TOP 10 กองทุนในรอบ 3 เดือน
หลังจากเดือนที่ผ่านมานั้น ตลาดหุ้นไทยได้ทะลุผ่าน 1700 จุด แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมีปรับฐานลงไปบ้าง แต่ในภาพรวมนั้นกราฟยังไม่เสียทรงขาขึ้นในภาพใหญ่ วันนี้ขอเชิญนักลงทุนทุกท่านมาดู TOP 10 กองทุนที่ราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา
สำหรับราคาเปลี่ยนแปลงเฉลี่ย ของ TOP 10 กองทุนที่เราเลือกมาให้ดูในวันนี้ ราคาหน่วยลงทุนที่ปรับขึ้นมากที่สุด คือ KFDYNAMIC 67.2% โดยห่างจากลำดับสองกว่า 50% ไล่เรียงลงมาถึงลำดับสุดท้าย KT-EURO 3.54% ซึ่งยังถือว่าสูงมากอยู่ ในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากกว่า 100 จุด แต่สังเกต ได้ว่าTOP 10 กองทุนในรอบนี้ก็ยังมีกองทุนที่ไปลงทุนในต่างประเทศกว่าครึ่งและ ลำดับ 10 ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 3.54% แสดงว่ามีหน่วยลงทุนของกองทุนจำนวนมากปรับตัวลดลงจากราคาซื้อขายครั้งแรกแม้ตลาดจะขึ้นมามาก
สังเกตว่า ราคาเปลี่ยนแปลงเฉลี่ย 1ปี จะมีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาผันผวนน้อยกว่า และถึงแม้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาตลาดหุ้นไหนนั้นเป็นขาขึ้นอย่างสวยงามแต่กลับยังให้ผลตอบแทนต่ำกว่าการถือหน่วยลงทุนเป็นเวลา 1 ปีอยู่มาก และจะสังเกตได้อีกว่า ถึงแม้ราคาเปลี่ยนแปลงเฉลี่ย 3 เดือน ของ KT-EURO ในอันดับที่ 9 กองทุนแต่ยังสูงกว่า KFFIN-D กว่า12% ดังนั้นโดยเฉลี่ระยะสั้นอาจไม่ได้มีผลตอบแทนมากเท่าระยะยาวแม้ว่าตามความรู้สึกแล้วจะมีความรู้สึกว่าการที่ตลาดขึ้นมากๆในช่วงสั้นๆการที่เราถือหุ้นเพียงช่วงสั้นๆอาจจะให้ผลตอบแทนมากกว่าได้
ในแง่ของส่วนเบี่ยงเบนมาตฐานอย่างที่เป็นที่รู้กันว่าว่า ยิ่งน้อยยิ่งดีนั้น จะสังเกตได้ว่า กองทุนที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมี SD มากที่สุด จากกราฟจะเห็นได้ว่ากองทุน KFDYNAMIC ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดทั้งในระยะ 3 เดือน และ 1 ปีกลับมีค่า SD ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับกองทุนอื่นๆดังนั้นบางครั้งการพูดว่า เสี่ยงมากผลตอบแทนมากก็ไม่ได้จริงเสมอไป
ในส่วนของ Sharp Ratio ซึ่งคือ อัตราผลตอบแทนต่อความผันผวน ดังนั้น ค่ายิ่งมากยิ่งดีสังเกตได้ว่า KFFIN-D มี Sharp Ratio สูงสุด ทั้งๆที่ให้ผลตอบแทนต่ำสุดในระยะเวลา 1 ปี เนื่องจากมีค่า SD ต่ำด้วย จึงทำให้ค่า Sharp Ratio พุ่งสูงขึ้น แต่กรณีนี้ไม่เป็นจริงเสมอไปมีกองทุนอีกมาก ที่ให้ผลตอบแทนสูงโดยที่ค่า SD ไม่ได้สูงขึ้นเกินกว่าปกติ
รายละเอียดการลงทุน
KFDYNAMIC
เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือสามารถลงทุนในทรัพย์สินหรือการ หาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด
KFDNM-D
ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยเน้นการกระจายการลงทุนในหุ้นทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีแนวโน้มการเติบโตในอัตราสูง ส่วนที่เหลืออาจนำไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และหรือตราสารทางการเงินอื่น
KFFIN-D
กองทุนจะนำเงินลงทุนไปลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยเน้นการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารแห่งทุนของบริษัทที่จัดอยู่ในภาคธุรกิจประเภทสถาบันการเงิน และ/หรือธนาคารพาณิชย์ ส่วนที่เหลืออาจนำไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินอื่นๆ และหรือเงินฝากรวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด
ASP-CHINA
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นจีน Strategic China Panda Fund บริหารโดย E.I.Sturda PLC กองทุนหลักมีนโยบายการลงทุนในหุ้นของจีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์
KFTHAISM
ลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
TMBCOF
ลงทุนใน UBS (Lux) Equity Fund–China Opportunity (USD) ในหน่วยลงทุนชนิด Class I-A1-acc ซึ่งกองทุนหลักจะลงทุนสองในสามของมูลค่าทรัพย์สิน ในตราสารทุนประเทศจีน
TMBCORMF
ลงทุนใน UBS (Lux) Equity Fund–China Opportunity (USD) ในหน่วยลงทุนชนิด Class I-A1-acc ซึ่งกองทุนหลักจะลงทุนสองในสามของมูลค่าทรัพย์สิน ในตราสารทุนประเทศจีน
JSM
กองทุนจะเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน United Japan Small And Mid Cap Fund (กองทุนหลัก)โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ที่จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดขนาดเล็กถึงกลาง และมีแนวโน้มการลงทุนในระยะยาวที่ดี ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนซือ้ ขายในตลาดหลักทรัพย์ ของประเทศญี่ปุ่น หรือจดทะเบียนจัดตัง้ หรือมีการประกอบกิจการอย่างมีนัยสำคัญในประเทศญี่ปุ่น
UOBSJSM
กองทุนจะเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน United Japan Small And Mid Cap Fund (กองทุนหลัก)โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ที่จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดขนาดเล็กถึงกลาง และมีแนวโน้มการลงทุนในระยะยาวที่ดี ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนซือ้ ขายในตลาดหลักทรัพย์ ของประเทศญี่ปุ่น หรือจดทะเบียนจัดตัง้ หรือมีการประกอบกิจการอย่างมีนัยสำคัญในประเทศญี่ปุ่น
KT-EURO
เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกงอทุน Invesco Continental European Small Cap Equity Fund โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทขนาดเล็กในตลาดยุโรป
- Yoo -
อ้างอิง : Morningstar , www.wealthmagik.com
ข้อมูล ณ วันที่ 21.10.2017 บทความนี้มิได้มีเจตนาชี้นำการลงทุนใดๆ
หลักสูตร : เปิดมิติกองทุนรวม ใช้กองทุนอย่างไรได้ประโยชน์สูงสุด
กองทุนเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยให้นักลงทุนประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก
แต่ปัจจุบันข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมเยอะมากๆ จนทำให้ไม่เข้าใจว่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องรู้ในการลงทุนในกองทุนรวม
อดีตผู้บริหารจากบริษัทหลักทรัพย์โนมูระพัฒนสิน ที่เป็น Key Person ในการพัฒนาระบบ Nomura iFUND ที่รวมกองทุนรวมจากทุก บลจ. ในประเทศไทยมาไว้ใน Platform เดียว ซึ่งทำให้มูลค่า AUM (ทรัพย์สินภายใต้การดูแล) จาก 2พันกว่าล้านบาท เพิ่มเป็นเกือบ 2 หมื่นล้านบาทในช่วงเวลา 3ปี และมีผู้เข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000 คน