ย้อนไปช่วงต้นปี น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเพลงนี้ "อย่ามนม อย่ามโน ท่องนโม ไว้เลย..." ทั้งบีทดนตรี และเอ็มวี ที่น้องๆ ออกมาเต้นกันจนเคลิ้ม ห้ามมโนกันไม่ไหวเลยทีเดียว เราลองมาพิจารณาดูครับอาการมโน เกิดขึ้นมายังไง อารมณ์พาไป บรรยากาศแวดล้อมพาไป ภาพที่คุณเห็น เรื่องราวที่คุณรับรู้ แต่แค่นั้นมันยังไม่พอที่จะมากระตุ้นมโนคุณนะ ผมว่า ความโลภ ความกลัวนี่ละ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่เป็นตัวเร่งปฏิกริยาให้การมโนนั้น กลายเป็นแอ๊คชั่นขึ้นมาทันที
เรื่องมโนมีอยู่ทุกวงการครับ ในการเทรดก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเทรดด้วยวิธีไหน อาการมโนมันมีผลกับการเทรดของเราทั้งสิ้น ส่วนตัวผมชอบแนวทางเทคนิคอล ที่เน้นความง่าย ไม่ซับซ้อน แต่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ข้อเท็จจริง ตรงนี้ถือเป็นกฎเหล็กในการเทรดที่ต้องเอาไว้สอบทานความคิดเราตลอด ก่อนที่จะตัดสินใจ วางเป้าราคา และจุดเข้าซื้อ เราควรถามตัวเองเสมอว่า เรากำลัง "มโน" อยู่หรือเปล่า เชื่อผมมั้ย ในเทคนิคอล ที่หลายคนบอกว่ามันสร้างขึ้นมาจากสถิติ สร้างมาจากข้อเท็จจริง มันก็ยังสามารถทำให้เรามโนไปได้
ผมยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นการตีไฟโบฯ เพื่อคะเนเป้าราคา คะเนแนวรับ แนวต้าน บอกก่อนเลย แนวไฟโบฯ ที่เราตีนั้นมันคือแนวที่ตีไปในอากาศ แนวเส้นที่ลากไปในอนาคต มันยังมาไม่ถึง เราไม่ทางรู้หรอกว่า ราคาจะวิ่งมาถึงแนวไฟโบฯ เหล่านั้นจริงหรือไม่ แต่เรามักจะเชื่อ และมโนไปเองว่า มัน "น่าจะ" ถึง เพราะเราถูกสอน ถูกบอกให้จำมาแบบนี้ ดังนั้นแนวไฟโบฯ ที่เราตีขึ้นมา เราต้องยอมรับก่อนว่า มันคือ แนวสมมุติ มันคือแนวจินตนาการ อาจจะใส่ความเชื่อ ใส่มโนเข้าไปได้ แต่ต้องหาข้อเท็จจริง มาหักล้างมโนนั้น ไม่ใช่ตีไฟโบฯ เสร็จ เลือกแนว 161.8% เป็นเป้าราคาแล้วนั่งฝันรออย่างเดียว แบบนี้ถ้าราคามันไปถึงแนวนั้น ไปจบที่แนวนั้นจริง ผมบอกเลย คุณโชคดีและฟลุ้คมาก
เพราะแท้จริงแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคือ พิจารณาแนวไฟโบฯ แต่ละแนว ว่ามันมีข้อเท็จจริงอะไรบ้าง ที่จะมาหักล้างมโนที่ว่า ราคาจะวิ่งไปถึงแนวนั้น ข้อเท็จจริงที่ว่า คือมองย้อนกลับไปครับ ถ้าแนวไฟโบฯ ที่คุณกำลังสนใจ มันไปพ้องกับ แนวรับ แนวต้านในอดีต พ้องกับเส้นค่าเฉลี่ยใดๆ พ้องกับเป้าราคาตามรูปแบบราคา (ถ้ามี) หรือพ้องกับจุดสูง จุดต่ำในอดีต แบบนี้เราถึงจะให้ความสำคัญกับแนวไฟโบฯ นั้น เพราะข้อเท็จจริงเหล่านี้มันมาลบมโน มันมาช่วยยืนยันว่า อืม แนวนี้น่าสนใจนะ
เพราะยิ่งแนวไฟโบฯ ที่เราเลือก ไปพ้องกับการตัดสินใจของคนหลายๆ กลุ่ม เช่น บางกลุ่มเลือกที่จะขายที่ไฮเดิม บางกลุ่มวางแผนขายตามแนวต้าน หรือแนวเส้นค่าเฉลี่ย บางกลุ่มวางแผนขายตามเป้าของรูปแบบราคา แสดงว่าแนวนั้นมันเป็นจุดตัดสินใจของคนหลายกลุ่มมากๆ แนวนั้นก็จะเป็นแนวสำคัญ เป็นแนวที่มวลมหาประชาเทรดเดอร์ วางแผนว่าจะออกพร้อมกัน แบบนี้พูดเลยว่า "เป๊ะ"
สิ่งสำคัญที่สุดพึงระลึกไว้ครับ เทคนิคอลมันสร้างขึ้นมาจากข้อเท็จจริง สร้างขึ้นมาจากสถิติ ใช้เพื่อวางแผน และคาดการณ์ แต่ “คาดการณ์กับมโน” นั้น มันต่างกันโดยสิ้นเชิง ใช้ให้ถูกก็ได้เงิน ได้จริต ใช้ผิดนอกจากเสียเงินแล้ว อาจเสียจริตไปเลยก็ได้ เทรดอยู่บนความจริงกันนะครับ ถามตัวเองเสมอว่า สิ่งที่เรานำมาพิจารณามันคือข้อเท็จจริง หรือคิดเอาเอง ซ้อมร้องไว้ครับ "อย่ามนม อย่ามโน"