#แนวคิดด้านการลงทุน

แนวคิดการลงทุน - Top 10 LTF, ลงทุนกองไหนดี ในช่วงตลาดหุ้น 1700 จุด ?

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
131 views

กำลังจะเข้าช่วงสิ้นปี 2560  เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน ปีเก่ากำลังจะผ่านพ้นไปอีก ปีใหม่กำลังจะเข้ามา พร้อมกับภาวะของตลาดหุ้นไทย ที่ได้มาถึงจุดวัดใจครั้งสำคัญอีกครั้ง สำหรับดัชนี SET ไต่ระดับมาอยู่ที่เหนือ 1,700 จุด อีกครั้ง ช่วงปลายปีแบบนี้ คำถามสำคัญที่มักจะได้ยินกันบ่อยๆ ซื้อ LTF กันหรือยัง ? ใครที่ยังไม่ได้ซื้อ LTF คงรอหาจังหวะลงทุนกันอยู่ แล้วมีกองไหนติดอันดับน่าสนใจบ้าง ?  

 

ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ พนักงานประจำ คงกำลังรอลุ้นรับโบนัสกันอยู่ หรือเจ้าของธุรกิจที่สรุปยอดรายได้ และกำไรสุทธิของปีนี้กัน จึงต้องเริ่มต้นวางแผนการเงินกันตั้งแต่สิ้นปีนี้ก้าวข้ามไปสู่ปีหน้ากันต่อไป  

 

แล้วนำเงินก้อนหนึ่งนี้ไปออมไปลงทุนต่อยอดให้งอกเงยกันอย่างไร?

 

การออมเงินมีหลายรูปแบบ ขอทบทวนจากเลขชั้นประถม กันหน่อย

จากสมการ รายได้ – รายจ่าย = เงินออม แต่ว่าเพียงแค่เราสลับตัวแปรใหม่ รายได้ – เงินออม = รายจ่าย แม้ว่าตัวแปรตัวเดียวกัน แต่กลับให้ความหมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กล่าวคือ เราให้ความสำคัญกับเงินออมก่อนที่จะนำไปใช้จ่าย

 

แล้วจะออมเงินเท่าไหร่ แล้วนำเงินออมไปทำอะไรดีล่ะ?

 

สำหรับสัดส่วนการออมเงินคงบอกเป็นตัวเลขกลมๆ ไม่ได้ เพราะฐานเงินเดือนหรือรายได้ของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป แต่ให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายได้ ออมเงินอย่างน้อย 10 - 20% ของรายได้ในแต่ละเดือน แล้วนำเงินส่วนนี้นำไปทำอะไรต่อ?

 

อีกหนึ่งวิธียอดฮิตของการออมเงินในช่วงสิ้นปีนี้  นอกจากจะได้ผลตอบแทนที่งอกเงย คือ การนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวม หรือ LTF, RMF นอกจากจะเป็นการลงทุนแล้วยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ด้วย ที่นิยมซื้อในช่วงปลายปี เนื่องจากการถือ LTF จะต้องถือประมาณ 5 ปี หรือ 7 ปีปฏิทิน หากซื้อช่วงปลายปี 2560 และขายช่วงต้นปี 2566 นั้นเอง

 

กองทุนเลือกแบบไหนดีล่ะ มีตั้งหลากหลายกองทุน หลายสถาบันที่ขาย เป็นร้อยเป็นพันกองทุนให้เลือกเลย ตัวไหนดีกว่ากัน?

 

เราจึงนำ 4 ขั้นตอน สิ่งที่เราต้องพิจารณาเลือกกองทุน มีดังต่อไปนี้

 

1. ความสม่ำเสมอของอัตราผลตอบแทน (Return) สิ่งแรกๆ ที่นักลงทุนคาดหวังก็คือ ผลตอบแทน เราต้องค้นหากองทุนที่มีผลตอบแทนในระยะยาว อย่างน้อยๆ 5-10 ปี แล้วดูว่าอดีตที่ผ่านมาผลตอบแทนผันผวนมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่ว่าบางปีผลตอบแทนสูงมาก บางปีต่ำมาก แบบนี้สวิงเกินไป ก็ไม่น่าลงทุนนัก

 

2. ขนาดกองทุน (Fund Size) หรือก็คือมูลค่าของสินทรัพย์ที่ผู้จัดการกองทุนบริหารอยู่ หากกองทุนเล็กจนเกินไป เช่น มูลค่าไม่กี่ร้อยล้านบาท ถือว่ากองทุนนั้นจะมีต้นทุนเฉลี่ยที่สูง เพราะค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายก็พอๆ กันหมด หรือว่ากองทุนมีขนาดใหญ่มากเกินไป เช่น มูลค่ามากกว่า 50,000 ล้านบาท ก็มีอุปสรรคในการเลือกหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพได้ หากมีเงินเหลืออยู่อาจจะได้หลักทรัพย์คุณภาพไม่ดีหรือหุ้นไม่มีสภาพคล่องปะปนเข้ามาด้วย ฉะนั้นเลือกกองทุนที่มีขนาดที่เหมาะสม

 

3. เปรียบเทียบข้อมูลด้านความเสี่ยง (Risk) นอกจากผลตอบแทนที่นักลงทุนต้องดูแล้วยังมีด้านความเสี่ยงของการลงทุนด้วยเช่นกัน

กองทุนรวมมีหลากกลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม แต่ละกองก็มีความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป เครื่องมือวัดความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็น

 

ค่าเบต้า (Beta) เป็นตัวที่บอกว่ากองทุนนั้นๆ มีลักษณะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้น SET หรือไม่ ไปมากกว่าหรือน้อยกว่าแค่ไหน

 

ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน หรือ SD : (Standard Deviation) บอกถึงความผันผวนของกองทุนได้ ยิ่ง SD สูง แสดงว่ากองทุนมีความผันผวนสูงเช่นกัน

 

ค่าชาร์ป เรโช (Sharpe Ratio) เป็นอัตราส่วนผลตอบแทนต่อหนึ่งหน่วยความเสี่ยง ยิ่งกองทุนไหนมีค่า Sharpe สูงกว่าแสดงว่าบริหารกองทุนได้มีประสิทธิภาพกว่า ดังนั้นหากกองทุนไหนมีนโยบายใกล้เคียงกัน ก็ให้เลือกกองทุนจากค่า Sharpe

 

4. ความสามารถของผู้จัดการกองทุน (Fund Manager) เนื่องจากว่าเป็นผู้บริหารเงินกองทุนของเรา จึงต้องรู้จักทั้งประวัติ ประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ จรรยาบรรณของผู้จัดการ

 

ทั้งหมดนี้เป็นหลักเกณฑ์ง่าย ๆ สำหรับเลือกออมเงินได้ ลองมาดู Top 10 ของกองทุน LTF

 

 

TOP 10 กองทุน LTF ย้อนหลัง 5 ปี (%ต่อปี) 

(ผลตอบแทนกองทุน LTF ย้อนหลังประจำเดือนกันยายน 2560 จาก morningstarthailand )

 

TOP 10 กองทุน LTF ย้อนหลัง 1 ปี (%ต่อปี)

(ผลตอบแทนกองทุน LTF ย้อนหลังประจำเดือนกันยายน 2560 จาก morningstarthailand)

 

จากสถิติข้อมูลกองทุน LTF ที่ได้รับการจัดอันดับเข้ามา ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 10 - 20 % ต่อปี กันเลยทีเดียว ถือว่าเป็นการนำเงินออมก้อนนี้ไปลงทุนคุ้มค่า ให้งอกเงย และลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย 

 

-----------------------------------------------

เขียนสรุปโดย : Freedom VI

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : morningstarthailand, หนังสืออยากรวย ผมช่วยคุณได้ เขียนโดยคุณมงคล ลุสัมฤทธิ์, FChFP

 

 

"ฉันจะมีบ้านให้ได้..ภายใน1ปี"

คอร์ส สอนฟรี จากประสบการณ์ตรง : 

https://www.facebook.com/property.inspirer/photos/a.1470695836579372.1073741828.1468655150116774/1878367159145569/?type=3&theater 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง