#แนวคิดด้านการลงทุน

Future of Money (ตอนที่ 3): ฟินเทคกับทักษะทางการเงิน

โดย ดร. ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์
เผยแพร่:
147 views

Future of Money (ตอนที่ 3): ฟินเทคกับทักษะทางการเงิน

 

แม้ว่าโลกฟินเทคจะก้าวไปอย่างรวดเร็วในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้จ่าย การใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยเลือกหุ้น แต่น้อยนักที่จะมีจุดประสงค์หลักคือเพื่อช่วยให้คนเรามีทักษะทางการเงินที่ดีขึ้น (financial literacy)

 

เชื่อหรือไม่ว่าทักษะทางการเงินของคนทั่วไปทั่วโลกอยู่ในระดับแย่กว่าที่ทุกคนคิดมาก คนที่มีทักษะการเงินดีพอใช้ (financial literate) มีแค่ไม่ถึงหนึ่งในสาม  ในประเทศที่เจริญแล้วอย่างสหรัฐฯ เองยังมีผู้ใหญ่เพียง 57% ที่ผ่านเกณฑ์วัดที่สร้างขึ้นในความร่วมมือระหว่างธนาคารโลก Gallup และ มหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน (http://gflec.org/initiatives/sp-global-finlit-survey/)

 

จากเกณฑ์เดียวกันนี้ ผู้ใหญ่ไทยเรามีทักษะดีพอเพียง 27%  จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นกังวลกับปัญหานี้อย่างมาก

 

อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่เลย จากผลสำรวจของ PwC (https://www.pwc.com/us/en/about-us/corporate-responsibility/publications/millenials-financial-literacy-personal-finance.html) คนรุ่น milliennials ที่จะมาเป็นผู้ใช้ฟินเทคในอนาคตยังมีแค่ไม่ถึง 1 ใน 4 ที่มีทักษะการเงินดีพอ  จึงเป็นเรื่องน่าคิดว่าคนเหล่านี้จะบริหารเงินยังไงในโลกที่เงินไหลออกจากกระเป๋าพวกเขาง่ายขึ้นเรื่อยๆ

ในตอนที่ 3 ของบทความซีรีส์ Future of Money เราจะไปดูกันว่าพอจะมีฟินเทคไอเดียเลิศๆ ที่พยายามช่วยแก้ปัญหานี้บ้างไหม

 

ติดตามอ่านตอนแรกที่ : https://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=1363

และตอนที่สองที่ : https://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=1369

 

ช่วยพัฒนาทักษะทางการเงินแต่เล็กๆ

 

หนึ่งในบริษัทฟินเทคที่ผมคิดว่าเข้าท่าที่สุดในการเพิ่มทักษะทางการเงินคือ Greenlight (www.greenlightcard.com)

Greenlight ช่วยให้พ่อแม่สอนการบริหารเงินให้กับลูกๆ แบบง่ายๆ  โดย Greenlight จะเป็นผู้ออกบัตรพลาสติกให้กับเด็กๆ ซึ่งบัตรนี้ก็จะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น (และบัญชีธนาคารของพ่อแม่...)

 

หลังจากสมัครสมาชิกและได้รับบัตร นอกจากพ่อแม่สามารถส่งเงินเข้าไปในบัตรลูกแล้ว ยังสามารถกำหนดได้ด้วยว่าบัตรนี้จะมีวงเงินสำหรับใช้กับร้านค้าใดบ้าง เช่น ร้านหนังสือ ร้านขายน้ำ ฯลฯ  นั่นก็แปลว่าถ้าลูกๆ พยายามจะใช้บัตรเพื่อซื้อสินค้าจากร้านที่อยู่นอกลิสต์นี้ บัตรจะรูดไม่ผ่านและแอปพลิเคชั่นก็จะทำการเตือนพ่อแม่ด้วยว่ามีการนำบัตรนี้ไปรูดในร้านนอกลิสต์  แต่ถ้าหากลูกๆ ไปเดินเล่นแล้วเห็นสินค้าที่อยากได้จริงๆ และราคาเกินวงเงิน ก็สามารถ “ทำเรื่อง” ส่งไปขอให้พ่อแม่อนุมัติได้ผ่านแอปพลิเคชั่นทันที

 

ฟินเทคตัวนี้ตอบโจทย์ทั้งสำหรับผู้ใช้และโจทย์สังคม 

 

ในมุมมองผู้ใช้งาน พ่อแม่เหล่านี้ไม่ต้องลำบากนั่งหาเงินสด แตกแบงก์ อีกต่อไป (ซึ่งเป็นเรื่องยากขึ้นทุกวัน) มีความปลอดภัยสูง (อายัดได้ทันที บัตรหายเงินไม่หาย ไม่เหมือนเงินสดที่พบอีกทีตอนตากผ้า) อีกทั้งยังควบคุมพฤติกรรมการใช้จ่ายได้ตามสะดวก

 

ในมุมมองสังคม นอกจาก Greenlight จะเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การบริหารรายรับรายจ่ายให้กับเด็กๆ แล้ว ยังช่วยให้พ่อแม่สอนให้เด็กเข้าใจการออมง่ายขึ้นด้วย

 

ในจุดนี้ Greenlight จะทำการเสนอทางเลือกให้เด็กๆ ว่าจะออมหรือจะใช้จ่าย โดยที่พ่อแม่เป็นคนตั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเอง  ถือเป็นไอเดียที่เลิศล้ำมาก เนื่องจากเด็กๆ ที่เติบโตขึ้นมาในยุคดอกเบี้ยติดดินหรือติดลบจะเข้าใจได้ยากมากว่าทำไมคนเราถึงควรออม จะตั้งไว้ที่ 10% 20% 30% ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากให้เด็กๆ เห็นคุณค่าและพลังของดอกเบี้ยทบต้น (compound interest) แค่ไหน

 

ช่วยเข้าถึงตลาดทุนโดยอัตโนมัติ

 

อีกหนึ่งปัญหาในมิติของทักษะทางการเงินคือคนจำนวนมากไม่เข้าใจว่าลงทุนทำไม ลงทุนยังไง และลงทุนในอะไร จึงไม่แปลกที่ในหลายประเทศสัดส่วนประชากรที่เข้าถึงตลาดทุนจริงๆ ต่ำมาก  ในประเทศไทยเองมีไม่ถึง 3% (https://www.set.or.th/en/about/annual/annual_p1.html)

 

Acorns เป็นฟินเทคชื่อดังที่ช่วยให้เราลงทุนแบบอัตโนมัติทุกครั้งที่เราจับจ่ายใช้สอย ขอแค่คุณผูกบัตรเดบิตหรือเครดิตกับแอปพลิเคชั่นแล้วใช้จ่ายตามปกติ Acorns จะปัดยอดชำระขึ้นแล้วนำส่วนต่างที่ปัดขึ้นไปลงทุนในพอร์ตที่มีการคัดสรรและ diversified มาอย่างดีแล้ว โดยมีการร่วมมือกับบลจ.รายใหญ่ชื่อดังอย่าง Blackrock ก็มี

หลายคนเคยดูถูก Acorns ในช่วงแรก เนื่องจากไม่เชื่อว่า “การลงทุนด้วยเศษตังค์” จะกลายเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่อย่างมาก ถึงขั้นที่ว่าผู้ใช้จำนวนมากลงทุนเพิ่ม หรือตั้งให้ Acorns แยกเงินออกมาออมไว้โดยอัตโนมัติ แทนที่จะลงทุนจากเศษเงินอย่างเดียว  ซึ่งสะท้อนว่าการทำอะไรให้ง่าย ให้อัตโนมัติ ช่วยสร้างนิสัยใหม่ให้กับคนเราได้จริงๆ

 

ทุกวันนี้ Acorns มองเห็นแล้วว่าตนเป็นมากกว่าแค่ฟินเทคธรรมดา จึงเริ่มสร้าง Grow แพลตฟอร์มนิตยสารการเรียนรู้ เสริมคอนเทนต์ความรู้ด้านการเงินให้กับผู้ใช้ด้วย

 

หวังว่าในอนาคตเราจะได้เห็นฟินเทคที่สามารถช่วยพัฒนาทักษะทางการเงินของพวกเรามากขึ้นครับ


ผู้เขียนเป็นเจ้าของเว็บไซต์ settakid.com ที่วิเคราะห์ประเด็นเปลี่ยนโลกผ่านมุมมองเศรษฐศาสตร์แบบเข้าใจง่ายๆ  คุณ ณภัทร จบปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลและจอนส์ ฮอปกินส์ เคยมีประสบการณ์ทำวิจัยที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ดและธนาคารโลก และสำเร็จการศึกษาปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ประยุกต์อยู่ที่มหาวิทยาลัยมินนิโซต้า เป็นนักเขียนรับเชิญของ stock2morrow และเป็นคอลัมนิสต์ประจำสำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง