สองสิ่งที่มาด้วยกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในรูปแบบไหน คือ อัตราผลตอบแทน กับ ความเสี่ยง คนที่ทำอะไรโดยจ้องมองแต่ผลตอบแทนที่สูง มักมีโอกาสล้มสูง ในขณะที่คนที่มัวแต่กังวลเรื่องความเสี่ยง เงินเก็บสะสมก็ไม่มีวันจะเติบโต ซ้ำร้าย อาจจะถูกกลืนกินด้วยอัตราเงินเฟ้อที่โหดร้าย
ในบทความที่แล้ว เราพูดถึงการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของกลยุทธ์ผ่านกระบวนการทางสถิติ โดยพิจารณาในส่วนของอัตราผลตอบแทนเป็นหลัก ในบทความนี้ ขอพูดในส่วนของความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
ขอให้ท่านลองพิจารณากราฟในภาพข้างล่างนี้ ซึ่งเรียกว่า Equity Curve แสดงถึง การเติบโตของเงินลงทุนของท่านตั้งแต่เริ่มลงทุนมาจนถึงปัจจุบัน
Equity curve ถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการศึกษาประสิทธิภาพของกลยุทธ์ อาทิ เช่น วิเคราะห์อัตราการเติบโตของเงินในพอร์ตว่าเป็นอย่างไร การเติบโตเป็นแบบสม่ำเสมอมั้ย รวมถึง เรายังสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยง ในรูปของ Maximum Drawdown จาก equity curve ได้ด้วยเช่นกัน
มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า drawdown คืออะไร ?
พอเราเริ่มลงทุน ซื้อขายได้ผลกำไร เงินในพอร์ตของเราก็โตขึ้นเรื่อยๆ (สมมุติว่าโตขึ้นจนจำนวนเงินเท่ากับ X บาท) เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง อาจเริ่มมีการซื้อขายที่ขาดทุนเข้ามา ทำให้เงินในพอร์ตเราลดลง ส่วนต่างระหว่างเงินในพอร์ต ณ ปัจจุบัน เทียบกับเงินที่เคยสูงสุดตั้งแต่ซื้อขายมา เรียกว่า drawdown
แล้ว Maximum Drawdown ล่ะ คืออะไร ?
Maximum Drawdown คือ drawdown ที่ติดลบมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา แสดงถึงช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของการเทรดด้วยระบบนั้นๆ ดังแสดงในภาพด้านล่าง ถือเป็นค่าทางสถิติที่นิยมใช้ในการตรวจสอบความเสี่ยงของระบบ
จากตัวอย่างในบทความที่แล้ว เราพูดถึงกลยุทธ์ที่จุดซื้อและจุดขายพิจารณาจากการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยสองเส้น คือ EMA 5 วัน และ EMA 20 วัน พบว่า maximum drawdown อยู่ที่ -32% (ดังแสดงในรูป)
หมายความว่าอะไรครับ???
หากคุณเลือกเทรดด้วยระบบนี้ ขอให้ทำใจว่า อาจมีช่วงใดช่วงหนึ่งในอนาคต ที่เงินในพอร์ตของคุณจะลดจากปริมาณสูงสุดที่เคยมีมา ลงไป 32% หรือมากกว่า
คำถามคือ คุณจะรับได้กับการทนนั่งมองเงินลดลงไปกว่า 30% ได้มั้ยครับ?? หากไม่ได้ ก็คงต้องลองมองหากลยุทธ์อื่นที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า
(ในการเทรดจริง แนะนำให้ maximum drawdown อยู่ไม่เกิน 20% ครับ น่าจะเหมาะสมกับการซื้อขายมากกว่า)
แล้วคุณล่ะครับ เคยวัดประสิทธิภาพของกลยุทธ์ที่คุณใช้เทรดแล้วหรือยัง ? ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมวิเคราะห์ทางสถิติชั้นสูงหรอกครับ เพียงแค่คุณจดบันทึกการซื้อขายของคุณแต่ละครั้ง monitor ระบบอย่างสม่ำเสมอ แล้วสรุปลงโปรแกรมอย่าง Excel ก็ถือว่าเกินพอแล้วครับ ได้ equity ของระบบนั้นๆ ขึ้นมา ก็หา maximum drawdown ได้
อย่าลืมนะครับ การลงทุนมีความเสี่ยง เฉพาะคนที่พร้อมกว่า พยายามมากกว่า และมีวินัยสูงกว่า จึงจะเป็นผู้ชนะในเกม
โชคดีในการเทรดครับ
อาจารย์ Nine
บทความโดย ผศ. ดร.ศุภวัฒน์ สุภัควงศ์ (อาจารย์ Nine)
.
กองทุนส่วนบุคคล Blue-Marlin Waldo (BMW)
กองทุนโรบอท A.I. งานวิจัยของ Think Algo
------------------------------------------------------
สอบถามข้อมูลการลงทุนรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ :
โทร : 02-017-7411
Email : [email protected]
Line@ : https://line.me/R/ti/p/%40dzc4379v