เจฟฟ เบซอล CEO คนเก่งของ Amazon ก่อนที่เขาจะก้าวมาถึงขนาดนี้ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกรีบกุหลาบ
(ที่มาภาพ : www.zdnet.com)
ถ้าถามว่ายักษ์ใหญ่ค้าปลีกออนไลน์อันดับ 1 ของโลกคือใคร ทุกคนก็ต้องตอบว่าเว็บไซด์ Amazon อย่างแน่นอน นอกจากธุรกิจที่กำลังรุ่งโรจน์แล้ว ราคาหุ้นก็ทำจุดสูงสุดสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างงดงาม แต่รู้หรือไม่ว่า มีเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ Amazon รู้สึกหวั่นเกรงครั้งหนึ่งคือ เจอคู่ปรับ E-commerce เฉพาะทางที่เติบโตเร็วมาก และเป็นอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค จน Amazon เริ่มไม่ไว้ใจแล้วว่า ถ้าปล่อยให้อยู่ต่อไปอาจจะเข้ามาเบียด Amazon อย่างแน่นอน มาดูวิธีการแก้ปัญหาของ Amazon และประวัติของ Quidsi กันครับ
Quidsi เป็นบริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆแห่งหนึ่ง (Quidsi เป็นภาษาลาติน แปลว่า "What if ที่แปลว่า สมมุติว่า") เกิดขึ้นที่เมือง Montclair รัฐ New Jersey ซึ่งทำธุรกิจขายสินค้าแม่และเด็กทุกชนิด ตั้งแต่ผ้าอ้อม ผ้าเช็ดก้นเด็ก เครื่องปั้มนม ตุ๊กตา เครื่องนอน ของบำรุงสุขภาพแม่ นมผง และอีกมากมาย
บริษัท Quidsi ก่อตั้งโดย 2 หนุ่มผู้มีความทะเยอทะยาน คือ มาร์ค ลัวร์ (Marc Lore) และ วินิช บาราร่า (Vinit Bharara) พวกเขาจัดทำเว็บไซด์ขายของออนไลน์สินค้าแม่และเด็กในชื่อ 1800DIAPERS ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Diapers.com ซึ่ง Diapers แปลว่าผ้าอ้อมเด็ก
Marc Lore และ Vinit Bharara ผู้ก่อตั้ง Start-up Diapers.com ที่เติบโตแรงมาก
(ที่มาภาพ : www.nj.com)
ย้อนกลับไปในปี 2005 มาร์ค ลัวร์ และ วินิช บาราร่า สังเกตเห็นว่า ครอบครัวพ่อแม่ที่เป็นมือใหม่มักจะไม่มีเวลาออกไปซื้อสินค้าของใช้เด็ก เพราะต้องดูแลลูกตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นทางบริษัทจะเข้าไปเติมเต็มพ่อแม่ที่ไม่มีเวลาเหล่านั้น พวกเขายินดีไปซื้อของและจัดส่งให้ถึงบ้าน ซึ่งสินค้าราคาถูกเหล่านั้นต้องหาจากโรงงานเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่สินค้าจากโรงงานจะไม่ขายให้กับบริษัทเล็กๆอย่าง Quidsi มาร์ค ลัวร์ จึงหาทางให้โรงงานเห็นว่าเขาจะสั่งสินค้าล๊อตใหญ่ ไม่ใช่แค่ 3-4 ลังอย่างที่โรงงานเข้าใจ ดังนั้นเขาจึงใช้บัตรเครดิตรูดเช่ารถบรรทุกขนาดใหญ่ 2 คันรถ ขับไปที่โรงงาน และสั่งผ้าอ้อมเด็กล็อตใหญ่ประมาณ 200 ลัง ไปส่งให้ตามบ้านเรือน ช่วงเริ่มต้นเป็นสิ่งที่ยากมากเพราะสินค้าขายไม่ออก และผู้บริโภคพ่อแม่รุ่นใหม่ไม่รู้ว่า พวกเขาสามารถสั่งสินค้าให้มาส่งตามบ้านได้ แต่หลังจากทำไปเรื่อยๆธุรกิจก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ
มาร์ค ลัวร์ และ วินิช บาราร่า มีความคิดที่ว่า สินค้าสำหรับเด็กแรกเกิดที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณแม่ คือ"ผ้าอ้อมเด็ก" ถ้าเราสามารถขายผ้าอ้อมเด็กได้ในราคาที่ถูกที่สุด เมื่อคุณแม่ได้ของถูกและประหยัดเงินในกระเป๋าได้ พวกเขาจะซื้อสินค้าชิ้นอื่นๆอีก เช่น เปลอุ้มเด็ก รถเข็นเด็ก ของเล่น คาร์ซีท เป็นต้นนอกจากนี้การบริการเรื่องการส่งสินค้าจะต้องรวดเร็ว ว่องไวและสินค้าจะต้องสมบูรณ์ 100% ถ้าสินค้าไม่สมบูรณ์ยินดีคืนเงินให้เต็มจำนวน สมัยนั้นการแข่งเรื่อง e-commerce ยังไม่รุนแรงเหมือนปัจจุบันทำให้ Diapers.com ถูกจัดอันดับโดยนิตยสาร Inc. magazine ขึ้นเป็นอันดับที่ 35 ที่คนเข้าชมมากที่สุดในอเมริกา อันดับที่ 1 เว็บไซด์ e-commerce สำหรับคุณแม่ ในปี 2009
เรื่องนี้สะเทือนไปเข้าหู เจฟฟ์ เบซอส CEO ของ Amazon เขาเริ่มตระหนักแล้วว่า ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ Quidsi จะใหญ่ขึ้นไม่แพ้ e-bay และจะก้าวมาเป็นคู่แข่งกับ Amazon ได้ในไม่ช้า ดังนั้น เขาจึงเสนอ"ซื้อ"บริษัท Quidsi ทั้งหมด แต่น่าเสียดายที่มาร์ค ลัวร์ และ วินิช บาราร่า ไม่สนใจที่จะขายกิจการ จึงปฏิเสธไป ...
เจฟฟ์ จึงสวมบทโหดใช้วิธีการ "บีบและไล่อัด" Quidsi ให้จมดินกันไปเลย โดยให้ Amazon เข้าไปสำรวจสินค้าใน Quidsi ทั้งหมดและขายในเว็บ Amazon ในราคาที่ต่ำกว่าพร้อมกับส่งฟรีให้อีกด้วย จน Amazon ติดตลาดและแย่งลูกค้าจาก Quidsi ไปพอสมควร Amazon เปิดตลาดใหม่ในชื่อว่า "Amazon Mom" ขายสินค้าแม่และเด็กที่ราคาถูกกว่า (Lower Price) ทาง Amazon กล้าการันตีเลยว่า ถ้าสินค้าทางเว็บขายแพงกว่ายินดีคืนเงิน(ส่วนต่าง)และให้สินค้านั้นไปใช้ฟรีๆโดยไม่เอาคืน
สุดท้าย Quidsi ที่โดนบีบและสู้ไม่ไหวจึงตัดสินใจขายกิจการให้ Amazon ในปี 2010 โดยที่ Amazon ทำตัวเป็นนักลงทุนและผู้ถือหุ้นใหญ่ จะไม่เข้าไปยุ่งในส่วนของการบริหารใดๆทั้งสิ้น
diapers.com รวมกับ Amazon Mom เปิดขายสินค้าแม่และเด็กโดยเฉพาะ
(ที่มาภาพ : www.diapers.com)
นอกจาก Diapers.com แล้ว ทาง Quidsi ยังสร้างเว็บไซด์ขายของอีกหลายเว็บ ได้แก่
Soap.com - ขายสินค้าของชำทั่วไปภายในบ้าน เช่น สบู่ แชมพู น้ำยาล้างจาน
Wag.com - ขายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
BeautyBar.com - ขายสินค้าความสวยความงาม
Casa.com - ขายของใช้ ของตกแต่งบ้าน
YoYo.com - ขายของเล่นเด็ก วีดีโอเกมส์
VineMarket.com - ขายสินค้า ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากธรรมชาติ สินค้าออแกนิกส์
AfterSchool.com - ขายสินค้ากีฬาสำหรับเด็ก อุปกรณ์กีฬา
Bookworm.com - ขายหนังสือ
Look.com - ขายเสื้อผ้าเด็กหญิง เด็กชาย
ต่อมาในเดือนมีนาคมปี 2017 Amazon ประกาศปิดกิจการ Diapers.com และเว็บไซด์ในเครือ Quidsi ทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่า "บริษัทนี้ไม่ทำกำไร" แต่พนักงานทั้งหมดก็ไม่ได้โดนไล่ออก พวกเขาถูกส่งไปยังแผนกอื่นๆในเครือ Amazon แต่ทีมนักพัฒนาซอฟแวร์ของ Quidsi ทั้งหมด ถูกส่งตัวไปที่ธุรกิจใหม่ของ Amazon นั้นคือ " AmazonFresh" ห้างค้าปลีกแบบใหม่ของ Amazon ปิดตำนาน Quidsi เว็บสตาร์ทอัพเล็กๆที่แม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ยังหวั่นเกรง
----------------------------------------------------------------
เขียนโดย SiTh LoRd PaCk
แหล่งเนื้อหาอ้างอิง
https://blog.lnw.co.th/2013/10/11/jeff-story/
https://www.bloomberg.com/news/articles/2013-10-10/jeff-bezos-and-the-age-of-amazon-excerpt-from-the-everything-store-by-brad-stone#p10
https://en.wikipedia.org/wiki/Diapers.com
https://www.recode.net/2017/4/2/15153844/amazon-quidsi-shutdown-explanation-profits
http://archive.fortune.com/galleries/2011/technology/1108/gallery.smartest_people_tech.fortune/2.html
ขอบคุณไฟล์ภาพ
http://www.zdnet.com/article/jeff-bezos-aws-is-a-10bn-business-made-possible-by-failing-frequently/
www.diapers.com/
http://www.nj.com/business/index.ssf/2010/06/diaperscom_with_180m_in_annual.html
หลักสูตร : เปิดมิติกองทุนรวม ใช้กองทุนอย่างไรได้ประโยชน์สูงสุด
กองทุนเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยให้นักลงทุนประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก
แต่ปัจจุบันข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมเยอะมากๆ จนทำให้ไม่เข้าใจว่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องรู้ในการลงทุนในกองทุนรวม
https://www.stock2morrow.com/course/seminar_courses_list.php?id=409