เจาะโมเดลธุรกิจ BCPG นวัตกรรมพลังงานในโลกสีเขียว กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกัน
ลักษณะธุรกิจ
บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- บริษัท BCPG ทำธุรกิจพลังงานหมุนเวียนมีกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 425 MW
- มีสัดส่วนโซล่าร์ฟาร์มประมาณ 51% เป็นพลังงานความร้อนใต้พิภพ 40% เป็นลม 4%
- สัดส่วนในเมืองไทยประมาณ 31% อินโดนีเซีย 40% ญี่ปุ่น 24% และฟิลิปปินส์ 5% ถือว่าเป็นจุดเด่นในการกระจายรายได้ในแต่ละประเทศ และสัดส่วนของรายได้
- ชนิดของสัญญาสัมปทานมี Adder 8 บาท ถือว่า IRR ค่อนข้างสูง และสัญญากับสหกรณ์ 4-5 บาท IRR ลดลงตามสัดส่วนแต่ก็แลกมาด้วยสัญญาระยะยาว
- บริษัททำพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อินโด ข้อดีคือสามารถผลิตได้ 24 ชั่วโมงถือว่าน่าสนใจ
- พลังงานความร้อนใต้พิภพ มี IRR ประมาณ 12-15% ลงทุนสูงกว่าโซล่าร์ฟาร์ม แต่ภาพร่วมคือการกระจายการลงทุนของบริษัท
- ราคาหุ้นตอนนี้ถือว่าเหมาะสมแล้ว P/E 30 เท่า และ P/BV 3-4 เท่า
- เหมือนว่านักลงทุนจะมองการเติบโตสูงไปแล้ว สะท้อนลงไปในราคาหุ้นแล้ว
ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- BCPG ถือเป็นบริษัทแรกๆที่ทำโซล่าร์ฟาร์ม คนทำแรกๆมักจะกำไรดี คนเข้ามาทีหลังกำไรน้อยลง
- แต่สิ่งที่น่าคิด คือ คนทำแรกๆแม้จะกำไรดี แต่เขาก็ต้องลงทุนสูง ในขณะที่คนมาทีหลังกำไรน้อยลง แต่ต้นทุนค่าแผง ค่าก่อสร้างก็ถูกลงแล้ว มันก็จะเป็นการปรับเข้าสู่สมดุล
- ความท้าทายของกลุ่ม คือ หลังจากผ่านพ้นช่วงสัญญา Adder ไปแล้ว บริษัทจะทำอย่างไรให้กำไรเติบโตต่อไปได้
- เท่าที่ผมสังเกต คือ บริษัทไม่เร่งการเติบโตของบริษัท ดูเหมือนว่าผู้บริหารจะเน้นที่ IRR เป็นหลัก ดีลสมเหตุสมผลจึงลงมือทำ ไม่ใช่ซื้อไปหมด ลงทุนไปหมดเพื่อเร่งการเติบโต
- ที่ต้องระวัง คือ ราคาหุ้นขึ้นมาพอสมควร เป็นหุ้นที่ไม่ถูกแล้ว
- ปันผลประมาณ 3% แต่ด้วยราคาหุ้นที่ขึ้นมา คนซื้อตอนนี้อาจจะไม่ถึง 3% แล้ว
- อินโดนีเซียเป็นประเทศที่น่าสนใจ ถึงแม้ IRR จะไม่สูง
-------------------------------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model รายการ Money Channel : BCPG นวัตกรรมพลังงานในโลกสีเขียว