#ลงทุนแนวเทคนิคอล

จะลงทุน หรือจะเก็งกำไร ?

โดย ประกาศิต ทิตาราม , CEWA
เผยแพร่:
110 views

คอลัมน์ STOCK2MORROW EXPRESS ของ ทันหุ้น 
โดย WaveRiders

ในปัจจุบัน มีคนสนใจ ไฝ่หาความรู้ด้านการลงทุนมากขึ้น เห็นได้จากการที่มีหนังสือด้าน และการอบรม ด้านการลงทุนออกมามากมาย แต่ในตลาดหุ้นมันไม่ใช่แค่การลงทุน มันมีการเก็งกำไรด้วย หลายคนกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้ติดกับดักทางความคิดตนเอง เข้าใจผิดไปว่า การลงทุนในตลาดหุ้นมันต้องซื้อๆ ขายๆ ทำกำไร มันถึงจะได้ “รวย” ได้

ที่ถูกต้องเราควรมองการลงทุนเป็นการเอาเงินไปซื้อสินทรัพย์ ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นการเปลี่ยนจากการลงทุนแบบเดิม แล้วย้ายเงินมาลงทุนในหุ้น เราก็ควรเทียบเคียงผลตอบแทนที่ได้ในลักษณะเดิมก่อน ยกตัวอย่าง ถ้าเราเอาเงินใส่ไว้ในบัญชีธนาคาร จะเป็นออมทรัพย์ หรือฝากประจำ ผลตอบแทนที่เราได้ก็คือดอกเบี้ยแต่ดอกเบี้ยมันให้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า การโยกเอาเงินออกไปซื้อหุ้นเพื่อทดแทนการฝากเงินก็ควรเปรียบเทียบกับการซื้อหุ้นที่ให้ปันผลสูง ส่วนใครที่เคยซื้อพวกที่ดิน ทองคำ หรือของโบราณที่มีมูลค่าสะสมเก็บไว้ เมื่อเวลาผ่านไปสินทรัพย์เหล่านี้ ก็มีมูลค่าสูงขึ้น เราที่เป็นเจ้าของจะขาย หรือจะถือเก็บไว้ต่อก็ได้ ก็ไม่แตกต่างกับการซื้อหุ้นของบริษัทที่มีกิจการมั่นคง มีมูลค่ากิจการที่เติบโตต่อเนื่องเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างนี้ถึงเป็น “การลงทุน”

การที่มองว่าซื้อหุ้นในราคาต่ำ เพื่อไปขายในราคาสูง หรือซื้อหุ้นในราคาที่ค่อนข้างสูงเพื่อไปขายในราคาที่สูงขึ้นไปอีก เป็นการเก็งกำไร หรือที่หลายคนเรียกว่า“การเทรด” แบบนี้ก็ไม่ต่างไปจากการที่เราเปิดร้านขายของรับของมาในราคาทุน หรือในราคาขายส่ง แล้วก็ขายออกไปในราคาที่เรามีกำไร  ในการเทรดหุ้นก็คล้ายกับว่า เราเป็นร้านค้าปลีก ที่มีสินค้าคือ ราคาหุ้น ซึ่งก็เป็นการทำการค้า หรือทำธุรกิจ อีกแบบหนึ่งนั่นเอง วันไหนไม่ขายของ ก็ไม่มีรายได้ ไม่มีกำไร ซื้อของราคาทุนสูงไป หรือไปซื้อของที่ไม่มีใครสนใจก็ขายไม่ออก ก็ต้องยอมขายขาดทุน เพื่อเอาเงินสดมาหมุนในการค้าต่อไป

ดังนั้น การลงทุน กับการเก็งกำไร ก็มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในแง่มุมมอง วิธีการ และทักษะที่ต้องใช้ แต่ก็ไม่สามารถแยกกันได้อย่างเด็ดขาด ทั้งสองด้านก็ยังมีส่วนช่วยเหลือกัน การเป็น “นักลงทุน”เราต้องมีมุมมองในการเลือกหุ้นที่กิจการเติบโตในระยะยาว หรือมีความสามารถในการจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่อง แต่การเทรดก็มาช่วยในการจับจังหวะการซื้อขายได้ดีขึ้น ส่วน “นักเก็งกำไร” หรือที่เรียกว่า “เทรดเดอร์” จะซื้อขายทำกำไร โดยไม่ดูข้อมูลปัจจัยพื้นฐานประกอบด้วยเลย ก็อาจจะผิดพลาดในการวางกลยุทธ์ในการซื้อขายที่ดีไปได้ เพราะหุ้นที่มีพื้นฐานดีเติบโต อาจจะไม่ต้องซื้อขายกันบ่อยนัก เพราะสามารถซื้อถือไว้ได้นาน ค่อยขายเอากำไรคำโต ส่วนหุ้นที่กิจการไม่ค่อยดีก็อาจจะมีความผันผวนของราคามากกว่า รอบการซื้อขายทำกำไร ก็จะสั้นกว่าสุดท้ายก็อยู่ที่แต่ละคนจะให้ความสำคัญกับด้านใดมากกว่ากัน แล้วปรับสมดุลของการลงทุนให้เหมาะสมกับตนเอง

แต่สิ่งที่นักลงทุนมักจะพากันไปติดกับดัก คือความตื่นเต้นของการทำกำไร เวลาที่เลือดมันสูบฉีด หัวใจมันบีบคั้น และราคาที่ตั้งขายไว้ได้กำไร สร้างความเร้าใจจนหลายคนกลายเป็นเสพติดการเทรด วันไหนไม่ได้ซื้อขายเหมือนชีวิตมันขาดอะไรไป นั่งเฉยๆ ไม่ได้ ขอให้ได้ส่งคำสั่งซื้อขายสักหน่อย มีหุ้นไว้ลุ้นกำไรสักนิด จนลืมความตั้งใจเดิมที่จะเงินที่เอามาลงทุนในตลาดหุ้นไปหมด

จะเอาเงินเข้ามาในตลาดหุ้น ตั้งสติกันให้ดีๆ วางหลักการลงทุนไว้ให้ชัดเจน ทำ 4 ขั้นตอนคือ แบ่งเงิน,ตั้งเป้า, ทำแผน และวัดผล

แบ่งเงิน ให้แบ่งเงินลงทุนเป็นสัดส่วนให้เหมาะสมกับสไตล์ และความตั้งใจในการลงทุน แบ่งง่ายๆ เป็น 3 กอง คือ

1. ซื้อถือเอาเงินปันผล  2.ซื้อถือรอบใหญ่ (6 เดือนถึง 2 ปี) 3.ทำกำไรรอบสั้น (1 สัปดาห์ถึง 3 เดือน)

ตั้งเป้า ให้วางเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนของเงินแต่ละส่วนภายใน 1 ปีข้างหน้า ว่าเงินปันผลจะได้เท่าไหร่ (%dividend)  ซื้อถือรอบใหญ่ราคาควรจะเติบโตไม่น้อยกว่ากี่เปอร์เซ็นต์ (%Unrealized P/L) และทำกำไรรอบสั้นควรจะทำกำไรได้เงินสดออกมากี่บาทต่อเดือน (Realized Profit per month)

ทำแผน เมื่อวางเป้าหมายของเงินแต่ละส่วนได้แล้ว ต้องวางแผนในการเลือกหุ้นของแต่ละส่วนให้ดี หุ้นปันผลต้องเน้นหุ้นที่ให้ปันผลสูง และปันผลสม่ำเสมอ หุ้นที่จะซื้อถือรอบใหญ่ ต้องเน้นไปที่กิจการมีกำไร เติบโตมั่นคง มีอนาคต และใช้กราฟ week วางจังหวะทะยอยเข้าซื้อ  ส่วนหุ้นที่เล่นรอบสั้น ก็ควรคัดกรองโดยดูกิจการที่มีกำไรไว้บ้าง แล้วใช้สัญญาณเทคนิควางจังหวะซื้อขายทำกำไรเป็นรอบ

วัดผล  เมื่อวางแผนและลงมือซื้อขายไปแล้ว ควรมีการวัดผล และทบทวนแผนหุ้นปันผล ต้องคอยติดตามผลประกอบการทุกไตรมาสเทียบกับปีที่ผ่านมา เพื่อประเมินว่า การจ่ายปันผลรอบที่กำลังจะมาถึงนั้น จะได้ตามที่คาดไว้หรือไม่ ส่วนหุ้นที่ถือรอบใหญ่ก็ดูทั้งผลประกอบการไตรมาส และกราฟ week เป็นระยะๆ ว่ากิจการยังเติบโตได้ ราคายังเป็นขาขึ้น จะซื้อเพิ่ม หรือขายทำกำไรก็ว่าไปตามสภาพราคา และหุ้นเล่นรอบทำกำไร ดูกราฟ week และ day กลุ่มนี้ตอนดูกราฟ กันทุกวัน ขายทำกำไรได้ก็หาหุ้นซื้อใหม่ แล้วบันทึกผลที่ทำกำไร หรือขาดทุนไว้ตลอด เพื่อติดตามผลกำไรที่ได้จากการเทรดตลอดเวลา พยายามปิดยอดทำกำไรให้เข้าเป้าทุกเดือน

เมื่อมีวินัยทำได้ทุกขั้นตอนแล้ว การเป็นนักลงทุน ที่มีความสามารถในการทำกำไร สร้างเงินลงทุนของตนเองให้เติบโตได้ ก็อยู่ไม่ไกลเกินที่จะไปถึง

แหล่งที่มา : https://www.thunhoon.com/article/s2m-2/ 

บทความโดย (ปุย) ประกาศิต ทิตาราม

มือใหม่เริ่มลงทุนหุ้น..สัมมนาใหม่ stock2morrow 2019

เรียน 3 หลักสูตรพื้นฐานลงทุนหุ้น กับ stock2morrow ในหลักสูตร BG-01BF-01BT-01

ทั้ง 3 หลักสูตร รวมจากราคาเต็ม 16,500 บาท พิเศษสมัครตอนนี้ เหลือเพียง 13,490 บาท เท่านั้น !!

ดูรายละเอียดหลักสูตรได้ที่.. >> https://bit.ly/2ALGz6A <<

 ..ติดต่อ..สอบถาม..Tel. : 02-632-0645


เจ้าของหนังสือ Best Seller “โต้คลื่นหุ้น รู้ทันเทคนิค" ในนามปากกาว่า Wave Riders  หรือ “ครูปุย” ของลูกศิษย์จำนวนมาก ที่เคยผ่านคอร์ส “เทคนิคอล” คอร์สยอดฮิต ที่เต็มภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดจอง โดยสถิติล่าสุด คือ เต็มภายใน “ครึ่งชั่วโมง”  แถมหลายคน ยังต้องจองที่นั่งข้ามปี เพื่อให้ได้เรียนกันเลยทีเดียว จึงมีลูกศิษย์จำนวนมาก จนยกย่อง อ.ปุย ว่าเป็น 1 ในบุคคลที่เปลี่ยนชีวิตการลงทุนของพวกเขาไปเลย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง