ เช่น หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ประปา ธนาคาร เป็นต้น ควรติดตามผลตอบแทนและผลประกอบการของบริษัทที่เราถือไว้ว่าเป็นอย่างไร ดีขึ้นหรือคงที่ หรือแย่ลง หรือไม่ เพราะสาเหตุใด  

3 ควรจัดพอร์ตหุ้นก่อนทุกครั้งให้มีการกระจายความเสี่ยง ไม่ควรถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งของพอร์ตเกินไป เช่น 5 – 10 หุ้น แยกตามสัดส่วนที่เท่าๆกัน หรือจะให้น้ำหนักกลุ่มใดมากเป็นพิเศษ และควรกระจายการลงทุนไปในแต่ละอุตสาหกรรม หรือกระจายหุ้นทั้งขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ก็ได้ แต่ก็อย่ากระจายจนเป็นเบี้ยหัวแตก จนตามดูหุ้นในพอร์ตไม่ไหวก็แล้วกัน

4 สร้าง passive income จากเงินปันผลหุ้น เมื่อได้รับเงินปันผลจากหุ้นมาแล้ว อย่าเพิ่งรีบร้อนนำเงินออกจากพอร์ตโดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ควรที่จะนำเงินปันผลนั้นกลับเข้าไปลงทุนอีก (reinvestment) เพื่อให้ผลตอบแทนทบต้นได้มากขึ้น แต่ก็ไม่มีความจำเป็นอีกเช่นกันที่จะต้องซื้อหุ้นทันทีหลังได้รับเงินปัน ให้พิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ทั้งเรื่องมูลค่าหุ้นและจับจังหวะซื้อขายจากกราฟหุ้น เพื่อได้หุ้นในราคาที่เหมาะสม ถ้านักลงทุนต้องการหุ้นปันผลสูง เช่น กอง REITs หรือหุ้นในดัชนี SETHD มีหุ้นอยู่หลายตัวที่จ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอสูงกว่า 5% ต่อปี

5 ตรวจสอบพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ อย่าไปสนใจการขึ้นลงแกว่งตัวของราคาหุ้นรายวันมากจนเกินไป ควรเน้นการลงทุนระยะยาว 5-7 ปีขึ้นไป ให้มองเทรนด์ภาพใหญ่ แล้วติดตามผลประกอบการของบริษัทที่ลงทุนอยู่ เช่น รายไตรมาสหรือรายปี ว่าธุรกิจยังเติบโตอยู่หรือไม่ อย่างไร แล้วให้มองไปที่พอร์ตรวมการลงทุนของตนเองมากกว่าดูที่หุ้นเป็นรายตัว ให้ดูว่าพอร์ตหุ้นมีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด มีความผันผวนมากจนเกินไปหรือไม่ ถ้าผันผวนมากไปอาจทำให้เราเครียดแล้วไม่มีความสุขในการลงทุนได้ ถ้าหากหุ้นตัวใดเกิดปัจจัยพื้นฐานมีแนวโน้มที่ไม่ดี แล้วก็สามารถสลับเปลี่ยนหุ้นใหม่เข้ามาแทนที่ได้ ซึ่งพอครบปีแล้วให้เราก็มาประเมินพอร์ตการลงทุนประจำปี เทียบกับผลตอบแทนตลาดหุ้น และเทียบกับเป้าหมายแผนการลงทุนที่วางไว้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปเทียบกับคนอื่น ๆ

ทั้งหมด 5 วิธีการลงทุนสำหรับมือใหม่ให้มีความสุข เพื่อให้นักลงทุนมือใหม่หรือมือเก๋า ลงทุนได้อย่างมีความสุข ลงทุนอย่างไม่เครียดจนเกินไป ชีวิตคือส่วนหนึ่งของการลงทุน อย่าลืมลงทุนในสุขภาพของตนเองด้วย เพื่อใช้ชีวิตให้มีความสุขกับคนที่คุณรักต่อไป หวังว่าบทความนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์และมีความสุขในการลงทุน อย่าลืมมองหาความสุขในช่วงระหว่างเดินทางสู่เป้าหมาย เพื่อนๆนักลงทุนมือใหม่ สู้ต่อไป ทาเคชิ !

บทความโดยนายสิงหา พงศ์ศศิธร AFPT™ ทีม content ของ stock2morrow