เรามักจะเคยได้ยินที่คนพูดกันว่า "High risk → High return" = ยอมเสี่ยงมากก็จะได้มาก วลีนี้มีความหมายแฝงอยู่นะ เพราะมันตีความเพิ่มเติมได้ว่า งั้น "ถ้ายอมเสี่ยงน้อยก็จะต้องได้น้อย" ซึ่งความเป็นจริงมันเป็นแบบนั้นรึเปล่า แต่จริงๆ แล้ว ในเรื่องของ “ความเสี่ยง (Exposure)” นั้นเราควบคุมได้ เรากำหนดระดับของ Stop หรือออกแบบ Position Size ให้มันไม่เสี่ยงเกินไปได้ แปลว่า ถ้าสามารถสร้าง High Return ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมี High Risk เสมอไป ถ้าเรามี Trade Setup ที่ดี เรื่องนี้เทรดมาสักพักก็จะรู้ แต่ที่น่าสนใจคือ ประเด็นมันไม่ได้จบแค่นั้น
แล้วที่พูดกันว่า High Risk → High Return เขาหมายความว่ายังไง สิ่งที่พูดนั้นผิด หรือมีความหมายอย่างอื่นกันแน่ เพราะเท่าที่สังเกตุความเสี่ยงออกแบบและคุมได้แน่นอน แต่ความผันผวน (Volatility) นี่สิ คุมไม่ได้เลย และไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรออกแบบมาให้สามารถคุมความผันผวนของราคาได้ และข้อสังเกตุที่น่าสนใจมากๆ คือ
***High volatility → High return***
ถ้าราคาผันผวนมาก ให้มองเหมือนสัดส่วนในการ Swing มันสูงกว่า ลงลึกกว่าก็มักจะขึ้นแรงกว่า เมื่อรอบมันมาผลตอบแทนเฉลี่ยจะสูงกว่าที่ผันผวนน้อยเสมอ แม้ว่าจะใช้ Trade Setup และ Risk Profile เท่ากันก็ตาม
ยิ่งสังเกตุเพิ่มเติม จะเห็นว่า Volatility มักมีระดับที่เกาะกลุ่ม (Clustering) ซึ่งนำไปออกแบบ Trade Setup ให้เสี่ยงต่ำและสร้างผลตอบแทนที่สูงได้ ก็ลองนำไปพิจารณากันดูครับ
และในบรรดาเครื่องมือทางเทคนิคที่ศึกษามาตลอดนั้น ผมว่าเครื่องมือของคุณ Thomas DeMark มีความพิศดารสุดๆ เขาตั้งโจทย์ในแบบที่คนอื่นคิดไม่ถึง และที่เจ๋งกว่านั้นคือ ออกแบบ Indicator ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ที่เขาต้องการ แบบนี้สิถึงเรียกว่า อัจฉริยะ! ในขณะที่ส่วนใหญ่หาแนวโน้มหลักของราคา (Primary Trend) และหาจังหวะเทรดตามแนวโน้มนั้นๆ ซึ่งก็เป็นวิธีที่ดีและทำกำไรได้ไม่ยาก แต่วิธีดังกล่าวไม่ใช่แนวทางทั้งหมดที่เทรดเดอร์ใช้ เขามองเกมล้ำขึ้นไปอีกขั้นว่า ถ้าจับจังหวะช่วงที่ราคาสร้างจุดสูงสุดได้ และราคายังไม่เริ่มลง เราสามารถเปิด Short ลงมาโดยวาง Risk นิดเดียวได้ และผลคือ Reward-to-Risk Ratio ก็จะสูง จะใช้เครื่องมือนี้ได้จริงต้องอาศัยวิธีคิดที่แตกต่าง แต่แม่นยำอย่างน่ามหัศจรรย์ครับ และตอนนี้โปรแกรมกราฟชื่อดัง Bisnews ก็ใจดีพัฒนาเครื่องมือนี้ขึ้นให้พวกเราได้ใช้กับหุ้นไทยกันด้วย นำลองไปศึกษาดู/คุยแลกเปลี่ยนความรู้กันได้และขอให้โชคดีในการลงทุนกันนะครับ
เกือบลืม เจ้าเครื่องมือของ Thomas DeMark นั้น น่าจะหาเรียนยากอยู่ แต่ถ้าต้องการเรียนกับผมก็มีคอร์สอบรมการใช้เครื่องมือนี้โดยเฉพาะแบบลงลึก ในชื่อ: "New Market Timing Techniques สำหรับหุ้น, Futures และ Options" ซึ่งเปิดให้เรียนได้ในช่วงเดือนมีนาคม 2558 ครับ