ที่มาภาพ http://www.tipcoasphalt.com/
เจาะโมเดลธุรกิจ TASCO ยางมะตอยแข่งในตลาดโลก กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันจากการฟังรายการย้อนหลัง
ลักษณะธุรกิจ
บริษัทฯ บริษัทย่อย กิจการร่วมค้า และบริษัทร่วม (กลุ่มบริษัทฯ) เป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ยางมะตอยสำหรับนำไปใช้ในการก่อสร้างถนนและซ่อมบำรุงผิวการจราจร ทางยกระดับ ผิวทางวิ่งขึ้นลงของสนามบิน ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคกลุ่มบริษัทฯ ยังได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังผู้นำเข้าและผู้รับเหมาก่อสร้างและซ่อมบำรุงถนนในทวีปแอฟริกา โอชีเนียและอเมริกาเหนือ
หุ้นประเภทนี้เหมาะกับนักลงทุนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้หุ้นวัฐจักร
ที่มาภาพ รายการ Business Model ช่อง Money Channel)
ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- ยางมะตอย ทำมาจากน้ำมันดิบ ดังนั้นนักลงทุนต้องติดตามราคาน้ำมันดิบด้วย
- TASCO มียอดขายในประเทศประมาณ 26% และต่างประเทศ 73% ถ้าคิดเป็นในประเทศแล้วถือว่า TASCO กิน Market Share ค่อนข้างเยอะประมาณ 70%
- ราคาขายในประเทศได้ราคาที่ดีกว่า มาร์จิ้นสูงกว่าประมาณ 20-25% เพราะออกไปนอกประเทศมีคู่แข่ง
- ที่น่าสนใจ คือ มี Market Share ในประเทศจีนประมาณ 10%
- ในปี 2558 บริษัทมีกำไรดี เพราะราคาน้ำมันดิบต่ำ แต่ราคายางมะตอยพุ่งขึ้น กำไรเลยดี
- TASCO ถือว่าเป็นบริษัทสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนั้นนักลงทุนต้องวิเคราะห์และมองประเด็นเรื่องราคายางมะตอย และแนวโน้มราคาน้ำมันดิบให้ได้
- ปี 2558 TASCO มีส่วนต่าง Spread ประมาณ 25 เหรียญ กำไรเลยดี ในขณะที่ปี 2559 ส่วนต่าง Spread เหลือ -10 เหรียญ กำไรเลยไม่ค่อยดีเท่าไร นี้คือตัวอย่างของหุ้นโภคภัณฑ์กำไรมีความผันผวนสูง
- กำไรขั้นต้นของ TASCO อยู่ประมาณเฉลี่ย 20% ลดลงมาเหลือ 12% แต่แนวโน้มราคายางมะตอยครึ่งปีแรกเริ่มดีขึ้น น่าจะทำให้ Spread ส่วนต่างห่างขึ้นกำไรน่าจะกลับมาดีอีกรอบในครึ่งปีหลัง
- หุ้นลักษณะนี้จะเป็นวัฐจักร ช่วงที่ Spread ดี บริษัทก็ดี ถ้า Spread ไม่ดี บริษัทก็จะแย่ เราไม่สามารถระบุไปว่าเป็นหุ้นปันผล เป็นหุ้นลงทุนระยะยาว
- สิ่งสำคัญ คือ ต้องดู ROA ... บริษัทมี ROA ที่สูงมาก
- หนี้สินต่อทุนค่อนข้างต่ำ
- หุ้นประเภทนี้เหมาะกับนักลงทุนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้หุ้นวัฐจักร
ธรรมชาติของธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์จะมี Margin ประมาณ 2-3% แต่นี้ทำได้ประมาณ 13% มันอาจจะเป็นช่วงพีค
ที่มาภาพ รายการ Business Model ช่อง Money Channel)
ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- ธุรกิจประเภทนี้ ผมมองเป็นธุรกิจที่ต้องใช้พลังเยอะ มีสายสัมพันธ์ มีคอนเน็คชั่นระดับหนึ่ง อาจจะเรียกได้ว่า "หุ้นการเมือง" ก็ว่าได้
- ผมชอบตรงมี Market Share เยอะ ประมาณ 70% ถือว่าเป็นรายใหญ่ แต่เราต้องไม่ลืมว่าสาเหตุที่เขากิน Market Share มากนั้นแปลว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดี ความสัมพันธ์ทีดีเหล่านี้ จะยั่งยืนไหมยังเป็นคำถามอยู่
- สินค้าประเภทนี้ เราควบคุมราคาไม่ได้ บางปีดีกำไรก็เยอะ บางปีไม่ดี ราคาน้ำมันดิบสูงมาก กำไรก็น้อยลง
- ผมลองดูผลประกอบการย้อนหลัง เช่นปี 56-57 คิดเป็น Margin ประมาณ 2.4-2.6% นั้นคือ Margin ปกติ แต่อยู่ดีๆก็กลายเป็น Margin 13% สินค้าตัวเดิมแต่ขายได้ราคาดีกว่า มันเป็นเหตุการณ์พิเศษ
- นักลงทุนต้องมองว่า ถ้าบริษัทกลับมามีกำไร 2-3% บริษัทจะอยู่ได้ไหม ไปรอดหรือเปล่า
- เท่าที่ผมดูปริมาณขายของยางมะตอยไม่ได้เพิ่มเลย ลดลงด้วยซ้ำ นี้เป็นความเสี่ยงนะ
- อยากให้สังเกตปี 2558 กำไรเขาดีนะ 5 พันล้าน แต่ปันผลก็ไม่ได้สูงมาก
- ประเด็นสำคัญ คือ ความยั่งยืน Sustainability จะยังอยู่หรือไม่ในอนาคต ตรงนี้เป็นคำถามอยู่
- สมัยหนึ่งธุรกิจขนส่งทางเรือดีมาก บูมมาก จากขาดทุนระดับร้อยล้านมาเป็นกำไรระดับพันล้าน ผมว่าเคสนี้มีลักษณะคล้ายๆกัน
- สินค้าโภคภัณฑ์มีกำไรระดับ 2-3% นี้เป็นเรื่องปกติ แต่พอมากำไรสูงขึ้น 12-13% นี้อาจจะเป็นจุดพีคไปแล้วหรือไม่
- ผมว่าอุตสาหกรรมประเภทนี้ดูยาก ต้องเหมาะประเภทคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ คนที่ติดตามราคายางมะตอย ติดตามราคาน้ำมัน ไม่เหมาะกับคนทั่วๆไป
- ถามว่าเป็นหุ้นปันผลไหม ผมว่าไม่ได้ ปันผลไม่เยอะ กำไรผันผวน
--------------------------------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model รายการ Money Channel : TASCO ยางมะตอยแข่งในตลาดโลก