จิม โรเจอร์ เตือนระวังฟองสบู่ Bitcoin
(ที่มาภาพ : economictimes.indiatimes.com)
เมื่อนักลงทุนผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ผ่านประสบการณ์มาอย่างมากมาย อย่างจิม โรเจอร์ ได้ออกมาเตือนผ่านสื่อว่า "เริ่มได้กลิ่นฟองสบู่ Bitcoin" ก่อตัวขึ้นมาแล้ว ถึงแม้จะเป็นแค่ความเห็นของนักลงทุนคนหนึ่ง แต่ก็คุ้มค่ามากที่จะฟังความเห็นของเขา
นอกจากเขาจะพูดถึงเรื่อง Bitcoin แล้ว เขายังพูดถึงสิ่งที่น่าลงทุนและกระแส Fintech ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้
"Bitcoin ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจทุกครั้งที่ได้ดูราคาของมัน มันขึ้นไปรุนแรงมาก ผมแนะนำว่าอย่าไปยุ่งกับมันจะดีกว่า" จิม โรเจอร์ เตือน
"ผมรู้สึกว่าได้กลิ่นฟองสบู่อยู่กลายๆ และจะเป็นฟองสบู่ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่ผมเกิดมาเลย มันเป็นเรื่องจริงที่ว่า สินทรัพย์ที่เป็นฟองสบู่จะขึ้นต่อไปได้เรื่อยๆ เกินกว่ามนุษย์จะจินตนาการได้ ใครๆก็อยากจะมีส่วนร่วมกับส่วนต่างราคาที่ขึ้น พวกเขาคิดว่าจะออกได้ทันก่อนฟองสบู่จะเกิด แต่มีน้อยคนนักที่จะหนีออกมาได้ทัน ทางที่ดีที่สุด คือ อยู่ห่างมันไว้จะดีกว่า .... อย่างไรก็ตาม ผมก็พลาดที่ไม่ได้ซื้อมัน" โรเจอร์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับตลาดหุ้นอเมริกา เขาก็ยังมีมุมมองเชิงบวกสำหรับหุ้นบางตัวเท่านั้น หุ้นที่เขาจะหลีกเลี่ยงเลย เช่น หุ้น Amazon ถึงแม้เขาจะไม่ได้มองแง่ร้ายมากเหมือนเมื่อก่อน (ซึ่งเขาก็มองพลาดอีกนั้นละ) แต่เขาก็แนะนำว่าถ้านักลงทุนมีทางเลือกอื่น ไปมองหาหุ้นที่ต่างประเทศจะดีกว่า เช่นตลาดหุ้นญี่ปุ่น รัสเซีย และประเทศจีน
ต้องยอมรับว่าจิม โรเจอร์ คือแฟนพันธฺุ์แท้ตลาดหุ้นจีนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาไปออกสื่อที่ไหนเขาก็จะแนะนำตลาดหุ้นจีนเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน โรเจอร์ยังเน้นย้ำอีกว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีศักยภาพ เขาเป็นทั้งผู้บริโภคและผู้ส่งออกรายใหญ่ ประชาชนมีวินัยทางการเงินรู็จักอดออมและคนรุ่นใหม่ไม่ยอมเป็นภาระของรัฐบาล
สำหรับปีนี้คาดว่าประเทศจีนน่าจะโตได้ประมาณ 6.9% อย่างไรก็ตามเขาก็ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลใช้งบประมาณและก่อหนี้จำนวนมาก แต่เขาเชื่อว่าประเทศจีนอาจจะหาทางออกคล้ายๆกับประเทศสหรัฐอเมริกาหรืออังกฤตที่พิมพ์เงินออกมา ถ้าให้มองดูรอบๆแล้วประเทศอื่นๆที่เต็มไปด้วยหนี้ ประเทศจีนก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าห่วงแต่อย่างใด...
.
เมื่อกระแสสังคมไร้เงินสด มาเร็วกว่าที่คุณคิด !
เตรียมพร้อมกับสังคมไร้เงินสด (Cashless Society)
จิม โรเจอร์ ให้สัมภาษณ์กับ China Daily ว่า "ลูกๆของผมไม่เคยเดินเข้าธนาคารหรือกดเงินสดจากตู้ ATM เลย ทุกสิ่งทุกอย่างมันถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว" ยิ่งกว่านั้นเงินสดจะค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ คนจะเลิกถือเงินสด แน่นอนว่าสาขาธนาคารจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เราต้องเตรียมรับมือกับเรื่องเหล่านี้
โรเจอร์ ปรากฏตัวในฐานะผู้ให้การสนับสนุนบริษัท Fintech ที่เป็นสตาร์ทอัพของคนรุ่นใหม่ในประเทศจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์หลายบริษัท เช่นบริษัท Tiger Broker โบรคเกอร์หลักทรัพย์ออนไลน์เต็มรูปแบบในประเทศจีน เขาเชื่อว่าทุกๆธุรกิจ ทุกๆอุตสาหกรรมต้องไปเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมฟินเทค และธุรกรรมไร้เงินสดอย่างแน่นอน
เขายังเชื่ออีกว่าสกุลเงินในดิจิตอลมาแน่นอนในอนาคต แต่อาจจะเป็น 10 ปี หรือ 20 ปี แต่จะมาในลักษณะของสิ่งที่ภาครัฐเป็นคนกำหนด คือภาครัฐเป็นคนคิดค้นมันขึ้นมาเอง อาจจะมีร่วมมือกันในแต่ละประเทศ ภูมิภาคเอเชีย ยุโรป หรืออเมริกาด้วยกัน แต่คงไม่ใช่สกุลเงินที่เราเห็นในปัจจุบันอย่าง Bitcoin
ขอบคุณแหล่งข้อมูล :
https://cointelegraph.com/news/jim-rogers-smells-a-bitcoin-bubble
https://www.cryptocoinsnews.com/legendary-investor-jim-rogers-believes-fintech-will-replace-banks-cash/
https://moneymorning.com/2017/10/24/jim-rogers-prepare-for-a-cashless-society/
https://www.marketwatch.com/story/jim-rogers-says-bitcoin-looks-and-smells-like-all-other-investment-bubbles-2017-11-21?link=sfmw_fb